สมมุติ

อันที่จริงมันก็ไม่น่าจะเป็นสมมุติหรอก เพราะชายไทยส่วนใหญ่ต้องเจอเหตุการณ์นี้อยู่แล้ว
สำหรับพวกที่ไม่ได้เรียน รด. / จบ ม.6 / ปวช. / ปวส. หรืออะไรก็แล้วแต่ เอาเป็นว่าไม่ได้จบปริญญาตรี แล้วกันนะ
เราจะไม่ขอพูดถึงแล้วกัน จะขอพูดถึงพวกที่กำลังจะเรียนจบระดับ ปริญญาตรี แล้วจะต้องเข้ารับการคัดเลือกทหารกองเกิน
ในประมาณเดือน เมษายน ของทุกปี ก็จะเป็นเรื่องที่ผ่านเข้ามาให้คิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เข้าเรื่องเลยดีกว่า เรื่องของเรื่องมันก็คือตัวของเราเองนี่แหละ ที่กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาอย่างไรดี ?
กำลังจะจบในเดือนหน้า แล้วต้องเกณฑ์ทหารเดือนเมษายน ซึ่งตัวเราเป็นดังนี้
1. มีงานรอให้ทำเรียบร้อย ผ่านข้อเขียน ผ่านสัมภาษณ์ น้องเข้ามาทำงานเดือนเมษายนได้เลยค่ะ เงินเดือน 22,600 บาท
2. พ่อแม่ ท่านอยากให้ไปเรียนต่อ ปริญญาโท ยังไม่ต้องทำงานหรอกลูก พ่อแม่ยังส่งไหว

ทุกอย่างในชีวิตกำลังไปได้สวย ทุกอย่างอยู่ในการควบคุม(Control) ของเราหมด แม้แต่เรื่องทหารที่คิดว่าไม่น่าจะควบคุมได้
เราก็ยังหาเรื่องไปจัดการมันจนได้ ก็มีการคุยกันต่างๆ นานา เพื่อให้เกิดทางเลือกที่เพิ่มมากขึ้น ดังนี้
1. ไม่ต้องเสี่ยงจับ ยัดเงิน 3 หมื่น จบเลย ถ้าตกลงจะพาตัวเราไปหาหมอคนที่จะตรวจวันนั้น แล้วเขาจะบอกเราไม่ได้ขนาด
2. ลองเสี่ยงจับไป ไม่เสียเงิน โอกาส 50-50 รอดก็แล้วไป ไม่รอดก็ยื่นวุฒิปริญญาตรี ก็เป็นไป 1 ปี แถวบ้านไม่ได้ลงใต้ วิ่งๆ ฝึกอย่างเดียว
3. สมัครไปเลย 6 เดือนจบ

ถ้าโดนเราก็ไปฝึกใน 3 เดือนแรก ที่เหลือจะเป็นการเข้าเวร ก็มาอยู่บ้านได้ พอเข้าเวรก็ไป พอดีบ้านอยู่ติดค่าย...

ถ้าท่านเป็นแบบเรา ท่านจะเลือกทางไหนเหรอ เรากำลังคิดอยู่ ชาย/หญิง ตอบได้หมดนะ