เพื่อนจากจีนมาเที่ยวไทย เราก็จะพาเพื่อนไปเที่ยวแถว ม.เกษตร คนไทยก็ทำปกติ โบกแท็กซี่ เปิดประตูถาม ไปมั้ยพี่ อ๋อไม่ไป รถติดไม่ไป หลายคันเลย เพื่อนจีนเลยถาม คุยอะไรกันหรอ เราบอกเค้าไม่ไป555 เค้าก็ห๊ะ ถาม

ช่วงนี้คนไม่ค่อยเที่ยว สถานบันเทิงต่างๆก็ปิด ห้างก็ร้าง ทำงานจากที่บ้าน ลูกค้าคงหายเยอะ นึกถึงสมัยก่อนโบกรถจากเกษตรไปเยาวราช โดนปฏิเสธไป 22 ได้ขึ้นคันที่ 23

เดี๋ยวแท็กซี่เป็นอะไร ปฏิเสธผู้โดยสารประจำ ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนในกรุงเทพก็ตาม ยิ่งวันนี้แถวแยกคอกวัว ถนนข้าวสารนะ คนไทยอย่างหวังเลยว่าจะได้ไปแท็กซี่ง่ายๆ เรียกหลายคันมาก เราก็เห็นว่าในรถไม่มีคนมันก็ไม่เ

วันก่อนไปเข้าคิว taxi ของท่าอากาศยาน ซึ่งปกติต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 50 บาท บวกเพิ่มจากมิเตอร์ แต่ตอนกำลังจะไปขึ้นรถ จนท.ผญ.ที่เคาน์เตอร์ (ใส่ยูนิฟอร์ม) บอกต่อหน้าเราและคนขับว่า บวกเพิ่ม 70 บาทนะ เราก็โอ

ผมเป็นเด็กคนนึงที่ต้้องขึ้นรถเมล์ในช่วงปิดเทอมเพื่อจะไปทำงานกับแม่ปกติก็จะขึินสาย45ที่ช้างเอราวัณพออะไรสักอย่างทำให้เปลี่ยนสายกลายเป็น3-9Eเลยต้องขึ้นที่เทพารักษ์ผมก็ขึ้นปกติแต่สิ่งที่ผมคิดว่าปกติไหมคื

วันนี้หงุดหงิด ฝนก็ตก รถติด น้ำท่วม ลงบันได BTS จะต่อ Taxi ไปจุดหมายปลายทาง รู้สึกดีใจประหนึ่งมีรถฟักทองมารับ เพราะสายตามองไปเห็นมี Taxi สีเหลืองงามอร่ามกำลังเคลื่อนตัวมาจอดปลายบันไดสถานี น้ำตาจะไหล

รถกระบะ tfr ออกเมื่อปี 2535 รถใช้ตั้งแต่ป้ายแดง  หมายเลขทะเบียน บ-00×× ป้ายทะเบียนพื้นสีขาว ตัวอักษรสีดำ ต่อทะเบียนมาทุกปี พอดีขับผ่านด่านตำรวจเรียกโบกให้จอดแล้วสอบถามว่ารถคันนี้สวมทะ

คือผมสงสัยว่าอะไรทำให้เขามีสิทธิโดยชอบธรรม(ที่จะไม่ต้องขออนุญาตกับทางผู้โดยสาร)ในการทอนเงินไม่ครบ จำได้ว่า เมื่อก่อน(หลายปีก่อน) แท็กซี่ทอนเงินครบกันทุกคัน แต่ปัจจุบัน เช่น ค่าโดยสารมิเตอร์อยู่ที่ 8