ผมจับมาแล้วตุ๊กแกตัวใหญ่

ตัวแรก ผมใช้เชือกผูกปลายไม้แล้วทำเป็นห่วง คล้องคอมันได้แล้วก็กะตุก เอาใส่ถุง แล้วตัดเชือก แล้วเอาไปปล่อยทั้งถุง ห่วงที่รัดมันไม่ได้ทำเป็นห่วงตาย พอเอาไปปล่อยมันดิ้นทีสองทีก็น่าจะหลุดแล้ว  กว่าจะจับได้ต้องพยายามหลายครั้ง เพราะมันจะหนีเรื่อยๆ ต้องใช้ความพยายาม

ต่อมาตัวที่สอง ตัวนี้มันตื่นมาก พอเห็นเรา หรือได้ยินเสียง มันหนีทันที ใช้วิธีแรกไม่ได้ ผมเลยเอากาวดักหนูมาทาไม้กระดาน แล้วเอาแมลงสาบปลอมมาล่อไว้ ใช้เวลาหลายวันเหมือนกัน กว่ามันจะมาติด เห็นแล้วสงสารมาก ตอนทำไม่ได้คิด ไม่มีทางช่วยมันเลย ต้องเอาไปทิ้งทั้งอย่างนั้น ตายแน่นอน อย่างทรมานด้วย ไม่สบายใจอยู่หลายวัน

หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือนผมเกิดอาการชาที่ขา และ แขน ค่อยๆเป็นจนเดินไม่ได้ ไม่ได้เป็นอัมพาตนะ แต่มันชาแล้วขยับขาไม่ได้มีอาการเหมือนกับโรคกระดูกทับเส้น ก้าวขาลำบากมาก เจ็บชาจนเดินไม่ได้ ระยะทาง 4 เมตร ใช่้เวลาเดินเป็น 10 นาที ปวดไหล่ ปวดแขน และชาตามมือ ซึ่งเป็นอาการเดียวกับคนเป็นโรคกระดูกทับเส้น สรุปว่าขาแขนใช้ไม่ได้ คอก็เคล็ด หันศรีษะไม่ได้เลย เหมือนกับที่ตุ๊กแกมันโดน

ไปตรวจ MRI (เข้าอุโมงค์ตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) ก็พบว่ามีอาการกระดูกเสื่อมธรรมดา ตามที่ทุกคนต้องเป็นเมื่ออายุมาก กระดูกอยู่ใกล้เส้นประสาท แต่ไม่ได้ทับ สรุปว่าไม่ได้เป็นตรงนี้ไม่เป็นอะไร แต่ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าเพราะอะไร เมื่อกระดูกก็ไม่ได้ทับเส้น ก็ทำการรักษาไปหลายแห่ง ทั้งโรงพยาบาลของเอกชน ทั้งฝังเข็ม นวดแผนไทย ยาไทย ทำทุกอย่างก็ไม่หาย ทรมานอยู่ประมาณ 8 เดือน ที่เดินเกือบไม่ได้เลย พยายามทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับตุ๊กแกตัวนั้น และเจ้ากรรมนายเวร อยู่เป็นประจำ 8 เดือนผ่านไปผมก็ค่อยๆ หาย โดยตอนที่หายนี้ผมหยุดรักษาแบบแผนไทย ยาไทย และฝังเข็มแล้ว แต่ไปหาหมอแผนปัจจุบันทานยาคลายเส้น และยาแก้ปวดไปตามอาการ อยู่ๆ ก็หายไปเฉยๆ

แต่ก็ยังไม่สนิทนัก เนื่องจากนอนอย่างเดียวมา 8 เดือน พออยู่ๆ มาเดินได้ ไหล่ที่แทบจะไม่ได้ขยับเลยมานานก็เกิดอาการไหล่ติด ต้องไปรักษาอาการไหล่ติดต่ออีก ถึงเวลานี้รักษาอาการไหล่ติดโดยการทำกายภาพมา 6 เดือนแล้ว อาการดีขึ้นเรื่อยๆ สักประมาณ 80 % ที่ผมเล่ามานี้ สรุปว่าผมมีอาการป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยผมคิดว่ามันอาจมาจากเรื่องเวรกรรมที่ผมทำกับตุ๊กแกตัวนั้น ท่านใดที่ไม่เชื่อเรื่องเวรกรรมก็อ่านผ่านๆ ไป เถิดครับ อย่าถือสา หรือ เข้ามาด่าทอต่อว่าผม เหมือนที่มีหลายๆ ท่านชอบทำในกระทู้หลายๆ กระทู้ของพันทิพย์เลย เวรกรรมมันอาจจะมีจริงก็ได้นะครับ

เล่าต่อนิด จากการที่รักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนมาหลายเดือน ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ผมเลยย้ายการทำกายภาพไปรักษาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ผมไม่เคยให้เครดิตโรงพยาบาลของรัฐเลยนะครับ ฝังหัวมานานแล้วว่าไม่ดี แต่จากการที่ผมไปรักษาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ที่นี่ได้เปลี่ยนความคิดผมไปหมด เครื่องมือพร้อม เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่ใส มีความเป็นมิตร ยินดีรักษาด้วยความเต็มใจ เครื่องมือพร้อม อาจจะไม่เหมือนกับโรงพยาบาลเอกชนตรงที่คนไข้เยอะหน่อย ก็ต้องรอกันบ้าง แต่ไม่นานจนเกินไป ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่แผนกกายภาพโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าทุกท่านครับ