โครงการบรรพชาสามเณร 126 รูป ประเทศอินโดนีเซีย

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556
โครงการบรรพชาสามเณร 126 รูป ครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศอินโดนีเซีย






ตอน...แรงปะทุแห่งธรรมในอินโดนีเซีย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา



        ในวันนี้ความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาครั้งใหม่ ได้บังเกิดขึ้นแล้วในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่พระพุทธศาสนาเคยเฟื่องฟูมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เห็นได้จากความยิ่งใหญ่ของพุทธสถาน “บุโรพุทโธ” ที่มีอายุนับพันปี และได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก


พุทธสถาน“บุโรพุทโธ”สร้างขึ้นในยุคที่พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเมื่อพันปีที่แล้ว

        ทุกวันนี้ อินโดนีเซียถือว่าเป็นประเทศหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรทั้งประเทศมากที่สุดในอาเซี่ยน คือ 240 กว่าล้านคน ถึงแม้ผู้คนจะมีความแตกต่างกันมากมาย แต่อินโดนีเซียมีสโลแกนว่า Unity in Diversity “หนึ่งเดียวบนความหลากหลาย” หมายความว่า ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข


อินโดนีเซียเป็นประเทศหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก มากกว่า 17,000 เกาะ

        ซึ่งการเดินทางไปจัดงานบวชที่อินโดนีเซียนี้ ได้กำหนดขึ้นในวันที่ 21-31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ที่วิทยาลัยพุทธศรีวิจายะ เมืองบันเตน ซึ่งอยู่ในเกาะชวา ถึงแม้จะมีชาวพุทธอยู่แค่เพียงกลุ่มเล็กๆ และเดือนธันวาคมก็อยู่ในช่วงฤดูมรสุม ฝนตกเกือบทุกวัน แต่มีชาวพุทธให้ความสนใจมาเข้าร่วมงานบรรพชาสามเณร 126 รูป อย่างคึกคักและล้นหลาม โดยมาจากเกาะต่างๆ ทั่วประเทศ


พุทธศาสนิกชนชาวอินโดนีเซียให้ความสนใจเข้าร่วมบวชสามเณรกันมากมาย

        ผู้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้งานนี้เกิดขึ้นได้ คือ ท่านผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศรีวิจายะ คุณสะปาร์ดี้ ที่มั่นใจในระบบการอบรมของมูลนิธิธรรมกาย จนใจเปิดอยากให้มีการอบรมแก่นักศึกษาของตน ท่านจึงทำหน้าที่เป็นครูดีศรีอินโด นำทีมชวนนักศึกษาชายและคุณครูผู้ชายให้มาบวชเกือบหมดโรงเรียน และยังชวนคนในครอบครัวให้มาบวช พร้อมกับบวชเองด้วย


ท่าน ผอ.วิทยาลัยพุทธศรีวิจายะ คุณสะปาร์ดี้(ขวา)
มาร่วมงานวันรวมพลังเด็กดีวีสตาร์ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555


(จากขวาไปซ้าย) ผู้อำนวยการสะปาร์ดี้ ชวนคุณพ่อ(คนกลาง) และลูกชายมาบวช(ซ้าย)

        เรียกว่างานบวชครั้งนี้ เป็นการรวมพลังกันของทั้งบ้านวัดโรงเรียนอย่างครบถ้วน ส่วนนักศึกษาหญิงแม้บวชไม่ได้ แต่ก็มาช่วยเตรียมงานบวชตั้งแต่ตี 4 ถึง 4 ทุ่ม ติดต่อกันทุกวันไม่ขาดเลย


น้องๆ นักศึกษาหญิง วิทยาลัยพุทธศรีวิจายะ
มาช่วยกันเตรียมงานบวชตั้งแต่ ตี 4 ถึง 4 ทุ่ม ด้วยความอะเลิร์ทเบิกบาน


        งานนี้ พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ ราชบัณฑิตได้เมตตาบินข้ามน้ำข้ามทะเล มาเป็นพระอุปัชฌาย์ถึงที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสงบและศักดิ์สิทธิ์


พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์


ได้เมตตาบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเป็นพระอุปัชฌาย์ สามเณร 126 รูป ประเทศอินโดนีเซีย



บรรยากาศพิธีขอบรรพชาของนาคธรรมทายาทที่เป็นไปด้วยความสงบและศักดิ์สิทธิ์



พิธีขอขมาที่เต็มไปด้วยความปีติและปลาบปลื้ม


        ซึ่งสาธุชนชาวพุทธที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานบรรพชา ต่างปลาบปลื้มจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นภาพการบรรพชาของสามเณร 126 รูป เป็นจำนวนมากขนาดนี้”


พุทธศาสนิกชนชาวอินโดนีเซียต่างปลาบปลื้มจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่







แม้แต่นาคธรรมทายาทเองก็รู้สึกตื้นตันจนน้ำตาไหล


        ทางด้านพระอนุรุทธะ เถโร จากศรีลังกาก็ได้ให้เกียรติมาร่วมงานบวชนี้ด้วย ท่านรู้สึกประทับใจและเกิดแรงบันดาลใจอยากที่จะจัดงานบวชแบบนี้บ้างในศรีลังกา เนื่องจากวัฒนธรรมชาวพุทธที่ศรีลังกาไม่มีการบวชระยะสั้น คือบวชแล้วต้องบวชตลอดชีวิต แต่การบวชระยะสั้นอย่างนี้ จะช่วยหล่อหลอมชาวพุทธให้มีโอกาสปฏิบัติตามแบบอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และช่วยกันฟื้นฟูพุทธศาสนาให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง


พระอนุรุทธะ เถโร


นำข่าวงานบรรพชาที่อินโดนีเซีย ลงหนังสือพิมพ์ในประเทศศรีลังกา



พิธีขอสรณคมณ์และศีล นำมาซึ่งความเลื่อมใสศรัทธาให้กับชาวอินโดนีเซีย



สามเณรทุกรูปจะให้ความเคารพกับพระภิกษุมาก
โดยเอาหน้าผากจรดพื้นอย่างประณีต แสดงให้เห็นถึงความเคารพที่ออกมาจากใจจริงๆ


        ส่วนนักร้องมืออาชีพชื่อดัง คุณโอลิเวีย ยูนิต้า ก็ได้ใช้เสียงอันทรงพลังและไพเราะ ขับร้องบทเพลงของตะวันธรรมเป็นภาษาอินโดเซียถึง 4 เพลงด้วยกัน คือชีวิตสมณะ, ผ้าชุดสุดท้าย, วันที่แม่รอคอย และอนุโมทนา โดยใช้เวลาอัดเสียงเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น เธอบอกว่า “ดิฉันภาคภูมิใจที่ได้ร้องเพลงที่หลวงพ่อแต่งค่ะ ดิฉันร้องเพลงอย่างมีความสุข ร้องเพลงไป น้ำตาก็จะไหลไปด้วยค่ะ”


คุณโอลิเวีย ยูนิต้า นักร้องชื่อดังชาวอินโดนีเซีย


        สามเณรธรรมทายาทชาวอินโดนีเซียที่นี่ รักการเรียนรู้มาก เวลามาเข้าอบรมก็จะทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ อาทิเรื่องวัฒนธรรมชาวพุทธ ซึ่งก็ทำให้พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานต่างรู้สึกทึ่งมาก ไม่น่าเชื่อว่าที่อินโดนีเซียจะสามารถสะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ขนาดนี้


สามเณรรับบุญตามแบบอย่างวัฒนธรรมชาวพุทธ



สามเณรนั่งสมาธิกลั่นใจใสใส เพื่อน้อมใจจุดประทีปบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



สามเณรได้ออกบิณฑบาตไปในหมู่บ้านตอนเช้า เพื่อโปรดสาธุชนชาวอินโดนีเซีย


ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่มีภาพการบิณฑบาตแบบนี้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก


พุทธศาสนิกชนต่างพากันออกมาใส่บาตรฉลองสามเณรใหม่ 126 รูป
นับเป็นบุญส่งท้ายปีเก่าที่ปลื้มไม่รู้ลืม ณ วิทยาลัยพุทธศรีวิจายะ


        สิ่งที่ดูจะเป็นไฮไลท์ก็คือ การนั่งสมาธิ ผู้เข้าอบรมทุกคนจะตั้งใจนั่งสมาธิมาก เช่น สามเณร เคนาท อาย่า อะทามา กานา ที่เดินทางจากเกาะลอมบ็อกสองวันสองคืน เพื่อมาบวชโดยเฉพาะ ท่านกล่าวว่า “เมื่อผมวางใจเบาๆ ที่ตรงกลางท้อง จะเริ่มเห็นเป็นแสงสว่างเล็กๆ แล้วก็หายไป ผมก็จะหายใจเข้าลึกๆ แล้วภาวนาสัมมาอะระหัง สักพักแสงสว่างก็มาอีก พอทำไปเรื่อยๆ ก็เห็นองค์พระผุดขึ้นมาแทน ท่านมาแล้วท่านก็หายไป แล้วมีองค์ใหม่ผุดขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้สึกมีความสุขมาก สงบแบบไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน”


สามเณร เคนาท อาย่า อะทามา กานา ชาวอินโดนีเซีย


        ท่าน ผอ.วิทยาลัยพุทธศรีวิจายะ คุณสะปาร์ดี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมเชื่อแล้วว่ามูลนิธิธรรมกาย ช่วยฟื้นฟูพุทธศาสนาในอินโดนีเซียได้จริงๆ ผมจะช่วยขยายเส้นทางเผยแผ่ให้หมู่คณะวัดพระธรรมกายไปทุกเกาะ เพราะพระอาจารย์สอนอย่างง่ายๆ แต่ได้ผลอย่างมหัศจรรย์”


สามเณร สะปาร์ดี้ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศรีวิจายะ ครูดีศรีอินโด
ผู้นำการฟื้นฟูพระพุทธศาสนา (ภาพขณะยังบวชเป็นสามเณร)


ภาพประวัติศาสตร์ในโครงการบรรพชาสามเณร 126 รูป
เพื่อการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในประเทศอินโดนีเซีย


        หลังจากงานบวชสิ้นสุดลง ก็มีการเปิดโปรเจคใหม่ในทันที ซึ่งทีมงานและคณะผู้บริหารจากวิทยาลัยพุทธศรีวิจายะต่างปลื้มล้นปลื้ม ตั้งใจว่าจะจัดอบรมอุบาสิกาแก้วทุกๆ 3 เดือน และจะบรรพชาสามเณรครั้งต่อไปจำนวนมากที่สุด เท่าที่สถานที่รองรับได้ประมาณสัก 500 คน ซึ่งทุกคนพร้อมแล้วที่จะทุ่มเทแรงกายแรงใจ พลิกฟื้นพระพุทธศาสนาในอินโดนีเซีย ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ดังเช่นที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยสร้างไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่