ได้ฤกษ์ประเดิมกระทู้แรกสำหรับพันทิปโฉมใหม่ซักที หลังจากจดๆจ้องๆอยู่นานนนนน ^^'

เมื่ออาทิตย์ก่อนได้มีโอกาสแทรกตัวเองไปกับเพื่อนที่เป็นสื่อมวลชน ตอนแรกก็คิดว่าเป็นงานเปิดตัวของบริษัททั่วๆไปแต่พอได้เข้าไปมีส่วนรวมแล้วคิดว่าค่อนข้างจะเป็นงานที่มีประโยชน์เลยอยากจะแชร์ให้ทุกๆคนได้ดูกันค่ะ ให้รายละเอียดนิสนึงเผื่อใครอยากไปลองกล้องถ่ายภาพหรือสนใจงานประติมากรรมของศิลปินแห่งชาติก็ไปตามถ่ายกันได้เลยที่งานนี้ งานนิทรรศการสานสรรค์งานศิลป์ ที่โชว์รูมฮาวายไทย  ชื่องาน "สานสรรค์งานศิลป์ 2012" ค่ะ

เริ่มด้วยบรรยากาศภายในงาน บอกก่อนว่าที่จัดเป็นโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ ก็จะได้เห็นเฟอร์นิเจอร์สวยๆกันด้วย แอบถ่ายรูปเก็บไว้ แต่ตอนนี้ยังไม่มืดมากเลยยังไม่มีใครมากวนตอนถ่ายภาพ  ออกตัวก่อนนะคะว่าไม่มีความรู้ด้านศิลปะอะไรกับเค้าเลย ข้อมูลทุกอย่างได้จากข้อความบรรยายใต้ผลงานเท่านั่น ผิดพลาดประการใดข้ออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยจร้าาา




งานชิ้นแรกเป็นของศิลปินแห่งชาติประจำปี 2548 อาจารย์ทวี  รัชนีกร
ชื่อผลงานคือ ปลาสีแดง มองจากมุมนี้แล้วสวยจริงๆ
อาจารย์สร้างงานขึ้นมาเพื่อสะท้อนวิถีชีวิตของคนไทยที่ว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว
เพราะตัวชิ้นงานวางอยู่บนกระจก แสดงให้เห็นถึงการสะท้อนของชิ้นงานในกระจก  ลึกซึ้งจริงๆ .



ชิ้นนี้เป็นผลงานของอาจารย์อดิเรก  โลหะกุล ชื่อ ข้างแรม แนวคิดของอาจารย์ผู้นี้ลึกซึ่งมากๆๆ
อาจารย์เขียนอธิบายงานเอาไว้ว่า การที่แสงจันทร์ในหนึ่งเดือนแบ่งเป็นข้างขึ้นและข้างแรมนั่น
ขณะที่เกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างข้างขึ้นกับข้างแรม ก็เหมือนกับความคิดที่สว่างไสวข้างขึ้นที่พลันแปลเปลี่ยนไปเมื่อข้างแรมมาถึง
ทิ้งไว้แต่ความทรงจำของข้างขึ้น โอ้โห อธิบายได้หล่อมากๆๆ ^__^



ชิ้นถัดมาเลยค่ะ ตอนแรกงงว่ามันคืออะไรเข้าไปอ่านคำบรรยายจึงทราบว่าเป็นรูปทรงดอกบัว (ต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่ค่อยอาร์ตเลยเรา)
แต่รูปนี้ถ่ายตอนกลางคืนมาค่ะ คิดว่าทำให้ชิ้นงานโดดเด่นอยู่น้าาา... อาจารย์ผู้ผลิตผลงานนี้ชื่อว่า ฤทัยรัตน์  คำศรีจันทร์ ชื่อผลงานใบบัว โดยอาจารย์เปรียบงานของอาจารย์เป็นดั่ง “หยดน้ำ” ไม่สามารถซึมผ่านใบบัวได้ฉันใด กิเลสใดๆก็ไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปในหัวใจของผู้มีธรรมได้ฉันนั้น ซึ่งอาจารย์เปรียบเส้นใยที่พันรอบดอกบัวเป็นดั่งกิเลสต่างๆที่มาเกาะเกี่ยวอยู่บนใบบัวได้เพียงภายนอกเท่านั่น  คมมากๆๆค่ะอาจารย์



เราลองออกไปนอกอาคารเพื่อชมงานชิ้นอื่นๆกันบ้างนะคะ
ชิ้นนี้วางอยู่ในน้ำ แต่เสียดายน้ำขุ่นไปหน่อย 5555
เป็นผลงานของอาจารย์ศราวุธ  ดวงจำปา ชื่อ พลังแห่งสุริยะ
งานชิ้นนี้จำคอนเซปต์ไม่ได้  ไว้ใครดูแล้วสนใจลองไปอ่านดูอีกทีนะคะ



ชิ้นนี้ชื่อผลงานว่า face ของอาจารย์อัฐพร  นิมมาลัยแก้ว ดูลึกลับน่าเกรงขามดีนะคะ โชว์รูมเปิดให้ชมผลงานถึง 19.00 น. หากใครต้องการได้ภาพแบบที่เค้าเปิดไฟแล้วก็ไปกันตอนเย็นๆหน่อยนะคะ



ไปต่อกันเลยค่ะ  กลับเข้าไปในอาคารกันค่ะ ชิ้นต่อไปของอาจารย์ไพยันต์  บรรจงเกลี้ยง ชื่อผลงาน สัมพันธภาพแห่งรูปทรง



ชื่อผลงาน ดอกไม้ ของอาจารย์ ณภัทร  ธรรมนิยา งานชิ้นนี้ดูอ่อนช้อยมากๆค่ะ แม้ว่าชิ้นจะใหญ่นะคะ



ชิ้นต่อไปคือ บิดเกลียว ของอาจารย์ นภดล วิรุฬชาตะพันธ์ค่ะ



ชิ้นนี้ของอาจารย์วิชญ มุกดามณี ชื่อผลงาน "สัมพันธภาพของธรรมชาติและเทคโนโลยี หมายเลข 1และหมายเลข 2"
โอ้ชื่อยาวเชียวค่ะแต่สีสันโดดเด่นมากๆค่ะ อันนี้ดูเป็นผลงานไม่กี่ชิ้นที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ที่ผสมวัสดุอื่นๆด้วย ดูอินเตอร์ดีนะคะ



ข้างๆกันเป็นผลงานของอาจารย์ วราวุฒิ  โตอุรวงศ์ ชื่อว่าเส้นสี  ดูชื่อสัตย์ชัดเจนดีนะคะ แต่แอบคิดไปว่ามันคือ พอล สมิท หรือเปล่า อิอิ ขอโทษค่ะอาจารย์



สองชิ้นสุดท้ายในอาคาร เอาด้านใกล้ก่อนนะคะที่เป็นไฟสีขาว ผลงานของอาจารย์พรรษา  พุทธรักษา ชื่องาน “รัง”  ถ้าเข้าไปดูใกล้ๆจะมีรูปแบบเหมือนใบไม้ 3 ใบมาประกบกันค่ะเหมือนรังมดแดงประมาณนั่น  ส่วนอีกชิ้นไฟสีเหลืองชื่องานว่า “ต้นแสง” เป็นผลงานของอาจารย์มานะ เอี่ยมวัฒนะค่ะ



ชิ้นนี้อลังการมากค่ะให้ความเป็นพุทธศาสนามากๆ เป็นผลงานของอาจารย์คงศักดิ์ กุลกลางดอน ชื่อผลงานว่า “สันติภาพแห่งโลก”  แค่ชื่อก็ยิ่งใหญ่แล้วนะคะ แนวคิดของชิ้นนี้ “สันติภาพที่แท้จริงเกิดขึ้นจากความสงบภายในจิตใจ”  อืมซึ้งค่ะ



ไปต่อชิ้นงานกลางแจ้งเหลืออีก 2 ชิ้นค่ะ
ชิ้นต่อไปของอาจารย์ถนอมจิตร์  ชุ่มวงค์ มีชื่อว่า ปฐวี ดูๆไปแล้วมันเหมือนสัตว์นะคะมีเขามีขา นารักดีค่ะ



ชิ้นสุดท้ายเป็นผลงานของอาจารย์วิโชค  มุกดามณี ชื่อผลงานว่าสัญลักษณ์แห่งชีวิตค่ะ
อาจารย์ได้รับเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติในปีนี้ด้วยค่ะ



รูปหมดแล้ว ถ่ายมาแค่นี้ค่ะ แต่จริงๆยังมีอีกเยอะน๊าาา นี่ขนาดเราไม่ใช่เซียนงานศิลปะนะ ไปเดินๆดูยังรู้สึกสนุก ได้อ่านความหมายของชิ้นงานในแต่ละชิ้น สะท้อนใจ สะท้อนความรู้สึกได้ดีทีเดียวค่ะ เห็นบางคนพกกล้องเทพมีเลนส์ส่องได้ถึงดาวอังคารไปถ่ายกัน คงถูกใจคอถ่ายภาพน่าดูมีทั้ง indoor outdoor สำหรับเราไปดูแค่นี้ก็รู้สึกตัวเองดูดีมีสไตล์ขึ้นเยอะะะะ คริคริ >___<

ส่วนใครอยากไปดูงานมีถึงวันที่ 28 ก.พ นี้นะคะ จัดที่โชว์รูมฮาวายไทย เฟอร์นิเจอร์แกลลอรี่ ถ.เพชรพระราม นะจ๊ะ ^^