D.I.Y. เปลี่ยนหลอดไฟหน้า รถยนต์ ISUZU by Yai6000
แสงสว่าง และความปลอดภัย มักจะเป็นของคู่กัน ถ้าทุกอย่างข้างหน้าเรา กระจ่างชัดเจนแล้ว เราย่อมที่จะ
สามารถตัดสินใจ ได้อย่างรวดเร็ว และทันต่อสถาการณ์ที่เกิดขึ้น แสงสว่างหน้ารถก็มีความสำคัญต่อตัวเอง และ
ผู้อื่นด้วย มองเห็นกันแต่ไกล ก็ยังดีกว่ามองไม่เห็นแล้วมาชนกัน ยิ่งถ้าต้องใช้รถยนต์ในตอนกลางคืนด้วยแล้ว
แสงสว่างจากรถเราทุกดวงมีความสำคัญครับ เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไร ให้รถเรามีแสงสว่างจากไฟหน้าอยู่
ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าหลอดไฟจะขาดเราก็สามารถเปลี่ยนเองได้ ไม่ต้องไปรอให้ช่างเปลี่ยนให้ ตามไปดูกันครับ
1. หลอดไฟหน้าของ Isuzu Commonrail โคมแบบโปรเจคเตอร์ ใช้หลอดไฟขั้วหลอดแบบ H7 ครับ ดังรูป
สาเหตุที่เลือกใช้ยี่ห้อนี้ เพราะว่า ราคาไม่แพงครับ หลอดละ 180-200 บาท แล้วแต่ราคาหน้าร้าน พอดีว่าผมซื้อ
ได้ในราคา Sale ขายอะไหล่ ที 150 บาท ก็จัดไปเลย 2 หลอด เก็บเอาไว้สำรองอีก 1 หลอด ยี่ห้อนี้มีแทบ
จะมีทุกร้านครับ หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง คุณภาพพอใช้ตามราคา อยากจะไปยี่ห้ออื่นเหมือนกัน แต่จะเจอปัญหา
หลอดไฟราคาแพง เขาขายกันเป็นคู่ครับ มีแหล่งซื้อเฉพาะที่ เพราะว่าหลอดไฟเวลาขาด มักจะขาดทีละหลอด
ในเวลาใกล้เคียงกัน ประมาณนั้น ใช้อะไรบ้านๆ มันก็ดีอย่าง ไปไหนก็เจอ ไม่ต้องปวดหัว ถ้าเปลี่ยนเองได้
ที่นี้สบายเลย เพื่อเป็นการคงประสิทธิภาพในการส่องสว่างของรถเราให้ได้ใกล้เคียง 100% ทุกครั้งที่ต้องการ
ส่วนหลอดไฟแบบนี้ราคาถูกก็มีเหมือนกันครับ หลอดละ 80 บาท แต่กล่องไม่สวยแบบนี้ เหมือนอะไหล่เทียม
2. ก่อนทำการเปลี่ยนหลอดไฟ ก็ทดสอบกันอีกครั้ง ข้างไหนกันแน่ที่ขาด จะได้เปลี่ยนได้ถูกต้อง ทำงาน
ครั้งเดียวให้เสร็จครบถ้วน วิธีการ คือ ไม่ต้องสตาร์ทรถ หมุนเปิดสวิตช์ไฟที่ก้านสวิตช์ข้างขวาได้เลย ดังรูป
3. ยืนยันแล้วว่า เป็นไฟหน้าข้างซ้ายที่ขาดแน่นอน เพราะว่าเช็คข้างขวาแล้ว ใช้งานได้ตามปกติ
4. มาดูที่ด้านหลังโคมไฟครับ จะเจอกับยางกันฝุ่น ในรูปจะเห็นว่ามีตำแหน่งที่ทำการปรับตั้งระดับไฟหน้าด้วย
จำนวน 2 จุด จุดนึงปรับลำแสงสว่างให้ขยับ ขึ้น-ลง , จุดนึง จุดนึงปรับลำแสงสว่างให้ขยับ ซ้าย-ขวา
วิธีการปรับตั้ง ใช้ไขควงปลายแฉก หมุนไปในทิศทาง ซ้าย หรือขวา แล้วดูทิศทาง รายละเอียดยังไม่ขอลง
เนื่องจาก เคยทำมานานมาก ก็เลยจำไม่ได้ว่าอันไหน ปรับอันไหน ไปลองดูกันเอาเองนะครับ
5. ทำการดึงยางกันฝุ่นออกมา จะได้ลักษณะดังรูป ส่วนคราบเมือกที่เห็นอยู่ อันนี้ปกติครับ เห็นมาตั้งแต่ออกรถ
ก็ยังอยู่ น่าจะเป็นจาระบีที่เคลือบเอาไว้กันฝุ่น กันน้ำนะครับ ข้อมูลนี้ไม่ค่อยแน่ใจครับ น้าท่านใดทราบ รบกวน
ขอคำชี้แนะด้วยครับ
6. จากรูป จะเห็นตำแหน่งร่องที่ใช้ทำการ กดล็อคขั้วหลอดไฟ เราต้องใช้นิ้วไปปลดล็อคตำแหน่งนี้ เพื่อที่จะ
ทำการเปลี่ยนหลอดไฟ
7. ในการทำครั้งแรก ต้องบอกเอาก่อนนะครับ ว่าไม่ง่าย เนื่องจากพื้นที่แคบ มองไม่เห็น และไม่ถนัดด้วย
ต้องใช้ความรู้สึกล้วนๆ ครับ กดๆ บีบๆ คลึงๆ สักพักก็.....ออกซะแล้ว
หลอดไฟหน้าของรถรุ่นนี้ ขึ้นชื่อในเรื่องของการใส่ยากครับ ตอนเอาออกทำได้ง่ายมาก เอานิ้วเขี่ยล็อคก็ออกแล้ว
ตอนใส่กลับคืนนี่ซิ ต้องเอาลวดที่เราเขี่ยล็อคออก เอากลับคืนที่เดิม แล้วมองไม่เห็นด้วย ก่อนทำโปรดพิจารณา
8. ค่อยๆ ทำการดึงขั้วหลอดไฟ พร้อมหลอดไฟอันเก่า ออกมาอย่างช้าๆ ครับ สายไฟเส้นมันเล็ก กระทำการ
รุนแรงอันไม่สมควรแก่เหตุ อาจจะถึงขั้นต้องเปลี่ยนอะไหล่สายไฟเพิ่มได้นะครับ
9. หลอดไฟของเก่าเอาออกมาแล้วครับ วิธีการจับหลอดไฟที่ถูกต้อง คือ ต้องจับที่ฐานหลอดไฟ ดังรูป
ถ้าเราไปจับที่หลอดไฟโดยตรง คราบเหงื่อ และสิ่งสกปรกจะไปเกาะติดที่หลอดไฟ อาจจะเป็นเหตุให้หลอดไฟ
อายุสั้นลง เนื่องจาก หลอดไฟเวลาทำงานจะเกิดความร้อน สื่งสกปรกที่ติดที่หลอดไฟ เป็นสาเหตุให้หลอดไฟ
อายุสั้นลงครับ ผมไม่ทราบในรายละเอียดลึกๆ ครับ
10. ทำการใส่หลอดไฟหลอดใหม่เข้าไปแทนที่แล้วครับ โปรดสังเกต ติ่งที่ฐานหลอดไฟให้ทำการหันขึ้นด้านบน
เพื่อให้ลงร่องพอดี ถ้าไม่หันให้ถูกทิศทาง ทำยังงัยก็ไม่เข้าครับ
11. ตำแหน่งที่ใช้ในการล็อคขั้วหลอดไฟครับ รูปนี้ถ่ายจากด้านหลัง โคมไฟด้านขวา ส่วนฝั่งซ้ายลองถ่ายแล้ว
มองไม่เห็นครับ ล็อคแบบเดียวกันเลย ตอนใส่เข้าถ้ารู้ทิศทางแล้ว ง่ายกว่าตอนที่เอาออกครับ
สำหรับคนทียังไม่เคยเปลี่ยนแล้วอยากลองเปลี่ยน ครั้งแรกเปลี่ยนหลอดไฟ 1 ข้าง 1 ชั่วโมงครับ
เจ็บปลายนิ้วมากด้วย เพราะว่าต้องออกแรงกด ใส่ถุงมือก็ไม่ถนัด เปลี่ยนอันแรกได้แล้ว
อันต่อไปจะไวขึ้นเนื่องจากรู้หลัก ในการกดล็อคแล้ว
12. หลังจากเปลี่ยนหลอดไฟแล้ว ทำการทดสอบอีกครั้ง ให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้เป็นปกติ
เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ในการขับรถแสงสว่างเป็นสิ่งสำคัญครับ ถ้าเห็นว่าสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยการต่อขับขี่แล้ว ช่วยกันเปิด
ไฟให้รถคันอื่น เขาสังเกตเห็นได้ง่ายด้วยนะครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นเลนสวนกัน เวลาเร่งแซงจะได้ปลอดภัยกัน
มากขึ้น เนื่องจากเห็นกันมาแต่ไกล สามารถกะระยะเวลา และความเร็วกันได้ จะได้ไม่ต้องลงมาจอดรอประกัน
หลายคนอาจจะแย้งว่า คิดมากไปหรือเปล่า อย่าลืม !!! อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น บางครั้งเกิดจากการที่เราคิดน้อยไปครับ
D.I.Y. เปลี่ยนหลอดไฟหน้า รถยนต์ ISUZU by Yai6000
แสงสว่าง และความปลอดภัย มักจะเป็นของคู่กัน ถ้าทุกอย่างข้างหน้าเรา กระจ่างชัดเจนแล้ว เราย่อมที่จะ
สามารถตัดสินใจ ได้อย่างรวดเร็ว และทันต่อสถาการณ์ที่เกิดขึ้น แสงสว่างหน้ารถก็มีความสำคัญต่อตัวเอง และ
ผู้อื่นด้วย มองเห็นกันแต่ไกล ก็ยังดีกว่ามองไม่เห็นแล้วมาชนกัน ยิ่งถ้าต้องใช้รถยนต์ในตอนกลางคืนด้วยแล้ว
แสงสว่างจากรถเราทุกดวงมีความสำคัญครับ เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไร ให้รถเรามีแสงสว่างจากไฟหน้าอยู่
ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าหลอดไฟจะขาดเราก็สามารถเปลี่ยนเองได้ ไม่ต้องไปรอให้ช่างเปลี่ยนให้ ตามไปดูกันครับ
1. หลอดไฟหน้าของ Isuzu Commonrail โคมแบบโปรเจคเตอร์ ใช้หลอดไฟขั้วหลอดแบบ H7 ครับ ดังรูป
สาเหตุที่เลือกใช้ยี่ห้อนี้ เพราะว่า ราคาไม่แพงครับ หลอดละ 180-200 บาท แล้วแต่ราคาหน้าร้าน พอดีว่าผมซื้อ
ได้ในราคา Sale ขายอะไหล่ ที 150 บาท ก็จัดไปเลย 2 หลอด เก็บเอาไว้สำรองอีก 1 หลอด ยี่ห้อนี้มีแทบ
จะมีทุกร้านครับ หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง คุณภาพพอใช้ตามราคา อยากจะไปยี่ห้ออื่นเหมือนกัน แต่จะเจอปัญหา
หลอดไฟราคาแพง เขาขายกันเป็นคู่ครับ มีแหล่งซื้อเฉพาะที่ เพราะว่าหลอดไฟเวลาขาด มักจะขาดทีละหลอด
ในเวลาใกล้เคียงกัน ประมาณนั้น ใช้อะไรบ้านๆ มันก็ดีอย่าง ไปไหนก็เจอ ไม่ต้องปวดหัว ถ้าเปลี่ยนเองได้
ที่นี้สบายเลย เพื่อเป็นการคงประสิทธิภาพในการส่องสว่างของรถเราให้ได้ใกล้เคียง 100% ทุกครั้งที่ต้องการ
ส่วนหลอดไฟแบบนี้ราคาถูกก็มีเหมือนกันครับ หลอดละ 80 บาท แต่กล่องไม่สวยแบบนี้ เหมือนอะไหล่เทียม
2. ก่อนทำการเปลี่ยนหลอดไฟ ก็ทดสอบกันอีกครั้ง ข้างไหนกันแน่ที่ขาด จะได้เปลี่ยนได้ถูกต้อง ทำงาน
ครั้งเดียวให้เสร็จครบถ้วน วิธีการ คือ ไม่ต้องสตาร์ทรถ หมุนเปิดสวิตช์ไฟที่ก้านสวิตช์ข้างขวาได้เลย ดังรูป
3. ยืนยันแล้วว่า เป็นไฟหน้าข้างซ้ายที่ขาดแน่นอน เพราะว่าเช็คข้างขวาแล้ว ใช้งานได้ตามปกติ
4. มาดูที่ด้านหลังโคมไฟครับ จะเจอกับยางกันฝุ่น ในรูปจะเห็นว่ามีตำแหน่งที่ทำการปรับตั้งระดับไฟหน้าด้วย
จำนวน 2 จุด จุดนึงปรับลำแสงสว่างให้ขยับ ขึ้น-ลง , จุดนึง จุดนึงปรับลำแสงสว่างให้ขยับ ซ้าย-ขวา
วิธีการปรับตั้ง ใช้ไขควงปลายแฉก หมุนไปในทิศทาง ซ้าย หรือขวา แล้วดูทิศทาง รายละเอียดยังไม่ขอลง
เนื่องจาก เคยทำมานานมาก ก็เลยจำไม่ได้ว่าอันไหน ปรับอันไหน ไปลองดูกันเอาเองนะครับ
5. ทำการดึงยางกันฝุ่นออกมา จะได้ลักษณะดังรูป ส่วนคราบเมือกที่เห็นอยู่ อันนี้ปกติครับ เห็นมาตั้งแต่ออกรถ
ก็ยังอยู่ น่าจะเป็นจาระบีที่เคลือบเอาไว้กันฝุ่น กันน้ำนะครับ ข้อมูลนี้ไม่ค่อยแน่ใจครับ น้าท่านใดทราบ รบกวน
ขอคำชี้แนะด้วยครับ
6. จากรูป จะเห็นตำแหน่งร่องที่ใช้ทำการ กดล็อคขั้วหลอดไฟ เราต้องใช้นิ้วไปปลดล็อคตำแหน่งนี้ เพื่อที่จะ
ทำการเปลี่ยนหลอดไฟ
7. ในการทำครั้งแรก ต้องบอกเอาก่อนนะครับ ว่าไม่ง่าย เนื่องจากพื้นที่แคบ มองไม่เห็น และไม่ถนัดด้วย
ต้องใช้ความรู้สึกล้วนๆ ครับ กดๆ บีบๆ คลึงๆ สักพักก็.....ออกซะแล้ว
หลอดไฟหน้าของรถรุ่นนี้ ขึ้นชื่อในเรื่องของการใส่ยากครับ ตอนเอาออกทำได้ง่ายมาก เอานิ้วเขี่ยล็อคก็ออกแล้ว
ตอนใส่กลับคืนนี่ซิ ต้องเอาลวดที่เราเขี่ยล็อคออก เอากลับคืนที่เดิม แล้วมองไม่เห็นด้วย ก่อนทำโปรดพิจารณา
8. ค่อยๆ ทำการดึงขั้วหลอดไฟ พร้อมหลอดไฟอันเก่า ออกมาอย่างช้าๆ ครับ สายไฟเส้นมันเล็ก กระทำการ
รุนแรงอันไม่สมควรแก่เหตุ อาจจะถึงขั้นต้องเปลี่ยนอะไหล่สายไฟเพิ่มได้นะครับ
9. หลอดไฟของเก่าเอาออกมาแล้วครับ วิธีการจับหลอดไฟที่ถูกต้อง คือ ต้องจับที่ฐานหลอดไฟ ดังรูป
ถ้าเราไปจับที่หลอดไฟโดยตรง คราบเหงื่อ และสิ่งสกปรกจะไปเกาะติดที่หลอดไฟ อาจจะเป็นเหตุให้หลอดไฟ
อายุสั้นลง เนื่องจาก หลอดไฟเวลาทำงานจะเกิดความร้อน สื่งสกปรกที่ติดที่หลอดไฟ เป็นสาเหตุให้หลอดไฟ
อายุสั้นลงครับ ผมไม่ทราบในรายละเอียดลึกๆ ครับ
10. ทำการใส่หลอดไฟหลอดใหม่เข้าไปแทนที่แล้วครับ โปรดสังเกต ติ่งที่ฐานหลอดไฟให้ทำการหันขึ้นด้านบน
เพื่อให้ลงร่องพอดี ถ้าไม่หันให้ถูกทิศทาง ทำยังงัยก็ไม่เข้าครับ
11. ตำแหน่งที่ใช้ในการล็อคขั้วหลอดไฟครับ รูปนี้ถ่ายจากด้านหลัง โคมไฟด้านขวา ส่วนฝั่งซ้ายลองถ่ายแล้ว
มองไม่เห็นครับ ล็อคแบบเดียวกันเลย ตอนใส่เข้าถ้ารู้ทิศทางแล้ว ง่ายกว่าตอนที่เอาออกครับ
สำหรับคนทียังไม่เคยเปลี่ยนแล้วอยากลองเปลี่ยน ครั้งแรกเปลี่ยนหลอดไฟ 1 ข้าง 1 ชั่วโมงครับ
เจ็บปลายนิ้วมากด้วย เพราะว่าต้องออกแรงกด ใส่ถุงมือก็ไม่ถนัด เปลี่ยนอันแรกได้แล้ว
อันต่อไปจะไวขึ้นเนื่องจากรู้หลัก ในการกดล็อคแล้ว
12. หลังจากเปลี่ยนหลอดไฟแล้ว ทำการทดสอบอีกครั้ง ให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้เป็นปกติ
เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ในการขับรถแสงสว่างเป็นสิ่งสำคัญครับ ถ้าเห็นว่าสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยการต่อขับขี่แล้ว ช่วยกันเปิด
ไฟให้รถคันอื่น เขาสังเกตเห็นได้ง่ายด้วยนะครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นเลนสวนกัน เวลาเร่งแซงจะได้ปลอดภัยกัน
มากขึ้น เนื่องจากเห็นกันมาแต่ไกล สามารถกะระยะเวลา และความเร็วกันได้ จะได้ไม่ต้องลงมาจอดรอประกัน
หลายคนอาจจะแย้งว่า คิดมากไปหรือเปล่า อย่าลืม !!! อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น บางครั้งเกิดจากการที่เราคิดน้อยไปครับ