มนตรีซีเกมส์ของไทย ตำหนิพม่าว่ากำลังสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในกีฬาซีเกมส์
เนื่องจากพม่าใช้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพตัดยิมนาสติก และเทนนิส ออกจากซีเกมส์ปีนี้

โดยเห็นว่าการเปลี่ยนกฎในธรรมนูญซีเกมส์ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
หากประเทศเจ้าภาพไม่มีหลักธรรมาภิบาล

พม่าเจ้าภาพซีเกมส์ปีนี้ต่อรองขอแบ่งเหรียญอย่างน้อย 2-4 เหรียญทองจากยิมนาสติก
แลกกับการบรรจุกีฬาชนิดนี้ ในซีเกมส์ครั้งที่ 27
ทำให้ ศ.เจริญ วรรธนะสิน ออกมาแสดงความเห็นใจสมาคมยิมนาสติกของไทย

ซึ่งพม่าเรียกร้องให้ไทยขนอุปกรณ์ราคา 20-30 ล้านบาทไปช่วยจัดการแข่งขัน
และต้องช่วยทำให้พม่าได้เหรียญทองด้วย

กรณีนี้ ศ.เจริญ เห็นว่า นี่คือเหรียญทองอัปยศ ซึ่งพม่าไม่สมควรได้รับความช่วยเหลือใดๆ
จากสมาคมยิมนาสติกไทยอีกต่อไป ขณะที่ไทยควรนำงบประมาณไปพัฒนานักกีฬาไทยดีกว่า

ศ.เจริญยังได้แสดงความเสียใจต่อการกระทำของพม่าที่กำลังจะสร้างความเสียหายต่อซีเกมส์อย่างรุนแรง
เพราะในการประชุมสหพันธ์ซีเกมส์ที่ผ่านมา ทุกประเทศต่างยอมอะลุ่มอล่วยในหลายๆ เรื่องมาแล้ว

แต่เพราะไม่อยากขัดต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจึงต้องยอม
มีการเสนอทางออกเพื่อให้แก้กฎในธรรมนูญซีเกมส์
แต่เห็นว่าหากประเทศเจ้าภาพยังเห็นแก่ตัวขาดหลักธรรมาภิบาลจะไม่มีทางแก้ปัญหาได้

ศ.เจริญ ยังเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้มี 2 ประเทศที่กำลังต่อรองกับพม่าแบบลับๆ
ซึ่งมีการเสนอแบ่งเหรียญทองให้พม่าในหลายชนิดกีฬาแลกกับโอกาสการลุ้นตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง
โดยส่วนใหญ่เป็นกีฬาพื้นบ้านและกีฬาต่อสู้
เพื่อต้องการให้พม่าเพิ่มชนิดกีฬาชิงเหรียญในกีฬาที่ชาติตัวเองถนัดให้มากขึ้นนั่นเอง

ส่วนกรณีของความพยายามในดึงเทนนิสกลับสู่ซีเกมส์ครั้งนี้
ล่าสุดลอนเทนนิสสมาคมฯ และสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย
ส่งหนังสือเรียกร้องให้พม่าเห็นความสำคัญของกีฬาเทนนิส และพร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่
ขณะที่พม่ายังไม่แสดงท่าทียินยอมชัดเจน เพียงแต่รับทราบในเรื่องที่ไทยขอเท่านั้น

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย แม้จะไม่แสดงอาการหนักใจ
แต่หากต้องมีการเจรจาในระดับสูงกว่าคณะกรรมการโอลิมปิกของพม่าก็พร้อม