ก่อนอื่นมาดูก่อนว่านิ่วสตรูไวท์เกิดจากอะไร
มันเกิดจากว่าในสภาวะที่มีแมกนีเซียมเข้มข้นมารวมกันกับแอมโมเนียมและฟอสเฟตตามนี้
ตอนที่ทั้ง 3 สารนี้มารวมกันเป็นผลึกจะมารวมกันด้วยอัตราส่วน 1:1:1 (ดูจากประจุจะรวมกันเป็นศูนย์พอดี)
และการรวมกันจะเกิดในสภาวะที่เป็นด่าง ที่ pH 10 ผลึกของสตรูไวต์จะตกตะกอนดีที่สุด แต่เมื่อเริ่มเป็นกรดอ่อนและน้ำน้อย จนเป็นด่างจากแอมโมเนีย (ฉี่แมว) ก็จะเกิดเป็นคราบพลาคแล้ว เป็นตะกอนแขวนลอยมาเกาะตามท่อปัสสาวะ และเมื่อเป็นผลึกใหญ่ขึ้นก็จะอุดตันท่อปัสสาวะ เป็นผลให้เป็นนิ่วและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ซึ่งจากปฏิกิริยาเคมีดังกล่าว เราจะคุมไม่ให้เกิดได้ก็จะต้อง
1) กินอาหารที่มีแมกนีเซียมและฟอสเฟตต่ำ เนื่องจากแอมโมเนียอยู่ในฉี่แมวจะคุมไม่ได้
2) กำจัดฟอสเฟตไม่ให้เข้าไปในร่างกายมากเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดผลึกใหม่ มีหลายวิธี เช่น …… (ดูรูปข้างล่าง)
- เสริมธาตุเหล็กในรูปฟอร์ริก (ประจุ 3+) ---- ไม่แนะนำให้ทำเอง
- เสริมอลูมินัมในน้ำดื่มหรืออาหาร (การแกว่งสารส้มจะให้อลูมินัมละลายน้ำไปจับฟอสเฟต)
3) กินน้ำให้เยอะมากขึ้น เพื่อให้ไปเจือจางฉี่ หากน้ำเยอะผลึกจะไม่ตกตะกอน เพราะแมกนีเซียมจะรวมตัวได้ในสภาวะสารละลายเข้มข้น ----- เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลที่สุด
มาป้องกันการเกิดนิ่วสตรูไวท์กัน
มันเกิดจากว่าในสภาวะที่มีแมกนีเซียมเข้มข้นมารวมกันกับแอมโมเนียมและฟอสเฟตตามนี้
ตอนที่ทั้ง 3 สารนี้มารวมกันเป็นผลึกจะมารวมกันด้วยอัตราส่วน 1:1:1 (ดูจากประจุจะรวมกันเป็นศูนย์พอดี)
และการรวมกันจะเกิดในสภาวะที่เป็นด่าง ที่ pH 10 ผลึกของสตรูไวต์จะตกตะกอนดีที่สุด แต่เมื่อเริ่มเป็นกรดอ่อนและน้ำน้อย จนเป็นด่างจากแอมโมเนีย (ฉี่แมว) ก็จะเกิดเป็นคราบพลาคแล้ว เป็นตะกอนแขวนลอยมาเกาะตามท่อปัสสาวะ และเมื่อเป็นผลึกใหญ่ขึ้นก็จะอุดตันท่อปัสสาวะ เป็นผลให้เป็นนิ่วและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ซึ่งจากปฏิกิริยาเคมีดังกล่าว เราจะคุมไม่ให้เกิดได้ก็จะต้อง
1) กินอาหารที่มีแมกนีเซียมและฟอสเฟตต่ำ เนื่องจากแอมโมเนียอยู่ในฉี่แมวจะคุมไม่ได้
2) กำจัดฟอสเฟตไม่ให้เข้าไปในร่างกายมากเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดผลึกใหม่ มีหลายวิธี เช่น …… (ดูรูปข้างล่าง)
- เสริมธาตุเหล็กในรูปฟอร์ริก (ประจุ 3+) ---- ไม่แนะนำให้ทำเอง
- เสริมอลูมินัมในน้ำดื่มหรืออาหาร (การแกว่งสารส้มจะให้อลูมินัมละลายน้ำไปจับฟอสเฟต)
3) กินน้ำให้เยอะมากขึ้น เพื่อให้ไปเจือจางฉี่ หากน้ำเยอะผลึกจะไม่ตกตะกอน เพราะแมกนีเซียมจะรวมตัวได้ในสภาวะสารละลายเข้มข้น ----- เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลที่สุด