ข่าว-สื่อไทยตื่นหลังสื่อนอกตีข่าว 2 นักปั่นต่างชาติถูกหนุ่มไทยขับปิ๊กอัพเสยดับคู่
สำนักข่าวต่างประเทศโหมกระแสโจมตีข่าวในเมืองไทย อ้างสองชาวต่างชาติผัวเมียถูกหนุ่มไทยขับรถกระบะพุ่งชนดับ เป็นนักปั่นจักรยานรอบโลก ขณะตำรวจท้องที่ระบุเป็นคดีจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดาทั่วไป โดยได้ตั้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุไปแล้ว ไม่มีอะไรซับซ้อน
วันที่ 17 ก.พ.56 เวลา 16.45 น. พล.ต.ต.สมบัติ บัวเรือง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณี สองสามีภรรยาหนุ่มสาวชาวอังกฤษ ถูกหนุ่มไทยขับรถยนต์กระบะพุ่งชนจนเสียชีวิตทั้งคู่ ขณะกำลังปั่นรถจักรยานอยู่บนถนนสาย 304 เขตพื้นที่ ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม ช่วงระหว่างหลัก กม.ที่ 41-42 จาก อ.กบินทร์บุรี มุ่งหน้าสู่ตัว อ.พนมสารคาม ช่องทางขาเข้า หลังจากได้มีสำนักข่าวในต่างประเทศนำเสนอข่าวโจมตีประเทศไทยในเรื่องนี้ว่า
คดีดังกล่าวนี้เป็นเพียงคดีอุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดาทั่วไป ที่ไม่ได้มีความเป็นพิเศษหรือสลับซับซ้อนอะไร หลังจากเกิดเหตุผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน เพราะติดอยู่ภายในซากรถและยังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย และขณะนี้ก็ได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อผู้ก่อเหตุแล้วว่า “ขับรถโดยประมาท จนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ส่วนสื่อต่างชาติจะนำไปเสนอข่าวอย่างไรก็ช่างเขา เพราะทางตำรวจก็ได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเราแล้ว พล.ต.ต.สมบัติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ ได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ (15 ก.พ.56) เวลา 13.30 น. ทาง ร.ต.ต.ชัยยง บุตรวัน ร้อยเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภชัย เหลืองสุขเจริญ พนักงานสอบสวนอาวุโส (ผู้ควบคุมสำนวน) ได้รับแจ้งว่า พบรถยนต์กระบะแบบดัดแปลงสภาพกระบะด้านท้ายเป็นรถตู้บรรทุกถังอ็อกซิเจน ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ทะเบียนป้ายแดงพุ่งชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง และมีคนขับติดอยู่ภายในซากรถ
ทราบชื่อต่อมา คือ นายวรพงษ์ สังฆวัตร อายุ 25 ปี อาศัยอยู่บ้านไม่ทราบเลขที่ ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรกบินทร์บุรี หลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพนมสารคามงัดตัดถ่างนำร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากซากรถมาได้ จึงได้รีบนำส่งไปยัง รพ.พนมสารคามในทันที และจากการตรวจสอบสภาพพื้นที่โดยรอบ ยังพบอีกว่ามีชาย-หญิง ชาวต่างชาติ ลักษณะรูปพรรณเป็นชาวตะวันตกได้ถูกรถยนต์กระบะคันดังกล่าวพุ่งชนจนกระเด็นไปตกไกลจากจุดแรกประมาณ 20 เมตร นอนเสียชีวิตหมกอยู่ภายในป่าละเมาะข้างทางพร้อมด้วยรถจักรยานคันสีดำ 1 คัน และคันสีน้ำเงิน 1 คัน สภาพพังยับยู่ยี่
โดยฝ่ายชายอายุประมาณ 30-40 ปี ถูกแรงพุ่งชนจนกะโหลกศีรษะแตกมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ส่วนฝ่ายหญิง อายุประมาณ 20-30 ปี อยู่ในสภาพกระดูกตามส่วนต่างๆ ของร่างกายหัก ซึ่งครั้งแรกไม่ทราบชื่อทั้งคู่ว่าเป็นใครมาจากไหน สัญชาติอะไร เพราะมีกระเป๋า-เป้ สัมภาระติดตัวมาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บเอาไปตรวจสอบในหลายหลัง และทราบต่อมาว่าเป็นเพียงชาวอังกฤษเท่านั้น
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา
ที่มา
http://77.nationchannel.com/video/328744/
และ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1361109562&grpid=00&catid=&subcatid=
http://oohho.com/feed/ข่าวภูมิภาค/สื่อนอกตีข่าว!%202%20ผัวเมียนักปั่นรอบโลกถูกรถชนตายในไทย
เพื่อนๆ คิดอย่างไรกับความเห็นของตำรวจที่ให้สัมภาษณ์ครับที่ว่า
"คดีดังกล่าวนี้เป็นเพียงคดีอุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดาทั่วไป ที่ไม่ได้มีความเป็นพิเศษหรือสลับซับซ้อนอะไร"
และ
"ส่วนสื่อต่างชาติจะนำไปเสนอข่าวอย่างไรก็ช่างเขา เพราะทางตำรวจก็ได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเราแล้ว"
โดยส่วนตัว มันรู้สึกว่าเสียดายชีวิตของเขาทั้งสองจริงๆ กับเรื่องราวที่เขาทำ ที่เขาเป็น
ผมอยากให้คนใช้รถและถนนคำนึงถึงควาปลอดภัยของตนเองและผู้ร่วมใช้ทางด้วยครับ
สื่อไทยตื่นหลังสื่อนอกตีข่าว 2 นักปั่นต่างชาติถูกหนุ่มไทยขับปิ๊กอัพเสยดับคู่
สำนักข่าวต่างประเทศโหมกระแสโจมตีข่าวในเมืองไทย อ้างสองชาวต่างชาติผัวเมียถูกหนุ่มไทยขับรถกระบะพุ่งชนดับ เป็นนักปั่นจักรยานรอบโลก ขณะตำรวจท้องที่ระบุเป็นคดีจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดาทั่วไป โดยได้ตั้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุไปแล้ว ไม่มีอะไรซับซ้อน
วันที่ 17 ก.พ.56 เวลา 16.45 น. พล.ต.ต.สมบัติ บัวเรือง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณี สองสามีภรรยาหนุ่มสาวชาวอังกฤษ ถูกหนุ่มไทยขับรถยนต์กระบะพุ่งชนจนเสียชีวิตทั้งคู่ ขณะกำลังปั่นรถจักรยานอยู่บนถนนสาย 304 เขตพื้นที่ ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม ช่วงระหว่างหลัก กม.ที่ 41-42 จาก อ.กบินทร์บุรี มุ่งหน้าสู่ตัว อ.พนมสารคาม ช่องทางขาเข้า หลังจากได้มีสำนักข่าวในต่างประเทศนำเสนอข่าวโจมตีประเทศไทยในเรื่องนี้ว่า
คดีดังกล่าวนี้เป็นเพียงคดีอุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดาทั่วไป ที่ไม่ได้มีความเป็นพิเศษหรือสลับซับซ้อนอะไร หลังจากเกิดเหตุผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน เพราะติดอยู่ภายในซากรถและยังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย และขณะนี้ก็ได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อผู้ก่อเหตุแล้วว่า “ขับรถโดยประมาท จนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ส่วนสื่อต่างชาติจะนำไปเสนอข่าวอย่างไรก็ช่างเขา เพราะทางตำรวจก็ได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเราแล้ว พล.ต.ต.สมบัติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ ได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ (15 ก.พ.56) เวลา 13.30 น. ทาง ร.ต.ต.ชัยยง บุตรวัน ร้อยเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภชัย เหลืองสุขเจริญ พนักงานสอบสวนอาวุโส (ผู้ควบคุมสำนวน) ได้รับแจ้งว่า พบรถยนต์กระบะแบบดัดแปลงสภาพกระบะด้านท้ายเป็นรถตู้บรรทุกถังอ็อกซิเจน ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ทะเบียนป้ายแดงพุ่งชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง และมีคนขับติดอยู่ภายในซากรถ
ทราบชื่อต่อมา คือ นายวรพงษ์ สังฆวัตร อายุ 25 ปี อาศัยอยู่บ้านไม่ทราบเลขที่ ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรกบินทร์บุรี หลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพนมสารคามงัดตัดถ่างนำร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากซากรถมาได้ จึงได้รีบนำส่งไปยัง รพ.พนมสารคามในทันที และจากการตรวจสอบสภาพพื้นที่โดยรอบ ยังพบอีกว่ามีชาย-หญิง ชาวต่างชาติ ลักษณะรูปพรรณเป็นชาวตะวันตกได้ถูกรถยนต์กระบะคันดังกล่าวพุ่งชนจนกระเด็นไปตกไกลจากจุดแรกประมาณ 20 เมตร นอนเสียชีวิตหมกอยู่ภายในป่าละเมาะข้างทางพร้อมด้วยรถจักรยานคันสีดำ 1 คัน และคันสีน้ำเงิน 1 คัน สภาพพังยับยู่ยี่
โดยฝ่ายชายอายุประมาณ 30-40 ปี ถูกแรงพุ่งชนจนกะโหลกศีรษะแตกมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ส่วนฝ่ายหญิง อายุประมาณ 20-30 ปี อยู่ในสภาพกระดูกตามส่วนต่างๆ ของร่างกายหัก ซึ่งครั้งแรกไม่ทราบชื่อทั้งคู่ว่าเป็นใครมาจากไหน สัญชาติอะไร เพราะมีกระเป๋า-เป้ สัมภาระติดตัวมาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บเอาไปตรวจสอบในหลายหลัง และทราบต่อมาว่าเป็นเพียงชาวอังกฤษเท่านั้น
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา
ที่มา http://77.nationchannel.com/video/328744/
และ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1361109562&grpid=00&catid=&subcatid=
http://oohho.com/feed/ข่าวภูมิภาค/สื่อนอกตีข่าว!%202%20ผัวเมียนักปั่นรอบโลกถูกรถชนตายในไทย
เพื่อนๆ คิดอย่างไรกับความเห็นของตำรวจที่ให้สัมภาษณ์ครับที่ว่า
"คดีดังกล่าวนี้เป็นเพียงคดีอุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดาทั่วไป ที่ไม่ได้มีความเป็นพิเศษหรือสลับซับซ้อนอะไร"
และ
"ส่วนสื่อต่างชาติจะนำไปเสนอข่าวอย่างไรก็ช่างเขา เพราะทางตำรวจก็ได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเราแล้ว"
โดยส่วนตัว มันรู้สึกว่าเสียดายชีวิตของเขาทั้งสองจริงๆ กับเรื่องราวที่เขาทำ ที่เขาเป็น
ผมอยากให้คนใช้รถและถนนคำนึงถึงควาปลอดภัยของตนเองและผู้ร่วมใช้ทางด้วยครับ