ผมเคยอ่านหนังสือฉบับแปลไทยของมัน
มันมีข้อความเคลมไว้ว่า "นวนิยายในดวงใจเทียบเท่านาร์เนีย"
หนา 106 หน้า แต่เอ่ยถึงเมืองในจินตนาการนี้ยังไม่ถึง 6 หน้าเลยฮะ
ที่เหลือมีแต่เรื่องในโรงเรียนอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกไร้สาระมาก
แล้วตอนจบคืออะไร เลสลีตายโง่มากๆ โหนเชือกแล้วตกน้ำตาย
จะมาทำซึ้งอะไรตอนนี้ แล้วอีสะพานเนี่ยก็มาเอาหน้าสุดท้ายของเรื่อง
จะบ้าตายเหอะครับ อ่านจบนี่เอาหนังสือไปคืนเจ้าของเลย
นี่ถ้าเป็นหนังสือตัวเองนี่เผาทิ้งไปนานแล้ว
อย่าเทียบแม้แต่ขี้เล็บของนาร์เนียเลยเหอะ
ถึงกระนั้นผมก็ไปตามหาหนังมาดูจนได้ครับ
อย่างน้อยหนังก็ทำได้ดีกว่าในหนังสือครับ
แต่น่าเบื่อมาก ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย
มีแต่ภาพสีฟ้าๆ กับจินตนาการชวนน่าเบื่อ
แล้วก็เรื่องพระเอกจอมวิ่ง เด็กยักษ์ที่โรงเรียน
ทีมสร้างหนังไม่น่าเสียเวลาให้หนังเรื่องนี้เลยครับ
ผมว่ามันไม่ค่อยส่งเสริมจนตนาการเด็กเท่าไรเลยครับ
สู้ไปอ่านนาร์เนีย หรือแฮร์รี่พอตเตอร์ยังจะดีกว่า
ถึงว่าล่ะ สุดท้ายนิยายเด็กเรื่องนี้เลยหายไปตามกาลเวลา
ทุกคนคิดเห็นว่าไงกันบ้างครับ
คิดเห็นอย่างไรกับเรื่อง "The Bridge to ทีราบีเตี่ย" ครับ
มันมีข้อความเคลมไว้ว่า "นวนิยายในดวงใจเทียบเท่านาร์เนีย"
หนา 106 หน้า แต่เอ่ยถึงเมืองในจินตนาการนี้ยังไม่ถึง 6 หน้าเลยฮะ
ที่เหลือมีแต่เรื่องในโรงเรียนอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกไร้สาระมาก
แล้วตอนจบคืออะไร เลสลีตายโง่มากๆ โหนเชือกแล้วตกน้ำตาย
จะมาทำซึ้งอะไรตอนนี้ แล้วอีสะพานเนี่ยก็มาเอาหน้าสุดท้ายของเรื่อง
จะบ้าตายเหอะครับ อ่านจบนี่เอาหนังสือไปคืนเจ้าของเลย
นี่ถ้าเป็นหนังสือตัวเองนี่เผาทิ้งไปนานแล้ว
อย่าเทียบแม้แต่ขี้เล็บของนาร์เนียเลยเหอะ
ถึงกระนั้นผมก็ไปตามหาหนังมาดูจนได้ครับ
อย่างน้อยหนังก็ทำได้ดีกว่าในหนังสือครับ
แต่น่าเบื่อมาก ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย
มีแต่ภาพสีฟ้าๆ กับจินตนาการชวนน่าเบื่อ
แล้วก็เรื่องพระเอกจอมวิ่ง เด็กยักษ์ที่โรงเรียน
ทีมสร้างหนังไม่น่าเสียเวลาให้หนังเรื่องนี้เลยครับ
ผมว่ามันไม่ค่อยส่งเสริมจนตนาการเด็กเท่าไรเลยครับ
สู้ไปอ่านนาร์เนีย หรือแฮร์รี่พอตเตอร์ยังจะดีกว่า
ถึงว่าล่ะ สุดท้ายนิยายเด็กเรื่องนี้เลยหายไปตามกาลเวลา
ทุกคนคิดเห็นว่าไงกันบ้างครับ