เรื่องมันเกิดขึ้น ในวันที่ 23 กพ ที่หน้าตึกเอ็มไพร์ฝั่งถนนสาทร เวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง
เราลงรถไฟฟ้าสถานีช่องนนทรี เดินมาตามสกายวอล์คเกอร์ เวลานั้นของคืนวันเสาร์มันมืดมาก และเงียบมากด้วย เราจึงจำเป็นต้องเรียกแท็กซี่เข้าบ้าน เพราะหากเดินก็อันตราย เราตัดสินใจมาเรียกแท็กซี่ตรงที่เกิดเหตุ เพราะมันพอจะมีแสงไฟจากตึกบ้าง
วันนั้นมันเป็นวันที่เราเจอเรื่องแย่ๆ เป็นแบ็คกราวด์ คือเราตั้งใจจะไปงานวันเกิดญาติผู้ใหญ่ เราหอบเค้กสดจากใจกลางเมืองซึ่งจำเป็นต้องนั่งแท็กซี่แอร์เย็นๆไป เพราะว่ามันจะละลาย เค้กสามปอนด์มันหนัก เราเรียกแท็กซี่ตอนช่วงเวลาประมาณห้าโมงเย็น จากถนนจันทน์ไปลาดกระบัง สี่คันไม่ไป ใช้เวลายืนรอเกือบสิบห้านาที เราต้องเดินเปลี่ยนสถานที่เรียก กว่าจะได้แท็กซี่ก็เจอแท็กซี่ไม่รู้ทาง
ความพลาดเราดันให้แท็กซี่วิ่งไปถนนสาทรก่อน แล้วค่อยเข้าไปทางพระรามสี่ ตัดเข้าสุขุมวิท แล้วต่อไปอ่อนนุช จนถึงลาดกระบัง ใช้เวลา เกือบสองชั่วโมง พระเจ้าเราไปถึงคนสุดท้าย คนทุกคนรอเราอยู่คนเดียว แต่ก็ยังดีที่เรามีเค้กติดไม้ติดมือไปด้วย
กลับมาที่เวลาสี่ทุ่มครึ่ง ตรงหน้าตึกเอมไพร์ฝั่งสาทร ตรงแยกนั้นรถติด เพราะรถเยอะ และไฟเขียวไฟแดงนาน เรายืนรอถัดจากสี่แยกประมาณห้าสิบเมตร แต่ยังไม่ถึงตรงทางรถออกของตึกเอ็มไพร์ที่อยู่ติดรัจนาการ ช่วงเวลานั้นมันเงียบ มันมืด มันน่ากลัว มีแท็กซี่อยู่คันนึงจอดอยู่ตรงขารถไฟฟ้า หน้าตึกรัจนาการ จอดทำอะไรก็ไม่รู้ แต่เราเคยเข็ดกับแท็กซี่แบบนี้ เราเลยเลือกที่จะโบกเรียกแบบทั่วๆไปที่เคยทำกัน
ต้องขอกล่าวถึงรายละเอียดของถนนสาทร ถนนสายนี้จะมีการขีดแบ่งเลนส์ ให้มอเตอร์ไซค์ จักรยาน วิ่ง เป็นเลนส์เล็กๆกว้างประมาณ ห้าสิบ ซม อยู่ริมสุดติดฟุตบาืืท ช่วงจังหวะที่เราจะเรียกแท็กซี่ รถเพิ่งปล่อยจากไฟเขียวไฟแดง แล้วยังมีรถออกจากตึกซึ่งเค้าไม่สามารถเลี้ยวออกเลนส์นอกได้ เพราะติดแท็กซี่จอด เค้าต้องเลี้ยวออกเลนส์ที่สอง มันเลยทำให้รถที่วิ่งออกมาจากแยกไฟแดงเสียจังหวะต้องเบรค พอเบรคปุ๊บรถก็เริ่มมาติดออกัน ทันใดนั้นแท็กซี่ตีรถเข้าเลนส์ริมขอบฟุตบาท เพื่อมาจอดรับเรา แต่ว่ามีจักรยานคันนึงปั่นมาอยากเร็ว แล้วทำให้เค้าเสียจังหวะ จักรยานคันนั้นคนปั่นเป็นผู้ชายใส่หมวกกันน็อคสไตล์จักรยาน ใส่เสื้อสีขาว หน้าฝรั่ง อายุประมาณ ยี่สิบแปด ถึงสามสิบแปดปี
เค้าจอดรถจักรยาน แต่จอดปิดทางประตูรถแท็กซี่ด้านหลัง เค้ามองหน้าเราแบบหาเรื่อง แล้วก็ีชี้ไปประตูด้านหน้า
บอกเราว่า
"นี่ไง ไปสิ"
เราเห็นหน้าเค้าหงุดหงิดเห็นเป็นฝรั่งเราเลยบอกว่า " I'm sorry"
เค้าก็ไม่ยอมไป
แล้วมันก็ทำให้รถติด เราเลยเห็นว่ามีแท็กซี่หลายคันรอข้างหลัง ถ้าเปิดคันนี้ไม่ได้เราก็คงเลือกคันใหม่
ปรากฏว่าเค้าตัดสินใจปั่นจักรยานออกไป แต่ก่อนไปเค้าหันมาด่าเราว่า
"อีควายยยยย" เป็นฝรั่งที่พูดไทยชัดมากก
เราตกใจมาก แต่เราก็ต้องรีบขึ้นรถ เพื่อให้ผ่านตรงนี้ไปก่อน
พอนั่งแท็กซี่เราก็เห็นเค้าปั่นจักรยาน ฉวัดเฉวียนปาดไปเลนส์โ้้น้นเลนส์นี้ แล้วเข้าซอยเดียวกันกับเรา้ด้วย
เรามานั่งคิด เราผิดเหรอ เราก็ไม่ได้ตั้งใจ ถ้าจะว่ากันไปจริงๆ ถึงสาทรจะมีเลนส์ให้ปั่นจักรยาน แต่คุณจะไม่สนคนอื่นเลยเหรอ คุณคิดว่าคุณเป็นใครมาสบถคำพูดหยาบๆกับเจ้าของประเทศ คุณเป็นคนที่สร้างคุณงามความดีใ้ห้ประเทศชั้นเหรอ? จริงๆก็แค่คนมาอาศัย มาเป็นแขกประเทศของเรา เราก็เพิ่งเคยเจอ ไหนบอกว่าฝรั่งเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เจอแบบนี้ไม่ไหวค่ะ
เพื่อนๆคิดว่าเราทำถูกไหม ที่เราไม่ตอบโต้ เราไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย แต่ถ้าฝรั่งยังนิสัยเกรียนแบบนี้ เราว่าต่อไปคงจะต้องเจออะไรที่สั่งสอนเค้าบ้างเหมือนกัน
หลับฝันดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน
ปล เพื่อนๆคิดเหมือนเราไหมว่า แท็กซี่ทุกวันนี้เรียกยากมาก แล้งน้ำใจสุดๆ เราเคยเรียกหลายๆที่เพื่อมาสาทร เค้าจะไ่ม่ค่อยมา ไม่ว่าจะกี่โมงกี่ยามก็ตาม และบางที่ที่เป็นสถานที่ที่คนเยอะๆ เช่น มาบุญครอง สยาม อาร์ซีเอ พวกนี้จะคอยบริการต่างชาติและไม่กดมิเตอร์ด้วย แย่อ่ะ อยากฝากเรื่องนี้ไปถึงหูผู้ใหญ่ที่ดูแลเกี่ยวกับพวกนี้เหมือนกัน ขอร้องให้จัดการกับพวกนี้บ้าง ทำงานกันแบบนี้เอาเปรียบผู้บริโภคที่จ่ายเงินให้มากๆเลย
เราเจอฝรั่งไร้มารยาท และจะหาเรื่องเรา
เราลงรถไฟฟ้าสถานีช่องนนทรี เดินมาตามสกายวอล์คเกอร์ เวลานั้นของคืนวันเสาร์มันมืดมาก และเงียบมากด้วย เราจึงจำเป็นต้องเรียกแท็กซี่เข้าบ้าน เพราะหากเดินก็อันตราย เราตัดสินใจมาเรียกแท็กซี่ตรงที่เกิดเหตุ เพราะมันพอจะมีแสงไฟจากตึกบ้าง
วันนั้นมันเป็นวันที่เราเจอเรื่องแย่ๆ เป็นแบ็คกราวด์ คือเราตั้งใจจะไปงานวันเกิดญาติผู้ใหญ่ เราหอบเค้กสดจากใจกลางเมืองซึ่งจำเป็นต้องนั่งแท็กซี่แอร์เย็นๆไป เพราะว่ามันจะละลาย เค้กสามปอนด์มันหนัก เราเรียกแท็กซี่ตอนช่วงเวลาประมาณห้าโมงเย็น จากถนนจันทน์ไปลาดกระบัง สี่คันไม่ไป ใช้เวลายืนรอเกือบสิบห้านาที เราต้องเดินเปลี่ยนสถานที่เรียก กว่าจะได้แท็กซี่ก็เจอแท็กซี่ไม่รู้ทาง
ความพลาดเราดันให้แท็กซี่วิ่งไปถนนสาทรก่อน แล้วค่อยเข้าไปทางพระรามสี่ ตัดเข้าสุขุมวิท แล้วต่อไปอ่อนนุช จนถึงลาดกระบัง ใช้เวลา เกือบสองชั่วโมง พระเจ้าเราไปถึงคนสุดท้าย คนทุกคนรอเราอยู่คนเดียว แต่ก็ยังดีที่เรามีเค้กติดไม้ติดมือไปด้วย
กลับมาที่เวลาสี่ทุ่มครึ่ง ตรงหน้าตึกเอมไพร์ฝั่งสาทร ตรงแยกนั้นรถติด เพราะรถเยอะ และไฟเขียวไฟแดงนาน เรายืนรอถัดจากสี่แยกประมาณห้าสิบเมตร แต่ยังไม่ถึงตรงทางรถออกของตึกเอ็มไพร์ที่อยู่ติดรัจนาการ ช่วงเวลานั้นมันเงียบ มันมืด มันน่ากลัว มีแท็กซี่อยู่คันนึงจอดอยู่ตรงขารถไฟฟ้า หน้าตึกรัจนาการ จอดทำอะไรก็ไม่รู้ แต่เราเคยเข็ดกับแท็กซี่แบบนี้ เราเลยเลือกที่จะโบกเรียกแบบทั่วๆไปที่เคยทำกัน
ต้องขอกล่าวถึงรายละเอียดของถนนสาทร ถนนสายนี้จะมีการขีดแบ่งเลนส์ ให้มอเตอร์ไซค์ จักรยาน วิ่ง เป็นเลนส์เล็กๆกว้างประมาณ ห้าสิบ ซม อยู่ริมสุดติดฟุตบาืืท ช่วงจังหวะที่เราจะเรียกแท็กซี่ รถเพิ่งปล่อยจากไฟเขียวไฟแดง แล้วยังมีรถออกจากตึกซึ่งเค้าไม่สามารถเลี้ยวออกเลนส์นอกได้ เพราะติดแท็กซี่จอด เค้าต้องเลี้ยวออกเลนส์ที่สอง มันเลยทำให้รถที่วิ่งออกมาจากแยกไฟแดงเสียจังหวะต้องเบรค พอเบรคปุ๊บรถก็เริ่มมาติดออกัน ทันใดนั้นแท็กซี่ตีรถเข้าเลนส์ริมขอบฟุตบาท เพื่อมาจอดรับเรา แต่ว่ามีจักรยานคันนึงปั่นมาอยากเร็ว แล้วทำให้เค้าเสียจังหวะ จักรยานคันนั้นคนปั่นเป็นผู้ชายใส่หมวกกันน็อคสไตล์จักรยาน ใส่เสื้อสีขาว หน้าฝรั่ง อายุประมาณ ยี่สิบแปด ถึงสามสิบแปดปี
เค้าจอดรถจักรยาน แต่จอดปิดทางประตูรถแท็กซี่ด้านหลัง เค้ามองหน้าเราแบบหาเรื่อง แล้วก็ีชี้ไปประตูด้านหน้า
บอกเราว่า
"นี่ไง ไปสิ"
เราเห็นหน้าเค้าหงุดหงิดเห็นเป็นฝรั่งเราเลยบอกว่า " I'm sorry"
เค้าก็ไม่ยอมไป
แล้วมันก็ทำให้รถติด เราเลยเห็นว่ามีแท็กซี่หลายคันรอข้างหลัง ถ้าเปิดคันนี้ไม่ได้เราก็คงเลือกคันใหม่
ปรากฏว่าเค้าตัดสินใจปั่นจักรยานออกไป แต่ก่อนไปเค้าหันมาด่าเราว่า
"อีควายยยยย" เป็นฝรั่งที่พูดไทยชัดมากก
เราตกใจมาก แต่เราก็ต้องรีบขึ้นรถ เพื่อให้ผ่านตรงนี้ไปก่อน
พอนั่งแท็กซี่เราก็เห็นเค้าปั่นจักรยาน ฉวัดเฉวียนปาดไปเลนส์โ้้น้นเลนส์นี้ แล้วเข้าซอยเดียวกันกับเรา้ด้วย
เรามานั่งคิด เราผิดเหรอ เราก็ไม่ได้ตั้งใจ ถ้าจะว่ากันไปจริงๆ ถึงสาทรจะมีเลนส์ให้ปั่นจักรยาน แต่คุณจะไม่สนคนอื่นเลยเหรอ คุณคิดว่าคุณเป็นใครมาสบถคำพูดหยาบๆกับเจ้าของประเทศ คุณเป็นคนที่สร้างคุณงามความดีใ้ห้ประเทศชั้นเหรอ? จริงๆก็แค่คนมาอาศัย มาเป็นแขกประเทศของเรา เราก็เพิ่งเคยเจอ ไหนบอกว่าฝรั่งเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เจอแบบนี้ไม่ไหวค่ะ
เพื่อนๆคิดว่าเราทำถูกไหม ที่เราไม่ตอบโต้ เราไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย แต่ถ้าฝรั่งยังนิสัยเกรียนแบบนี้ เราว่าต่อไปคงจะต้องเจออะไรที่สั่งสอนเค้าบ้างเหมือนกัน
หลับฝันดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน
ปล เพื่อนๆคิดเหมือนเราไหมว่า แท็กซี่ทุกวันนี้เรียกยากมาก แล้งน้ำใจสุดๆ เราเคยเรียกหลายๆที่เพื่อมาสาทร เค้าจะไ่ม่ค่อยมา ไม่ว่าจะกี่โมงกี่ยามก็ตาม และบางที่ที่เป็นสถานที่ที่คนเยอะๆ เช่น มาบุญครอง สยาม อาร์ซีเอ พวกนี้จะคอยบริการต่างชาติและไม่กดมิเตอร์ด้วย แย่อ่ะ อยากฝากเรื่องนี้ไปถึงหูผู้ใหญ่ที่ดูแลเกี่ยวกับพวกนี้เหมือนกัน ขอร้องให้จัดการกับพวกนี้บ้าง ทำงานกันแบบนี้เอาเปรียบผู้บริโภคที่จ่ายเงินให้มากๆเลย