คู่กรรม ละครเล่าประวัติศาสตร์ที่คุณครูต้องแนะนำให้นักเรียนดู

คู่กรรมตอนที่เพิ่งจบลงไปนั้น ช่างอัดแน่นไปด้วยเกร็ดประวัติศาสตร์ของไทยสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี
เล่าเรื่องได้สนุกและเนียนมาก ไม่รู้สึกเลยว่ากำลังถูกยัดเยียดความรู้ขณะนั่งชม
เนื่องจากเกร็ดประวัติศาสตร์ตอนนี้เยอะมาก ขอยกตัวอย่างมาเพียงบางส่วน

- กองพลที่ 15 ทหารชุดแรก เริ่มเดินทางวันศุกร์
ในสมัยนั้น กองทัพที่ 15 (ส่วนหนึ่ง)ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่สำรวจเส้น
ทางของทุกจังหวัดที่เชื่อมต่อกับพม่า และได้วางแผนที่จะสร้างทางรถไฟไป
ยังพม่าซึ่งได้สำรวจไว้แล้ว 8 เส้นทาง นอกจากนั้นยังได้ตัดเส้นทางรถยนต์ด้วย

- รำวงมาตรฐาน
เมื่อช่วงคืนเดือนหงายผ่านไปคืนเดือนมืดเข้ามา ข้าศึกจะมองเห็นจุดยุทธศาสตร์ไม่ชัดเจนจึงพักการรุกราน
ประชาชนชาวไทยได้รับความเดือดร้อน ต่างอยู่ในสถานการณ์ที่หวาดกลัวเป็นอย่างมาก
จึงได้หาวิธีผ่อนคลายความตึงเครียดความหวาดผวา ด้วยการนำศิลปะพื้นบ้านที่ซบเซาไป กลับมาร้องรำทำเพลง นั่นก็คือ “การรำโทน”
จอมพล ป. (แปลก) พิบูลสงคราม ได้เล็งเห็นศิลปะอันสวยงามของไทยที่แสดงออกว่าเป็นชาติที่มีวัฒนธรรม
ท่านจึงได้มอบให้กรมศิลปากรเป็นผู้รับผิดชอบในการปรับปรุงและพัฒนาการรำขึ้นใหม่ให้มีระเบียบแบบแผน
วิธีเล่นคือรำเคลื่อนย้ายเวียนกันไปเป็นวงทวนเข็มนาฬิกา และด้วยเหตุนี้เองจึงได้เปลี่ยนชื่อ “รำโทน” เสียใหม่มาเป็น “รำวง”

- ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย
ในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายรัฐนิยมที่สนับสนุนให้ประชาชนบริโภคก๋วยเตี๋ยว
ซึ่งจอมพล ป. เห็นว่าหากประชาชนหันมาร่วมกันบริโภคก๋วยเตี๋ยว จะเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจของชาติในตอนนั้น
เพื่อให้เงินหมุนเวียนในประเทศ ดังคำกล่าวของจอมพล ป. ในสมัยนั้นว่า
    
"อยากให้พี่น้องกินก๋วยเตี๋ยวให้ทั่วกัน เพราะก๋วยเตี๋ยว มีประโยชน์ต่อ ร่างกาย มีรสเปรี้ยว เค็ม หวานพร้อม
ทำเองได้ในประเทศไทย หาได้สะดวกและอร่อยด้วย หากพี่น้องชาวไทยกินก๋วยเตี๋ยวคนละ หนึ่งชามทุกวัน
วันหนึ่งจะมีคนกินก๋วยเตี๋ยวสิบแปดล้านชาม ตกลงวันหนึ่งค่าก๋วยเตี๋ยวของชาติไทยหนึ่งวันเท่ากับเก้าสิบล้านสตางค์เท่ากับเก้าแสนบาท
เป็นจำนวนเงินหมุนเวียนมากพอใช้ เงินเก้าแสนบาทนั้น ก็จะไหลไปสู่ชาวไร่ ชาวนา ชาวทะเลทั่วกัน
ไม่ตกไปอยู่ในมือใครคนหนึ่งคนใดเพียงคนเดียว และเงินหนึ่งบาทก็มีราคาหนึ่งบาท ซื้อก๋วยเตี๋ยวได้เสมอ
ไม่ใช่ซื้ออะไรก็ไม่ได้เหมือนอย่างทุกวันนี้ซึ่งเท่ากับไม่มีประโยขน์เต็มที่ในค่าของเงิน"

ผัดไทยได้กลายเป็นที่รู้จักของคนต่างชาติตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่เพราะกระแสชาตินิยมที่มองว่าก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารจีนจึงได้ทำให้ผัดไทยเป็นอาหารไทย
ทั้งนี้ผัดไทยในยุคนั้นจะไม่มีหมูเป็นส่วนประกอบ เพราะมองว่าหมูเป็นอาหารของคนจีน
และเปลี่ยนชื่อจาก "ก๋วยเตี๋ยวผัด" เป็น "ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย" ตามชื่อใหม่ของประเทศ

- การกำหนดชื่อคนไทยเสียใหม่
เพราะรัฐเห็นว่าชื่อคนไทยแต่เดิมไม่มีระเบียบ เป็นชื่อไม่ไพเราะก็มี และชื่อไม่แบ่งเพศเป็นหญิงชายก็มาก
จึงมีประกาศมากำหนดเสียใหม่ว่าผู้หญิงควรชื่อแบบไหน ผู้ชายควรชื่อแบบไหน ในประกาศบอกไว้ละเอียด
เช่นชื่อผู้หญิงควรมีความหมายถึงความสวยงาม เครื่องประดับหรือดอกไม้ ส่วนผู้ชายก็ควรชื่ออะไรที่เข้มแข็ง

- จุฬาฯ จะย้ายไปเรียนที่เพชรบูรณ์
สมัยนั้น จอมพล ป. มีนโยบายจะย้ายเมืองหลวงไปเพชรบูรณ์ แต่แพ้การเลือกตั้ง
แต่ได้เสนอร่างพระราชกำหนดระเบียบบริหารนครบาลเพชรบูรณ์ พ.ศ. 2487
และยังแพ้คะแนนเสียงในการเสนอร่างพรบ.สร้างพุทธมณฑล  
จอมพล ป.จึงตัดสินใจลาออกจากรัฐบาล เมืองหลวงเลยยังไม่ถูกย้ายไปไหน

นอกจากนั้นก็ยังมีเกร็ดประวัติศาสตร์ การหลบระเบิด การใช้ผ้าห่มคลุมศีรษะขณะหลบภัยเพื่อพรางตัว
เครื่องบินอยู่ตรงศีรษะแสดงว่าปลอดภัย การไม่กินหมาก ความเป็นไปของเสรีไทนช่วงระยะเวลานั้น
ความรู้เหล่านี้ ถ้าไม่ดูคู่กรรม จะไปหาดูได้ที่ไหน
ขอชื่นชมทีมงานด้วยความจริงใจ
ดอกไม้เยี่ยม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่