สลด! พ่วงบรรทุกปูนเฉี่ยวจักรยานยนต์ทับสองแม่ลูกเสียชีวิตกลางกรุงย่านท่าพระ...
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 ก.พ. พ.ต.ท.นิโรธ ปทุมแก้ว พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บุคคโล รับแจ้งมีคนถูกรถชนเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณทางเข้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาท่าพระ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำแดง หมายเลขทะเบียน ฬฉส-237 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่บนถนนช่องทางเดินรถซ้ายสุด ใกล้กันพบภาพน่าเวทนาของแม่ลูกซึ่งเสียชีวิตนอนอยู่คู่กันคือ น.ส.ชุติกานต์ ดีอ่อน อายุ 36 ปี คนขับรถ จยย.อยู่บ้านเลขที่ 36/1 ซอยประสารมิตร แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี สภาพสวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีครีม ศรีษะถูกรถทับ ในอ้อมกอดพบศพ ด.ญ.ซู อายุ 1 ปี 2 เดือนลูกครึ่งไทยตุรกี บุตรสาวสภาพสวมเสื้อกล้ามสีชมพู นุ่งกางเกงขาสั้นสีแดง ถูกรถเหยียบกลางลำตัว โดยมีกล่องนมรสจืด ยี่ห้อโฟร์โมสต์ ตกอยู่ จำนวน 1 กล่อง นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย พลเมืองดีช่วยกันนำตัวส่ง รพ.ธนบุรี 1 ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.ชีส อายุ 5 ปี ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นเป็นบุตรสาวคนโตของ น.ส.ชุติกานต์ อาการเบื้องต้นมีแผลถลอกตามร่างกายแพทย์ให้การรักษาจนอาการปลอดภัยแล้ว
ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบรถคู่กรณีเป็นรถพ่วง 18 ล้อสีเหลืองบรรทุกปูน ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียนป้ายเหลือง 60-6700 กรุงเทพมหานคร พ่วงท้ายทะเบียนป้ายขาว 50-0859 กรุงเทพมหานคร ของบริษัทนั่มเฮงกรุ๊ป มีนายดวงแก้ว ล่ำสวย อายุ 60 ปี เป็นผู้ขับขี่ยืนรอให้ปากคำเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตื่นตระหนก โดย นายดวงแก้ว ให้การว่า ตนขับรถขนปูนมาจากบริษัทที่ จ.สระบุรี เพื่อจะไปส่งที่โรงงานปูนย่านราษฎร์บูรณะ โดยช่วงก่อนเกิดเหตุนั้นรถติดเป็นอย่างมากและตนขับรถติดอยู่บริเวณเลนซ้าย เมื่อรถแล่นได้ตนจึงเหยียบคันเร่งเพื่อจะเดินหน้าซึ่งเดินหน้าไปได้เพียงไม่ กี่เมตร ก็มีคนตะโกนว่าตนขับรถเหยียบคนเสียชีวิต ตนจึงหยุดรถและรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
ด้าน นายจุมพล เลิศลักขณากุล อายุ 36 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนกำลังจะขับรถเข้าห้างดังกล่าวโดยตามหลังรถขนปูน โดยช่วงเวลาดังกล่าวการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก จากนั้นรถ จยย.คันดังกล่าวซ้อน 3 กันมาขับแซงขวาขึ้นมา จากนั้นผู้ตายได้ขับรถหลบกรวยซึ่งตั้งอยู่หน้าห้าง และรถเกิดเสียหลักล้มไปใต้พ่วง เมื่อรถเคลื่อนตัวได้ทางคนขับรถพ่วงก็เร่งเครื่องจึงทำให้เกิดเหตุการณ์สลดขึ้น
ต่อมา นางน้อย กุลสุวรรณ อายุ 66 ปี ญาติผู้ตายเดินทางที่ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า คนที่ตายและผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นคือลูกสาวกับหลานของตนเอง โดยหลานคนที่ได้รับบาดเจ็บนั้นคือ ด.ญ.ชีส เป็นลูกของลูกสาวที่เกิดกับสามีชาวญี่ปุ่น จากนั้นก็เลิกรากันไป ส่วนคนเล็กที่เสียชีวิตนั้นคือ ด.ญ.ซู ซึ่งเป็นลูกสาวของตนกับสามีชาวตุรกี ในช่วงลูกสาวได้พาหลานไปเรียนพิเศษแถวแยกบ้านแขก เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนจึงขับรถ จยย.คันดังกล่าวไปรับกลับคอนโด ซึ่งอยู่แถวห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ โดยสามีของลูกชาวตุรีเป็นคนเช่าไว้ให้ทั้ง 3 คนอยู่อาศัย จากนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกสาวตนนั้นถูกรถชนเสีย ชีวิตจึงเดินทางมายังที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้า หน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ขับรถพ่วงคนดังกล่าว ซึ่งต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะทำการแจ้งข้อหาดำเนิน การตามกฎหมายต่อไป
ที่มา - ไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/region/327070
สลด! พ่วงบรรทุกปูน ทับ 2 แม่ลูกดับ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 ก.พ. พ.ต.ท.นิโรธ ปทุมแก้ว พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บุคคโล รับแจ้งมีคนถูกรถชนเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณทางเข้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาท่าพระ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำแดง หมายเลขทะเบียน ฬฉส-237 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่บนถนนช่องทางเดินรถซ้ายสุด ใกล้กันพบภาพน่าเวทนาของแม่ลูกซึ่งเสียชีวิตนอนอยู่คู่กันคือ น.ส.ชุติกานต์ ดีอ่อน อายุ 36 ปี คนขับรถ จยย.อยู่บ้านเลขที่ 36/1 ซอยประสารมิตร แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี สภาพสวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีครีม ศรีษะถูกรถทับ ในอ้อมกอดพบศพ ด.ญ.ซู อายุ 1 ปี 2 เดือนลูกครึ่งไทยตุรกี บุตรสาวสภาพสวมเสื้อกล้ามสีชมพู นุ่งกางเกงขาสั้นสีแดง ถูกรถเหยียบกลางลำตัว โดยมีกล่องนมรสจืด ยี่ห้อโฟร์โมสต์ ตกอยู่ จำนวน 1 กล่อง นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย พลเมืองดีช่วยกันนำตัวส่ง รพ.ธนบุรี 1 ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.ชีส อายุ 5 ปี ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นเป็นบุตรสาวคนโตของ น.ส.ชุติกานต์ อาการเบื้องต้นมีแผลถลอกตามร่างกายแพทย์ให้การรักษาจนอาการปลอดภัยแล้ว
ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบรถคู่กรณีเป็นรถพ่วง 18 ล้อสีเหลืองบรรทุกปูน ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียนป้ายเหลือง 60-6700 กรุงเทพมหานคร พ่วงท้ายทะเบียนป้ายขาว 50-0859 กรุงเทพมหานคร ของบริษัทนั่มเฮงกรุ๊ป มีนายดวงแก้ว ล่ำสวย อายุ 60 ปี เป็นผู้ขับขี่ยืนรอให้ปากคำเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตื่นตระหนก โดย นายดวงแก้ว ให้การว่า ตนขับรถขนปูนมาจากบริษัทที่ จ.สระบุรี เพื่อจะไปส่งที่โรงงานปูนย่านราษฎร์บูรณะ โดยช่วงก่อนเกิดเหตุนั้นรถติดเป็นอย่างมากและตนขับรถติดอยู่บริเวณเลนซ้าย เมื่อรถแล่นได้ตนจึงเหยียบคันเร่งเพื่อจะเดินหน้าซึ่งเดินหน้าไปได้เพียงไม่ กี่เมตร ก็มีคนตะโกนว่าตนขับรถเหยียบคนเสียชีวิต ตนจึงหยุดรถและรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
ด้าน นายจุมพล เลิศลักขณากุล อายุ 36 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนกำลังจะขับรถเข้าห้างดังกล่าวโดยตามหลังรถขนปูน โดยช่วงเวลาดังกล่าวการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก จากนั้นรถ จยย.คันดังกล่าวซ้อน 3 กันมาขับแซงขวาขึ้นมา จากนั้นผู้ตายได้ขับรถหลบกรวยซึ่งตั้งอยู่หน้าห้าง และรถเกิดเสียหลักล้มไปใต้พ่วง เมื่อรถเคลื่อนตัวได้ทางคนขับรถพ่วงก็เร่งเครื่องจึงทำให้เกิดเหตุการณ์สลดขึ้น
ต่อมา นางน้อย กุลสุวรรณ อายุ 66 ปี ญาติผู้ตายเดินทางที่ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า คนที่ตายและผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นคือลูกสาวกับหลานของตนเอง โดยหลานคนที่ได้รับบาดเจ็บนั้นคือ ด.ญ.ชีส เป็นลูกของลูกสาวที่เกิดกับสามีชาวญี่ปุ่น จากนั้นก็เลิกรากันไป ส่วนคนเล็กที่เสียชีวิตนั้นคือ ด.ญ.ซู ซึ่งเป็นลูกสาวของตนกับสามีชาวตุรกี ในช่วงลูกสาวได้พาหลานไปเรียนพิเศษแถวแยกบ้านแขก เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนจึงขับรถ จยย.คันดังกล่าวไปรับกลับคอนโด ซึ่งอยู่แถวห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ โดยสามีของลูกชาวตุรีเป็นคนเช่าไว้ให้ทั้ง 3 คนอยู่อาศัย จากนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกสาวตนนั้นถูกรถชนเสีย ชีวิตจึงเดินทางมายังที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้า หน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ขับรถพ่วงคนดังกล่าว ซึ่งต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะทำการแจ้งข้อหาดำเนิน การตามกฎหมายต่อไป
ที่มา - ไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/region/327070