การกลับมาของ นิโคลัส สปาร์ก กับการหยิบนิยายเล่มล่าสุดมาทำเป็นหนัง หลัง The Lucky One ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ฉบับหนังกลับง่อยนเสียจนแฟนหนังสือยังไม่อยากแล ต่อให้มีแซค แอฟรอนเป็นพระเอกก็ตามที
(แต่หนังได้คะแนนสูงสุดในบรรดาหนังที่สร้างจากวรรณกรรมของสปาร์กเลยทีเดียว)
หนังที่สร้างจากนิยายของสปาร์ก มักไม่ค่อยได้ขายดาราเท่าไรนัก จะเห็นได้ว่าหนังแต่ละเรื่องจะไม่หยิบดาราประเภทที่ดังระเบิดมารับบทนำ แต่จะใช้แค่ดาราพอมีชื่อเสียงเพียง 1 คนมารับบท ไม่ว่าจะบทพระ หรือ บทนาง
The Lucky One (2011) แซค แอฟรอน และ เทย์เลอร์ ชิลลิ่ง
ที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้สงเสริมอาชีพนักแสดงของใครก็ตามในเรื่องเลย
The Last Song (2010) เลียม เฮมส์เวิร์ธ และ ไมลี่ย์ ไซรัส
ก่อนที่นายเลียม จะมาชวนกรี๊ดและกลายเป็นที่จับตามองใน The Hunger Games
Dear John (2010) แชนนิ่ง เททัม และ แอมนด้า เซย์ฟรีด
นี่เป็นหนังลำดับที่ 2 ของสปาร์กที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้านรายได้ โดยเป็นหนังรักที่สามารถทำรายได้อย่างงดงาม และ แจ้งเกิดดาราหน้าใหม่ อย่าง อแมนด้า เซย์ฟรีด อย่างเต็มตัว (แม้เราจะพอคุ้นหน้าเธอใน Mamma Mia หรือ Chole มาบ้าง)
Night In Rodente (2008) มี ริชาร์ดเกีย และ ไดแอน เลน
The Notebook (2004) ไรอัน กอสลิง และ ราเชล แมคอดัม
ในสมัยที่ทั้งคู่ยังเป็นแค่ดาราแุถวสอง
A Walk To Remember (2002) เชน เวสต์ และ แมนดี้ มัวร์
ที่หนังเรื่องนี้พาแมนดี้ มัวร์กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในบท สาวเรียบร้อยป่วยเป็นโรคลูคีเมีย และ เชน เวสต์ขึ้นแท่นหนุ่มฮอตในชั่วพริบตา
และล่าสุดในปี 2013 กับการหยิบวรรณกรรมเล่ม(เกือบ)ล่าสุดมาทำเป็นหนัง โดยได้ จอช ดูฮาเมล และ จูเลี่ยน ฮัช มารับบทนำ
หนังไม่ค่อยมีแรงลุ้นแรงเชียร์เท่ากับ The Lucky One ยิ่งเห็นดาราแล้วยิ่งไม่ค่อยจะชวนหืออือ เท่าไหร่ แต่นี่กลับเป็นอีก 1 เรื่อง ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบของ Base On Novel จาก นิโคลัส สปาร์ก
Safe Haven ฉบับหนัง สนุกและดีมาก เกินกว่าที่คิดไว้เลยทีเดียว
กล่าวกันว่าแฟนหนังสือของนิโคลัส สปาร์ก มักเป็นหญิงสาวโลกสวย มองโลกสวยงาม บ้าความโรแมนติค นั่นทำให้แม้หนังสือของนิโคลัส สปาร์ก จะขายดีหรือถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จแค่ไหน ก็ยังมิวายถูกนักเขียน หรือ นักอ่านหนังสือประเภทอื่นๆ เยาะว่า สปาร์ก เขียนเป็นแต่นิยายน้ำเน่า
ซึ่งนั่นก็เป็นความจริง แต่ก็ไม่ทั้งหมด
เหตุที่ Dear John ทำรายได้อย่างดงาม นอกจากฝีมือการกำกับที่ดี การแสดงที่ยอดเยี่ยม ยังต้องขอบคุณบทประพันธ์ของสปาร์กด้วย ที่ทำให้่ตอนจบทั้งคู่ไม่ได้ครองรักกันแบบนิยายน้ำเน่าเรื่องอื่นๆ
(อันที่จริง นิยายของสปาร์ก ก็ไม่ได้จบด้วยการครองคู่เสมอไป)
นอกเหนือจากความน้ำเน่าของเนื้อหาในนิยายของสปาร์กแล้ว จุดเด่นที่ถูกใจแฟนหนังสือมาก และ ขาดไม่ได้ในนิยายเกือบทุกเรื่องที่สปาร์กเขียนคือ "เรื่องหักมุม"
สำหรับคนดูหนัง เรื่องหักมุมในหนังโรแมนติค อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ไม่ได้พบได้บ่อยๆ
หนังที่สร้างจากนิยายของสปาร์กเองก็ มีเรื่องหักมุมเกือบจะทุกเรื่อง ขั้นตอนนี้เองที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการสร้างมันภาพยนตร์ ผู้กำกับจะสามารถปิดพรางเรื่องหักมุมได้ดีแค่ไหน ซึ่งขอปรบมือให้กับ Safe Haven แรงๆและดังๆ ที่ถ่ายทอดจากหนังสือสู่ภาพยนตร์ได้งดงามมาก
ในฐานะแฟนหนังสือ Safe Haven ไม่ทำให้ผิดหวัง และ ดีเกินกว่าที่คาดไว้มากๆ
และสำหรับแฟนหนัง นี่เป็นหนังโรแมนติึค คันทรี่ สไตล์ ที่ไม่ได้มีฉากหลังเป็นรักหวานแหววในเมืองใหญ่ แต่มันเกิดในชนบทอันห่างไกล ที่ไม่ได้น้ำเน่าเกินเหตุแบบที่คิดไว้แน่นอนค่ะ แนะนำเลย ^^
Bottom Line
และถึงแม้ว่า Safe Haven จะมีพลอตคล้ายกับ The Perfect Husband ของ Lisa Gardner ที่ตีพิมพ์ในปี 1998 มากๆก็ตามที แต่นิยายของลิซ่า เป็นแนว Romactic suspence ในเชิงสืบสวนสอบสวนเสียมากกว่า (ซึ่งเราว่าสนุกกว่ามาก) เอาเป็นว่าใครชอบ Safe Haven แต่อยากอ่านนิยายแบบแนวสืบสวนก็แนะนำ The Perfect Husband ที่พลอตเกือบจะเหมือนกันเป๊ะไว้แล้วกันค่ะ มีฉบับแปลไทยด้วยในชื่อ รักซ่อนร้าย
เกี่ยวกับนักแสดง พอดีเราเป็นแฟนคลับเลิฟเวอออออออออร์ ของ จอช ดูฮาเมล เลยรู้สึกมีความสุขมาก จอช น่ารักมากกกกก น่ารักจริงๆ รับบทเป็นคุณพ่อลูกสองที่น่ารักสุดๆ >< ส่วนน้องจูเลี่ยนก็ดูบ้านๆ ธรรมดา น่ารักมาก ยิ่งนักแสดงเด็กในเรื่อง ยิ่งแสดงได้น่ารักมาก (ไปแคสต์มาจากไหนไม่รู้) และเมืองในหนังก็ดูเงียบสงบและสวยมาก ดูแล้วอยากไปดูซ้ำเลย
Safe Haven : นิยายเรื่องล่าสุดของ นิโคลัส สปาร์ก กับการสร้างเป็นภาพยนตร์
(แต่หนังได้คะแนนสูงสุดในบรรดาหนังที่สร้างจากวรรณกรรมของสปาร์กเลยทีเดียว)
หนังที่สร้างจากนิยายของสปาร์ก มักไม่ค่อยได้ขายดาราเท่าไรนัก จะเห็นได้ว่าหนังแต่ละเรื่องจะไม่หยิบดาราประเภทที่ดังระเบิดมารับบทนำ แต่จะใช้แค่ดาราพอมีชื่อเสียงเพียง 1 คนมารับบท ไม่ว่าจะบทพระ หรือ บทนาง
The Lucky One (2011) แซค แอฟรอน และ เทย์เลอร์ ชิลลิ่ง
ที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้สงเสริมอาชีพนักแสดงของใครก็ตามในเรื่องเลย
The Last Song (2010) เลียม เฮมส์เวิร์ธ และ ไมลี่ย์ ไซรัส
ก่อนที่นายเลียม จะมาชวนกรี๊ดและกลายเป็นที่จับตามองใน The Hunger Games
Dear John (2010) แชนนิ่ง เททัม และ แอมนด้า เซย์ฟรีด
นี่เป็นหนังลำดับที่ 2 ของสปาร์กที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้านรายได้ โดยเป็นหนังรักที่สามารถทำรายได้อย่างงดงาม และ แจ้งเกิดดาราหน้าใหม่ อย่าง อแมนด้า เซย์ฟรีด อย่างเต็มตัว (แม้เราจะพอคุ้นหน้าเธอใน Mamma Mia หรือ Chole มาบ้าง)
Night In Rodente (2008) มี ริชาร์ดเกีย และ ไดแอน เลน
The Notebook (2004) ไรอัน กอสลิง และ ราเชล แมคอดัม
ในสมัยที่ทั้งคู่ยังเป็นแค่ดาราแุถวสอง
A Walk To Remember (2002) เชน เวสต์ และ แมนดี้ มัวร์
ที่หนังเรื่องนี้พาแมนดี้ มัวร์กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในบท สาวเรียบร้อยป่วยเป็นโรคลูคีเมีย และ เชน เวสต์ขึ้นแท่นหนุ่มฮอตในชั่วพริบตา
และล่าสุดในปี 2013 กับการหยิบวรรณกรรมเล่ม(เกือบ)ล่าสุดมาทำเป็นหนัง โดยได้ จอช ดูฮาเมล และ จูเลี่ยน ฮัช มารับบทนำ
หนังไม่ค่อยมีแรงลุ้นแรงเชียร์เท่ากับ The Lucky One ยิ่งเห็นดาราแล้วยิ่งไม่ค่อยจะชวนหืออือ เท่าไหร่ แต่นี่กลับเป็นอีก 1 เรื่อง ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบของ Base On Novel จาก นิโคลัส สปาร์ก
Safe Haven ฉบับหนัง สนุกและดีมาก เกินกว่าที่คิดไว้เลยทีเดียว
กล่าวกันว่าแฟนหนังสือของนิโคลัส สปาร์ก มักเป็นหญิงสาวโลกสวย มองโลกสวยงาม บ้าความโรแมนติค นั่นทำให้แม้หนังสือของนิโคลัส สปาร์ก จะขายดีหรือถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จแค่ไหน ก็ยังมิวายถูกนักเขียน หรือ นักอ่านหนังสือประเภทอื่นๆ เยาะว่า สปาร์ก เขียนเป็นแต่นิยายน้ำเน่า
ซึ่งนั่นก็เป็นความจริง แต่ก็ไม่ทั้งหมด
เหตุที่ Dear John ทำรายได้อย่างดงาม นอกจากฝีมือการกำกับที่ดี การแสดงที่ยอดเยี่ยม ยังต้องขอบคุณบทประพันธ์ของสปาร์กด้วย ที่ทำให้่ตอนจบทั้งคู่ไม่ได้ครองรักกันแบบนิยายน้ำเน่าเรื่องอื่นๆ
(อันที่จริง นิยายของสปาร์ก ก็ไม่ได้จบด้วยการครองคู่เสมอไป)
นอกเหนือจากความน้ำเน่าของเนื้อหาในนิยายของสปาร์กแล้ว จุดเด่นที่ถูกใจแฟนหนังสือมาก และ ขาดไม่ได้ในนิยายเกือบทุกเรื่องที่สปาร์กเขียนคือ "เรื่องหักมุม"
สำหรับคนดูหนัง เรื่องหักมุมในหนังโรแมนติค อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ไม่ได้พบได้บ่อยๆ
หนังที่สร้างจากนิยายของสปาร์กเองก็ มีเรื่องหักมุมเกือบจะทุกเรื่อง ขั้นตอนนี้เองที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการสร้างมันภาพยนตร์ ผู้กำกับจะสามารถปิดพรางเรื่องหักมุมได้ดีแค่ไหน ซึ่งขอปรบมือให้กับ Safe Haven แรงๆและดังๆ ที่ถ่ายทอดจากหนังสือสู่ภาพยนตร์ได้งดงามมาก
ในฐานะแฟนหนังสือ Safe Haven ไม่ทำให้ผิดหวัง และ ดีเกินกว่าที่คาดไว้มากๆ
และสำหรับแฟนหนัง นี่เป็นหนังโรแมนติึค คันทรี่ สไตล์ ที่ไม่ได้มีฉากหลังเป็นรักหวานแหววในเมืองใหญ่ แต่มันเกิดในชนบทอันห่างไกล ที่ไม่ได้น้ำเน่าเกินเหตุแบบที่คิดไว้แน่นอนค่ะ แนะนำเลย ^^
Bottom Line
และถึงแม้ว่า Safe Haven จะมีพลอตคล้ายกับ The Perfect Husband ของ Lisa Gardner ที่ตีพิมพ์ในปี 1998 มากๆก็ตามที แต่นิยายของลิซ่า เป็นแนว Romactic suspence ในเชิงสืบสวนสอบสวนเสียมากกว่า (ซึ่งเราว่าสนุกกว่ามาก) เอาเป็นว่าใครชอบ Safe Haven แต่อยากอ่านนิยายแบบแนวสืบสวนก็แนะนำ The Perfect Husband ที่พลอตเกือบจะเหมือนกันเป๊ะไว้แล้วกันค่ะ มีฉบับแปลไทยด้วยในชื่อ รักซ่อนร้าย
เกี่ยวกับนักแสดง พอดีเราเป็นแฟนคลับเลิฟเวอออออออออร์ ของ จอช ดูฮาเมล เลยรู้สึกมีความสุขมาก จอช น่ารักมากกกกก น่ารักจริงๆ รับบทเป็นคุณพ่อลูกสองที่น่ารักสุดๆ >< ส่วนน้องจูเลี่ยนก็ดูบ้านๆ ธรรมดา น่ารักมาก ยิ่งนักแสดงเด็กในเรื่อง ยิ่งแสดงได้น่ารักมาก (ไปแคสต์มาจากไหนไม่รู้) และเมืองในหนังก็ดูเงียบสงบและสวยมาก ดูแล้วอยากไปดูซ้ำเลย