คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ข้อชี้แจงให้เจ้าของกระทู้ทราบน่ะครับ
ชื่อหลักสูตรบ่งบอกถึงแล้วว่า จะต้องเป็นทหารประจำการแล้วเท่านั้น ถึงมีสิทธิ์ในการทอสอบเพื่อเข้ารับการศึกษาในหลักสูตรวิชารบพิเศษของเหล่าทัพต่าง ๆ การที่จะให้พลเรือนอย่างพวกคุณเข้าไปรับการทดสอบ จึงเป้นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเนื้อหาบางรายวิชา เกี่ยวข้องกับทางด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงของประเทศ สงวนไว้เฉพาะทหารที่ได้รับการฝึกฝน และเข้าถึงระดับชั้นความลับได้ ซึ่งการเข้าถึงระดับชั้นความลับได้ จะต้องมีหนังสือยืนยันจากผู้บังคับหน่วยโดยตรง แล้วที่ประเด็นถามมาว่า ฝึกแล้วไม่เห็นมีการใช้งานจริง พวกคุณรู้ได้อย่างไร หลังจากจบหลักสูตรการฝึก และได้บรรจุลงในหน่วยที่ใช้ หน่วยต่าง ๆ เหล่านี้จะมีการฝึกทบทวนตามวงรอบประจำปี และมีการทดสอบร่างกายอยู่เป็นประจำ ถ้าคุณอย่างพิสูจน์ว่าร่างกายคุณสามารถทดรับแรงกดดันได้หรือไม่ ผมบอกได้เลยน่ะครับ ต่อให้คุณมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ "ศักยภาพวิทยาศาสตร์การกีฬาที่พัฒนาไปมากและเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ ฟิตเนต อาหารการกิน ความรู้เรื่องการสร้างกล้ามเนื้อ การสร้างระบบการหายใจ ความอึดมันพัฒนาไปมากแล้ว ผมมั่นใจว่าพลเรือนอย่างผมมีความฟิต และร่างกายบึกบึน ดีกว่าทหารบางหน่วยด้วยซ้ำ" ข้อความเหล่านี้ไม่จำเป็นเลยสำหรับการฝึกรบพิเศษ เนื่องจากว่า พอคุณผ่านการทดสอบร่างกายไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือจิตใจ กำลังใจ และลมหายใจ ถ้าคุณมั่นใจว่าทำได้ เชิญมาสมัครเข้ารับราชการทหารให้ได้ก่อน แล้วมาดูซิว่า คุณสามารถทำได้แค่ไหนกัน
ชื่อหลักสูตรบ่งบอกถึงแล้วว่า จะต้องเป็นทหารประจำการแล้วเท่านั้น ถึงมีสิทธิ์ในการทอสอบเพื่อเข้ารับการศึกษาในหลักสูตรวิชารบพิเศษของเหล่าทัพต่าง ๆ การที่จะให้พลเรือนอย่างพวกคุณเข้าไปรับการทดสอบ จึงเป้นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเนื้อหาบางรายวิชา เกี่ยวข้องกับทางด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงของประเทศ สงวนไว้เฉพาะทหารที่ได้รับการฝึกฝน และเข้าถึงระดับชั้นความลับได้ ซึ่งการเข้าถึงระดับชั้นความลับได้ จะต้องมีหนังสือยืนยันจากผู้บังคับหน่วยโดยตรง แล้วที่ประเด็นถามมาว่า ฝึกแล้วไม่เห็นมีการใช้งานจริง พวกคุณรู้ได้อย่างไร หลังจากจบหลักสูตรการฝึก และได้บรรจุลงในหน่วยที่ใช้ หน่วยต่าง ๆ เหล่านี้จะมีการฝึกทบทวนตามวงรอบประจำปี และมีการทดสอบร่างกายอยู่เป็นประจำ ถ้าคุณอย่างพิสูจน์ว่าร่างกายคุณสามารถทดรับแรงกดดันได้หรือไม่ ผมบอกได้เลยน่ะครับ ต่อให้คุณมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ "ศักยภาพวิทยาศาสตร์การกีฬาที่พัฒนาไปมากและเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ ฟิตเนต อาหารการกิน ความรู้เรื่องการสร้างกล้ามเนื้อ การสร้างระบบการหายใจ ความอึดมันพัฒนาไปมากแล้ว ผมมั่นใจว่าพลเรือนอย่างผมมีความฟิต และร่างกายบึกบึน ดีกว่าทหารบางหน่วยด้วยซ้ำ" ข้อความเหล่านี้ไม่จำเป็นเลยสำหรับการฝึกรบพิเศษ เนื่องจากว่า พอคุณผ่านการทดสอบร่างกายไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือจิตใจ กำลังใจ และลมหายใจ ถ้าคุณมั่นใจว่าทำได้ เชิญมาสมัครเข้ารับราชการทหารให้ได้ก่อน แล้วมาดูซิว่า คุณสามารถทำได้แค่ไหนกัน
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาวุธยุทโธปกรณ์
Navy Seal Recon รับพลเรือนเข้าทดสอบไหมครับ?
เดือนแรกภาคที่ตั้งปกติ เน้นวิชาการ ฝึกเตรียมร่างกายอย่างหนัก ทานวันละมื้อ นอน2 ชั่วโมงต่อวันเป็นการเตรียมพร้อมความแข็งแกร่งของร่างกาย เช่น การแบกเรือ สำรวจชายหาด
เดือนที่สองเป็นการฝึกภาคทะเล ใช้ชีวิตตลอด 1 เดือนอยู่บนเรือ ต้องผ่านการทดสอบว่ายน้ำที่หาดสมิหลาประมาณ 5 ไมล์ ท่ามกลางคลื่นลมแรง ฝึกที่หมู่่เกาะอ่างทอง เกาะหินแตก หาปูหาปลาเพื่อประทังชีวิต ท่ามกลางแรงกดดันจากครูฝึกอย่างหนัก เป็นการฝึกเพื่อให้ลืมตาย ไม่ปฏิเสธภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
เดือนสุดท้ายเป็นการฝึกภาคป่า ต้องดำรงชีวิตอยู่ในป่าให้ได้ด้วยอุปกรณ์จำกัด แม้แต่เสื้อผ้าก็ต้องใช้ใบไม้ใบหญ้าเพื่อปกปิดร่างกาย
***ตามข้อมูลข้างบน เห็นให้โควต้า รับแค่ทหาร ตำรวจ ... ผมว่าด้วยศักยภาพวิทยาศาสตร์การกีฬาที่พัฒนาไปมากและเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ ฟิตเนต อาหารการกิน ความรู้เรื่องการสร้างกล้ามเนื้อ การสร้างระบบการหายใจ ความอึดมันพัฒนาไปมากแล้ว ผมมั่นใจว่าพลเรือนอย่างผมมีความฟิต และร่างกายบึกบึน ดีกว่าทหารบางหน่วยด้วยซ้ำ เพียงแต่ผมไม่ได้เป็นทหารมาก่อน ตั้งแต่จบมัธยมมาผมหันเหชีวิตตัวเองเอนทรานซ์เข้ารั้วมหาวิทยาชื่อดังแห่งนึงของประเทศ ทำงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียง แต่เบื่ออยากหาความท้าทายในชีวิตที่โลดโผนโจนทะยาน บ้าบิ่นบ้าง เกิดมาจะได้คุ้มกับกับการใช้ชีวิต แก่ตัวไปจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดาย