ผมขอแชร์ประสบการณ์การสัมภาษณ์งานครั้งล่าสุด ที่ผมเชื่อว่ามันอาจจะพอเป็นแนวทางให้ใครหลายๆ คนได้ (ไม่มากก็น้อยนะครับ)
องค์กรนี้ผมเชื่อว่าใครหลายๆ คน "ก็อยากเข้า" รวมถึงตัวผมด้วยที่อยากเข้ามาก แต่ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้มันทำให้ "เป็นความกดดัน" และ "ประหม่า" ในที่สุด
ฉะนั้นก่อนที่จะไปสัมภาษณ์คุณควรจะสละเวลาซักนิดอ่าน (
- Job Description/รายละเอียดของงาน อ่านให้ได้ใจความว่า ตำแหน่งที่คุณจะไปสัมภาษณ์ เขาจะให้คุณทำอะไร ใช้ทักษะความสามารถอะไรบ้าง เพื่อจะได้ตอนที่เรา "เล่า" ประสบการณ์ทำงานที่โดน และคนสัมภาษณ์เขาจะได้ตรวจสอบได้ว่า "สิ่ิงที่เราถ่ายทอดไป" มันตรงความต้องในตำแหน่งในองค์กรเขามากแค่ไหน? (และยิ่งไปกว่านั้น ให้ถามคนที่เราติดต่อด้วยให้ละเอียดว่า ถึงขั้นต้องเตรียมตัวเป็นภาษาอังกฤษไหม)
- อ่านประวัติองค์กร สมัยนี้อะไรก็เข้าเว็บกันได้ ลองดู About us ซักนิด ว่าเขาทำเกี่ยวกับอะไร เขามีเป้าหมายอะไรบ้าง และที่สำคัญ "ทัศนคติ หรือ Vision เขาเป็นอย่างไรบ้าง ผมเชื่อได้เลยว่า เขาต้องการรับคนที่ เวลาเข้าไปแล้ว ต้องมีจุดมุ่งหมายคล้ายคลึงกันกับตัวแนวคิดขององค์กร
- การสัมภาษณ์งาน ที่ผมเจอเดี๋ยวนี้มันมีมากกว่า 1 รอบ! ผมขอนิยามว่า ด่าน ซึ่ง (ซึ่งตรงนี้ก็ต้องถามรายละเอียดกับคนที่เราติดต่ออีกเช่นกัน)
สิ่งสำคัญเราต้องวาง กลยุทธ์ ยิ่งเป็นองค์กรที่คุณอยากเข้าไปทำงานด้วยแล้ว คุณคงไม่อยากเสียเวลา และทิ้งโอกาสมันไปใช่ไหมละ ฉะนั้น "จง!!" วางแผน เข้าตี... (คนละเรื่องและ) อย่างชาญฉลาด และ ได้ผลมากที่สุด
ด่านแรก : เราอาจจะเจอข้อเขียน อะไรไม่รู้เต็มไปหมด การเตรียมตัว ก็คงต้องเป็นวิชาการ ที่คุณต้องไปตอบเขาให้ได้ (ซึ่งบางที่ อาจจะเป็นแค่ข้อสอบ เชิงจิตวิทยา อ่านแล้วงงไปงงมาเท่านั้น)... และบางที่เขาอาจจะไม่ต้องเอาคะแนนสอบเป็นเกณฑ์การรับคน มันเป็นเครื่องมือ ชี้วัดให้เขาแค่ "ตัดสินใจ" บางส่วนเฉยๆ (หรืออาจจะแทบไม่มีเลยก็ได้) ฉะนั้น อย่ากลัวไปก่อนเมื่อต้องเจอ "ข้อสอบ แบบข้อเขียน"
ด่านสอง : คุณอาจจะสัมภาษณ์กับฝ่ายบุคคล (แล้วจะรู้ได้ไง) บางที่อาจจะนัดวันถัดไป บางที่อาจจะวันเดียวกันเลย ตรงนี้คุณต้องใช้ไหวพริบคุณนะ ถ้าเขามี Email มานัดสัมภาษณ์ โปรดสังเกตุ ชื่อตำแหน่งคนที่เราจะสัมภาษณ์ด้วย!! (ถ้าโชคดี เขามีบอกรายละเอียดนะครับ) มันจะนำไปสู่ การวางแผนกลยุทธ์ของเรา ซึ่งด่านสองผมบอกได้เลยว่า ถ้าคุณต้องสัมภาษณ์กับฝ่ายบุคคล คุณควรเล่าทุกอย่างให้ "กระชับ" แต่ เนื้อหาที่ ตอบโจทย์ "Job Description" เป็นอย่างดี!!! สำคัญมากนะครับ เช่น ถ้าคุณทำในสาย programmer คุณก็แค่เล่างานที่คุณเคยทำ และสรุปใจความว่าคุณได้อะไรจากสิ่งนั้นบ้าง
**** แต่!!!!!!! HR บางท่านเขาก็รู้เรื่องเทคนิคนะครับ ถ้าเขาเกิดถามในเชิง "ลึก" คุณก็เข้าใจได้เลยว่า ไม่ธรรมดาและครับ ต้องเตรียมไว้บ้างนะครับ
ด่านสาม (และอาจจะเป็นด่านท้ายสุด) : คุณอาจจะต้องสัมภาษณ์กับหัวหน้างาน คุณ ที่คุณจะต้องไปทำงานกับเขา ถึงตอนนี้ผมบอกได้เลยว่า มีอะไรใส่ให้หมด คุณจะจัดเต็มอะไร (เช่น คุณอาจจะ present ผลงานผ่าน powerpoint ) ใส่ไม่ยั้งครับ จงระลึกไว้เสมอ "โอกาสดีๆ" มันไม่ได้เกิดบ่อยๆ และ มันจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตเราก็ได้ จงขอให้คุณเต็มที่ และแสดงตัวตนที่แท้จริงคุณมากที่สุด (ตัวตนในที่นี้ คือ เป็นตัวตนที่เรา "เชื่อว่า" มันเป็นประโยชน์ต่อองค์กรสูงสุดด้วยนะ ไม่ใช่ตัวตนพวก กะโหลกกะลา)
** บางที่เขาอาจจะไม่ได้รับ คนเพราะคุณเก่ง คุณเทพ... คุณประสบความสำเร็จมาหลายที่ แต่เขาอาจจะรับคุณ เพราะ "ทัศนคติ" ของคุณก็ได้ และผมก็เชื่อว่า "ทัศนคติ" ของคนมันเป็นเรื่อง "เฉพาะบุคคล" และ "สอนกันไม่ได้"
สุดท้ายคุณอาจต้องคิดเผื่อตอบคำถามที่ว่า
- ถ้าคุณย้ายออกจากงานจากที่เก่า มาที่ของเรา แล้วที่เก่าขาดคุณไปเขาจะไม่แย่หรอ???
- คุณวางแผนในการโอนย้ายงานที่เก่ากับคนในทีมอย่างไร???
คิดให้ดีนะครับ ไม่ใช่อยากได้งานบริษัทนี้จน "ลืม" ความผิดชอบชั่วดี ของบริษัท ปัจจุบัน
สิ่งเหล่านี้ ผมทดสอบแล้ว... ว่าได้ผล "จริง" แต่คุณต้อง "พิสูจน์" ด้วยตัวคุณเองเท่านั้น
สัมภาษณ์ทีไหนใครก็ไม่รับ ไม่รู้จะทำอย่างไร จง!!! อ่านทางนี้
องค์กรนี้ผมเชื่อว่าใครหลายๆ คน "ก็อยากเข้า" รวมถึงตัวผมด้วยที่อยากเข้ามาก แต่ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้มันทำให้ "เป็นความกดดัน" และ "ประหม่า" ในที่สุด
ฉะนั้นก่อนที่จะไปสัมภาษณ์คุณควรจะสละเวลาซักนิดอ่าน (
- Job Description/รายละเอียดของงาน อ่านให้ได้ใจความว่า ตำแหน่งที่คุณจะไปสัมภาษณ์ เขาจะให้คุณทำอะไร ใช้ทักษะความสามารถอะไรบ้าง เพื่อจะได้ตอนที่เรา "เล่า" ประสบการณ์ทำงานที่โดน และคนสัมภาษณ์เขาจะได้ตรวจสอบได้ว่า "สิ่ิงที่เราถ่ายทอดไป" มันตรงความต้องในตำแหน่งในองค์กรเขามากแค่ไหน? (และยิ่งไปกว่านั้น ให้ถามคนที่เราติดต่อด้วยให้ละเอียดว่า ถึงขั้นต้องเตรียมตัวเป็นภาษาอังกฤษไหม)
- อ่านประวัติองค์กร สมัยนี้อะไรก็เข้าเว็บกันได้ ลองดู About us ซักนิด ว่าเขาทำเกี่ยวกับอะไร เขามีเป้าหมายอะไรบ้าง และที่สำคัญ "ทัศนคติ หรือ Vision เขาเป็นอย่างไรบ้าง ผมเชื่อได้เลยว่า เขาต้องการรับคนที่ เวลาเข้าไปแล้ว ต้องมีจุดมุ่งหมายคล้ายคลึงกันกับตัวแนวคิดขององค์กร
- การสัมภาษณ์งาน ที่ผมเจอเดี๋ยวนี้มันมีมากกว่า 1 รอบ! ผมขอนิยามว่า ด่าน ซึ่ง (ซึ่งตรงนี้ก็ต้องถามรายละเอียดกับคนที่เราติดต่ออีกเช่นกัน)
สิ่งสำคัญเราต้องวาง กลยุทธ์ ยิ่งเป็นองค์กรที่คุณอยากเข้าไปทำงานด้วยแล้ว คุณคงไม่อยากเสียเวลา และทิ้งโอกาสมันไปใช่ไหมละ ฉะนั้น "จง!!" วางแผน เข้าตี... (คนละเรื่องและ) อย่างชาญฉลาด และ ได้ผลมากที่สุด
ด่านแรก : เราอาจจะเจอข้อเขียน อะไรไม่รู้เต็มไปหมด การเตรียมตัว ก็คงต้องเป็นวิชาการ ที่คุณต้องไปตอบเขาให้ได้ (ซึ่งบางที่ อาจจะเป็นแค่ข้อสอบ เชิงจิตวิทยา อ่านแล้วงงไปงงมาเท่านั้น)... และบางที่เขาอาจจะไม่ต้องเอาคะแนนสอบเป็นเกณฑ์การรับคน มันเป็นเครื่องมือ ชี้วัดให้เขาแค่ "ตัดสินใจ" บางส่วนเฉยๆ (หรืออาจจะแทบไม่มีเลยก็ได้) ฉะนั้น อย่ากลัวไปก่อนเมื่อต้องเจอ "ข้อสอบ แบบข้อเขียน"
ด่านสอง : คุณอาจจะสัมภาษณ์กับฝ่ายบุคคล (แล้วจะรู้ได้ไง) บางที่อาจจะนัดวันถัดไป บางที่อาจจะวันเดียวกันเลย ตรงนี้คุณต้องใช้ไหวพริบคุณนะ ถ้าเขามี Email มานัดสัมภาษณ์ โปรดสังเกตุ ชื่อตำแหน่งคนที่เราจะสัมภาษณ์ด้วย!! (ถ้าโชคดี เขามีบอกรายละเอียดนะครับ) มันจะนำไปสู่ การวางแผนกลยุทธ์ของเรา ซึ่งด่านสองผมบอกได้เลยว่า ถ้าคุณต้องสัมภาษณ์กับฝ่ายบุคคล คุณควรเล่าทุกอย่างให้ "กระชับ" แต่ เนื้อหาที่ ตอบโจทย์ "Job Description" เป็นอย่างดี!!! สำคัญมากนะครับ เช่น ถ้าคุณทำในสาย programmer คุณก็แค่เล่างานที่คุณเคยทำ และสรุปใจความว่าคุณได้อะไรจากสิ่งนั้นบ้าง
**** แต่!!!!!!! HR บางท่านเขาก็รู้เรื่องเทคนิคนะครับ ถ้าเขาเกิดถามในเชิง "ลึก" คุณก็เข้าใจได้เลยว่า ไม่ธรรมดาและครับ ต้องเตรียมไว้บ้างนะครับ
ด่านสาม (และอาจจะเป็นด่านท้ายสุด) : คุณอาจจะต้องสัมภาษณ์กับหัวหน้างาน คุณ ที่คุณจะต้องไปทำงานกับเขา ถึงตอนนี้ผมบอกได้เลยว่า มีอะไรใส่ให้หมด คุณจะจัดเต็มอะไร (เช่น คุณอาจจะ present ผลงานผ่าน powerpoint ) ใส่ไม่ยั้งครับ จงระลึกไว้เสมอ "โอกาสดีๆ" มันไม่ได้เกิดบ่อยๆ และ มันจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตเราก็ได้ จงขอให้คุณเต็มที่ และแสดงตัวตนที่แท้จริงคุณมากที่สุด (ตัวตนในที่นี้ คือ เป็นตัวตนที่เรา "เชื่อว่า" มันเป็นประโยชน์ต่อองค์กรสูงสุดด้วยนะ ไม่ใช่ตัวตนพวก กะโหลกกะลา)
** บางที่เขาอาจจะไม่ได้รับ คนเพราะคุณเก่ง คุณเทพ... คุณประสบความสำเร็จมาหลายที่ แต่เขาอาจจะรับคุณ เพราะ "ทัศนคติ" ของคุณก็ได้ และผมก็เชื่อว่า "ทัศนคติ" ของคนมันเป็นเรื่อง "เฉพาะบุคคล" และ "สอนกันไม่ได้"
สุดท้ายคุณอาจต้องคิดเผื่อตอบคำถามที่ว่า
- ถ้าคุณย้ายออกจากงานจากที่เก่า มาที่ของเรา แล้วที่เก่าขาดคุณไปเขาจะไม่แย่หรอ???
- คุณวางแผนในการโอนย้ายงานที่เก่ากับคนในทีมอย่างไร???
คิดให้ดีนะครับ ไม่ใช่อยากได้งานบริษัทนี้จน "ลืม" ความผิดชอบชั่วดี ของบริษัท ปัจจุบัน
สิ่งเหล่านี้ ผมทดสอบแล้ว... ว่าได้ผล "จริง" แต่คุณต้อง "พิสูจน์" ด้วยตัวคุณเองเท่านั้น