เตียบ่อกี้แม้เป็นคนจิตใจไม่เด็ดเดี่ยว แต่เมื่อมีความรักที่สมบูรณ์พร้อมกับเตี่ยเมี่ยงนานวันไปก็จะยิ่งจะทำให้ความรักนั้นมั่นคงอยู่กับคนรักและครอบครัวมากขึ้น

แต่กับคำขอของจิวจี้เยียกทำให้แม้เตียบ่อกี้และเตี่ยเมี่ยงจะมีความรักที่มั่นคงเพียงใดแต่ก็ไม่อาจสมบูรณ์พร้อมของการเป็นสามีภรรยาเพราะการที่ไม่สามารถกราบไหว้ฟ้าดินกันได้ ซึ่งแม้เตียบ่อกี้และเตี่ยเมี่ยงในตอนนั้นจะไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบปีทั้งคู่ย่อมได้คิดโดยเฉพาะสาเหตุนั้นเกิดจากจิวจี้เยียก ทำให้อย่างน้อยเสี้ยวหนึ่งของความคิดโดยเฉพาะเตียบ่อกี้ย่อมต้องคิดถึงจิวจี้เยียกในใจอย่างแน่นอน

จขกท เคยได้ยินคำนี้ไหมครับ? "คนหนุ่มสาวฝันถึงเสรีภาพ แต่เมื่อพวกเขาชรากลับนึกถึงขนบประเพณี"

จึงไม่น่าแปลกใจที่มีข่าวว่าคนสูงอายุหลายคู่ในทั่วโลกลุกขึ้นมาจัดพิธีแต่งงานในช่วงเกือบบั้นปลายของชีวิต นั่นเพราะพิธีแต่งงานที่คนหนุ่มสาวหลายคู่มองเห็นเป็นแค่เปลือก แต่สำหรับคนที่ผ่านโลกมานานหลายคนอาจเห็นว่า "พฤตินัยทางเพศ" ต่างหากที่เป็นแค่เปลือก แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ "จิตวิญญาณของความเป็นสามีภรรยา" ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นหลายคนย่อมมองว่าพิธีแต่งงานจะช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณนั้นได้

คำขอไม่ให้กราบไหว้ฟ้าดินของจิวจี้เยียกจึงไม่ใช่เป็นการทำให้เตียบ่อกี้และเตี่ยเมี่ยงต้องหวาดระแวงในรักแท้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้ทั้งคู่ไม่อาจลืมเลือนจิวจี้เยียกไปจากใจได้ตลอดกาลนั่นเอง