เมื่อก่อนผมก็ตั้งใจว่าจะไม่เล่าเรื่องราวแบบนี้หรอก มันเหมือนเราประสบความสำเร็จในชีวิตอะไรสักอย่างแล้วมาลงให้คนอื่นดูซึ่งมันก็ดีนะแต่ผมไม่เคยรู้สึกประสบความสำเร็จอะไรมาเลยไม่รู้จะเขียนยังไง แล้วมีเว็บในกลุ่มหนึ่งเค้าให้แนะนำตัวซึ่งแต่ละคนก็เล่าประวัติชีวิตมาผมก็เลยเล่าในส่วนที่เรียนหนังสืออยู่ละกันเพราะอายุยังไม่มากเท่าไหร่ เล่าเสร็จคิดว่าเอามาลงใน Pantip ต่อก็น่าจะดีเหมือนกันเลยมาเล่าในนี้ด้วยละกันครับ อันนี้ผมก็อปแปะมาจากเว็บภาษาอาจไม่ค่อยดู public นักในบางส่วนก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ
สมัยเด็กตอน ป.4 ผมติดเกมกับน้องไปเล่นเกมนอกบ้านแล้วโดนดักตี พ่อเลยกู้เงินซื้อคอมมาให้เล่นอยู่บ้าน พอเล่นเกมไปสักพักช่วง ม. ต้นก็เริ่มสนใจโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็ทำโปรแกรมจิปาถะใช้ไปตามประสาเด็ก nerd เวลาเลิกเรียนก็จะเอาเงินค่าขนมไปเช่าร้านเน็ตอัพโปรแกรมลงเว็บ Thaiware.com ของพี่นิ้งกับตอบเมล์
วันนึงกลับดึกมากพ่อแม่รู้ว่ามาอัพโปรแกรมไม่ได้ติดเกมก็ติดเน็ตให้ได้ทำพวก software ต่างๆ เคยเอาผลงานที่ทำแจกในไทยแวร์ไปสมัคร NSC ชนะเลิศด้วย ตอนนั้นก็รู้สึกผิดเหมือนกันเพราะรู้สึกว่าตัวเองไปโกงเค้า เขียนโปรแกรมไม่เป็นแท้ๆแล้วเอา code เอา tool มา compile ใส่มั่วๆ attribute อะไรไม่รู้จักเลย 555+
ได้เงินรางวัลมาก็เอามาซื้อคอมดีๆใช้ซะทีหลังจากที่ใช้คอมเก่าทำโปรแกรมให้เครื่องไวมานาน ช่วง ม. ปลายหัวเลี้ยวหัวต่อก็อยากจะเรียนวิศวะคอมอยู่แล้ว แต่ไปศึกษาดูเรียนทั้ง hardware software network แล้วจบมาจะเป็น software developer ก็ไม่ตรงเท่าไหร่ จะเรียน com sci ก็กลัวโดนดูถูกว่าเป็นลูกน้องวิศวะเลยเอาวิศวะซอฟ์แวร์ดีกว่า น่าจะโดน
แต่ปัญหาคือมันมีแต่ภาค inter และค่าเทอมก็แพงมหาศาล ตั้ง 6 หมื่นซึ่งสำหรับเด็กบ้านนอกคงเป็นได้แค่ความฝัน จนขนาดพ่อถามว่าเปลี่ยนคณะดีมั้ยลูก ตอนนั้นก็น้อยใจพ่อไปหลายปีอยู่เหมือนกัน แต่แม่ก็บอกให้ลูกเรียนเถอะ แม่มีเงินที่แอบเก็บมาอยู่ 20 ปีอยู่ 3 แสน คิดๆดูแล้วมันก็น้อยมากนะเพราะกว่าจะจบมาก็หมดเป็นล้าน
นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่ผมต้องหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้เงินมา ผมเลยติดต่อกับ website ที่รู้จักเสนอไปว่าจะทำ app ลงเว็บเป็นพิเศษให้โดยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนโอนมาเอา ก็ตกลงกับเค้าได้ที่ $650 ต่อเดือนก็น่าจะพอจ่ายค่าเทอมชิลๆ ผมเลยส่งตัวเองเรียนแทน พ่อแม่จะได้ไม่ลำบาก
พอเล่าให้พ่อแม่ฟัง ก็เหมือนจะไม่หวังอะไร บอกว่าฝรั่งเค้าจะหลอกเอา ตอนเค้าโอนเงินมาแม่ดีใจโดดกอดเลย ตอนได้เข้ามหาลัยผมจึงมาดมั่นมากว่าเราส่งตัวเองเรียนนะเว้ย เทพแสดๆอ่า จนหลายคนรอบข้างระอาไปพอสมควรตามประสาคนมี ego คิดว่าตัวนั้นสูงใหญ่
สมัยอยู่ปี 1 นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศรั้วมหาลัยแล้วผมยังได้สัมผัสบรรยากาศของมนุษย์เงินเดือนไปได้พร้อมๆกัน ตอนแรกที่กดเงินหมื่นมาซื้อ iRiver H320 มาใช้แทน iRiver ตัวพันกว่าที่แม่ให้เป็นรางวัลสอบเข้าได้ ผมงี้มือสั่นเลย เงินหมื่นที่ต้องควักจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองมันหนักจริงๆครับสำหรับเด็กอายุ 18 ปี หูฟังเป็นหมื่นลืมไปได้เลย
พอผ่านไปได้ปีนึง ความ
หรือโอกาสที่เปลี่ยนชีวิตก็มาเยือน ผมตกงานครับเนื่องจาก campaign ที่ตกลงไว้ไม่ค่อย effective และมีปัญหาว่า project ที่ลงเป็นของใคร เค้าเลย terminate ซะ มรสุมลูกแรกใหญ่ๆได้มาเยือนผมซะแล้วสิ ตอนนั้นเองที่ผมได้รับรู้ถึงรสชาติของชีวิตว่าการหมดตัวมันเป็นยังไง
แต่โอกาสก็มาทันทีคือมีเจ้าของเว็บ jcxp.net ชวนไปอยู่ด้วยให้ทำ web กับ host เค้าได้ พอจัดการเว็บเสร็จเค้าก็แนะนำให้ลง Google AdSense ซึ่งพอติดไปแล้วก็มีรายได้เฉลี่ยหมื่นกว่าๆก็ทำให้ผมพอเห็นความหวังว่าคงจะพอส่งตัวเองจนเรียนจบได้แหละเพื่อชีวิตที่ใฝ่ฝันว่าจะเป็นโปรแกรมเมอร์ในบริษัทหย่ายๆ
แต่ไม่วายก็ซวยอีกเมื่อขึ้นปี 2 มาได้สักพักเพราะอยู่หอในด้วยความบังคับจากพ่อแม่ว่ามันถูก ผมมีรุ่นน้องเข้ามาใหม่สองคนในห้อง ซึ่งมีคนนึงที่ชอบกลับมาดึก มาตี 2-3 ประจำ ผมก็ต้องพยายามอยู่รอจนน้องเค้ากลับเข้ามานะค่อยล็อกห้องนอนกลัวจะมีคนมาขโมยของซึ่งก็ระวังมาตลอดเทอม จนช่วงสอบนี่แหละ กะแวะไปกินข้าวหน้ามหาลัยแล้วจะกลับไปอ่านหนังสือต่อก็เจอเพื่อนชวนไปให้ติว ผมก็บอกไปว่าทิ้งคอมไว้กลัวหายเค้าบอกว่าไม่นาน
แต่พอไปถึงจริงๆก็รอจนได้อารมณ์ติวก่อนแหละ รอเพื่อนบ้างเล่นเกมกันบ้างจนดึกละก็เริ่มติวกัน สุดท้ายผมก็ไม่ได้กลับไปแล้วตื่นมาก็รีบไปห้องสอบกันเลย ผมรีบทำข้อสอบออกมาด้วยความกังวลว่า notebook และ project ที่ผมกำลังจะ release จะอยู่ดีไหม แล้วฟ้าก็ผ่าลงกลางหัวผมเมื่อเปิดประตูเข้าไป notebook หาย งานก็หายไปกับ notebook
แต่โชคยังดีที่โจรมันรีบเลยดึงเอา hdd external ทิ้งไว้ซึ่งมี backup ของงานเมื่อเดือนก่อน ถ้าหายหมดเลยชีวิตผมคงต้องเริ่มจาก 0 ใหม่อีกรอบ ตอนนั้นผมต้องรีบหาเครื่องมาเตรียม project ใหม่ ก็พอยืม notebook จากเพื่อนในภาคมาแก้ขัดได้คืนหนึ่งแต่ก็ซวยอีกเพราะเครื่องใหม่เค้ามาอยู่ๆ hdd มันก็ defect เองทำเอาผมต้องผิดใจกับเค้าอีก ซวยจริงๆ ตอนนั้นกุไม่ได้ทำเครื่องตกหรือทำพิเรณอะไรกับเครื่องจริงๆนะ กุขอโทษจริงๆว่ะ
ในเมื่อ notebook ไม่อาจรอได้อีกแล้วและผมก็เพิ่งจ่ายค่าเทอมที่ 2 ไปเหลือเงินอยู่ไม่กี่หมื่น จะเข้าค่ายคอมแล้วด้วยต้องเอาเงินเก็บเหลือพอจะซื้อ notebook ได้เครื่องหนึ่งพอดีมาซื้ออีกที ก่อนเครื่องหายตั้งใจว่าจะไม่ซื้อ Acer ซ้ำซากเด็ดขาดแต่ตอนนี้ต้องซื้อแล้วและ spec ที่ดูน่าซื้อก็ดันเป็น Acer จนโดนเพื่อนล้อไปข้ามปีว่าเป็นสาวก Acer แถมเงินไม่พอต้องขอยืมแม่ก่อนอีก 5 พัน
พอได้เครื่องใหม่มาแล้ว ผมก็รีบ clear project ต่อให้เสร็จและช่วงนั้นเองก็ปิ๊ง idea หนึ่งที่กำลังกลายเป็นที่นิยมในตอนนี้ได้ว่าโปรแกรมฟรีจะสร้างรายได้ได้ยังไงบ้าง ผมก็ใส่ idea นั้นลงไปก่อนที่จะ release ผลงาน เนื่องจาก project ที่ผมทำมีคนใช้ทั่วโลกกว่าล้านคนในตอนนั้น check จากเงินหมื่นกลายเป็นเงินแสนได้ในช่วงสัปดาห์สุดท้าย เป็นวันเกิดที่เปลี่ยนชีวิตผมโดยสิ้นเชิง
หลังจากนั้นมาเช็คก้อนโตก็มาโดยไม่หยุดหย่อน ดูเหมือนชีวิตจะราบรื่นไปได้ดีแต่มรสุมลูกใหม่ก็ใกล้เข้าในและโหมกระหน่ำในช่วงที่ฝึกงานที่ได้ใช้เวลาแบบพนักงานประจำของจริง มันอาจจะเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของผมก็เป็นได้ และเป็นช่วงที่ผมเกือบจะสูญสิ้นทุกอย่างโดนสิ้นเชิงไป
ช่วงฝึกงานนั้นผมก็ต้องเตรียมทำ project จบกับเพื่อนด้วยและกลุ่มผมก็เหมือนจะเป็นกลุ่มหัวกะทิของภาค หลังจากที่สรุปงานกันออกมา scale ของ project ใหญ่มากแบบทำให้ตายก็ไม่น่าจะทำได้สมบูรณ์ 100% และมีแต่มือใหม่หัดทำกันหมด ตอนนั้นผมอยากจะบังคับให้ทำเว็บข้อมูลสินค้าแทนเลยจริงๆ ตอนนี้เว็บ notebookspec.com กลายเป็นเว็บที่ผมอยากทำในตอนนั้นและผมก็ต้องทำทั้งฝึกงาน project จบ และ project ส่วนตัว
นอกจากทำงานปกติจะลำบากมากพออยู่แล้ว ผมต้องทำทั้ง project จบและ project ส่วนตัวไปด้วย ถึงผมจะชินกับการนอนตี 3 ตื่น 7 โมงเช้าแต่ฝึกงานมันเพลียกว่าเรียนหนังสือนัก ผมเผลอหลับเลยป้ายรถเมล์แทบทุกวัน ไม่กล้านั่งวินเพราะกลัวจะหลับตกรถลงไป มันเป็นช่วงที่บั่นทอนสุขภาพกายและสุขภาพจิตมากและมันทำให้ผมเป็นคนหงุดหงิดฉุนเฉียวได้ง่ายจนทำให้บรรยากาศ project จบนั้นแย่ลงๆ
แต่นั้นเป็นเพียงน้ำจิ้ม เพราะวันหนึ่งผมเข้ามา office เปิดเว็บ check mail ไม่ได้ password ผิดพลาด account PayPal ผมก็เข้าไม่ได้ พอหาทางเข้าได้ก็โดนถอนเงินไปหมด ผมเริ่มเอะใจว่า domain เว็บจะเป็นยังไงบ้าง พอเข้าไป check ดูกลับกลายเป็นว่าโดนย้ายไปแล้ว วันนั้นผมโดน hack ปอกลอก online identify ไปทั้งหมดเลย ในช่วงเวลาที่ผมกำลังลำบากที่สุดในชีวิต
ผมต้องวิ่งวุ่นติดต่อประสานงานกับเจ้าของ domain ทำ passport ยืนยันหลักฐานต่างๆตามส่งไปเพื่อกู้เอาสิ่งที่เสียไปคืนมาซึ่งสุดท้ายผมก็ทวงกลับมาได้ แต่ความรู้สึกที่เพื่อนร่วมทีมเสียไปนั้นคงยากที่จะเอากลับมาได้ และผมเองก็ไม่เคยที่จะอธิบายขอความเห็นใจจากเขาเพราะมันเป็นความผิดพลาดของผมเอง
หลังจากผ่านมรสุมที่เลวร้ายที่สุดไปได้แล้ว ผมก็ต้องมาเหนื่อยกับปั่น project จบให้เสร็จทันก่อนส่งในช่วงปี 4 นี้ แต่ละคนก็ทั้งเครียดและกดดันสุดๆจนเกือบได้ทะเลาะวิวาทกันเพราะความกดดันและความ
มนุษย์สัมพันธ์ไม่ดีของผมในตอนนั้นจนในที่สุดโปรเจ็คก็เสร็จลงได้ แต่เกรดไม่ออกสักที เกือบจะไม่ได้ A แล้วเพราะอาจารย์ที่ปรึกษาแกมาตราฐานสูงที่สุดแล้ว เราเป็นหัวหน้าทีมรับผิดชอบด้วย ตอนนั้นคิดว่าถ้าไม่ได้ A portfolio ของเพื่อนจะเป็นยังไง ตั้งใจไว้แรกแล้วว่าหากจำเป็นจะยอมเป็นยักษ์ให้เพื่อนโกรธเพื่อนเกลียดแล้วจบ project ได้ A ดีกว่าทำงาน happy กับเพื่อนแต่ project ไม่ผ่าน ถ้าไม่ได้ A แล้วมันจะมีความหมายอะไร ก็พยายามอ้อนวอนอาจารย์จนใจอ่อนให้ไปเพราะเนื้องานแน่นที่สุด
หลังจากเรียนจบผมก็พยายามที่จะหางานทำเหมือนๆกับเพื่อน พยายามจะทำในสิ่งที่คนธรรมดาน่าจะทำเหมือนกัน แต่ตอนรับปริญญานั้นกระดาษแผ่นนั้นช่างเบาโหว่งไม่มีน้ำหนักอะไรจริงๆ พวกคุณพยายามกันแทบตายเพื่อให้ได้กระดาษสมมติบางๆใบนี้เนี่ย ทำไมถึงต้องทำหน้าหน้าระรื่นดีใจกันหมดตอนได้รับปริญญากันด้วย ณ จุดนั้นเอง ผมก็ได้พบสัจธรรมว่าชีวิตที่ใฝ่ฝันของผมนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ผมสมมติขึ้นมา มันไม่มีอยู่จริง
หลังจากตระเวนสัมภาษณ์งานไปได้สักพัก ซึ่งก็น่าแปลกที่บริษัทส่วนมากที่เรียกผมไปสัมภาษณ์ก็พร้อมจะรับคนเก๊ๆกังๆคุยไม่ค่อยเป็นผู้เป็นคนแบบผมเท่าไหร่มาทำงานได้ง่ายกว่าที่คิด แต่ก็ปฏิเสธไปเพราะผมเลือกงานและไม่แน่ใจว่าเราจะขายเวลาและอิสรภาพของเราเพื่อเงินที่ไม่ได้ต้องการมากมายนี้ไปทำไม ผมอยากทำอะไรที่ดูมีคุณค่า มีความหมาย งานมันน่าจะเป็นอะไรที่มากกว่าการขายแรงงานสิ
และวันหนึ่ง วันที่ผมกำลังจะเตรียม music server ออกงานเครื่องเสียงให้ร้านที่คนรู้จักแนะนำมา มีโทรศัพท์นักสัมภาษณ์งานจากบริษัทและตำแหน่งที่ผมใฝ่ฝันถึง 2 บริษัทพร้อมๆกันเพราะผมก็ไม่ได้วาดฝันไปไกลกว่านั้น แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะบอกลากับมายาในความฝัน สิ่งที่ผมอยากจะทำนั้นไม่ต้องมีคุณค่าอะไรมากมายก็ได้ ไม่ต้องให้ใครยอมรับก็ได้ ไม่ต้องได้เงินก็ได้
จบมาแล้วก็ใช่ว่าจะดีอะไรหรอกครับ พอเค้าไม่สั่งให้ไปเรียนทำนั่นทำนี่แล้วชีวิตจะทำอะไรดี ชีวิตเราจริงๆมีอะไรบ้าง สังเกตดูคนอื่นเค้าก็มีเพื่อน มีสังคม มีสีสันของชีวิตดีส่วนเราไม่ได้ทำแบบเขา มี่ประสบการณ์แบบเขา ทำตัวน่าคบเหมือนเขา ก็เคว้งไปปีสองปีได้กว่าจะเข้าร่องเข้ารอย ทุกวันนี้ก็สบายดีครับแม้จะแอบเหงานิดๆเวลาเห็นรูป party ของคนอื่นๆใน facebook และดีใจที่ปีที่แล้วก็คลายปมบางอย่างไปได้บ้าง วัยเรียนของผมก็จบลงตรงนี้ครับ แต่บทเรียนชีวิตยังต้องศึกษาต่อไป
หลายคนแชร์ชีวิตวัยทำงานไปละ ผมขอแชร์ชีวิตในวัยเรียนของผมหน่อยครับเผื่อจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กับคนอื่นได้
สมัยเด็กตอน ป.4 ผมติดเกมกับน้องไปเล่นเกมนอกบ้านแล้วโดนดักตี พ่อเลยกู้เงินซื้อคอมมาให้เล่นอยู่บ้าน พอเล่นเกมไปสักพักช่วง ม. ต้นก็เริ่มสนใจโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็ทำโปรแกรมจิปาถะใช้ไปตามประสาเด็ก nerd เวลาเลิกเรียนก็จะเอาเงินค่าขนมไปเช่าร้านเน็ตอัพโปรแกรมลงเว็บ Thaiware.com ของพี่นิ้งกับตอบเมล์
วันนึงกลับดึกมากพ่อแม่รู้ว่ามาอัพโปรแกรมไม่ได้ติดเกมก็ติดเน็ตให้ได้ทำพวก software ต่างๆ เคยเอาผลงานที่ทำแจกในไทยแวร์ไปสมัคร NSC ชนะเลิศด้วย ตอนนั้นก็รู้สึกผิดเหมือนกันเพราะรู้สึกว่าตัวเองไปโกงเค้า เขียนโปรแกรมไม่เป็นแท้ๆแล้วเอา code เอา tool มา compile ใส่มั่วๆ attribute อะไรไม่รู้จักเลย 555+
ได้เงินรางวัลมาก็เอามาซื้อคอมดีๆใช้ซะทีหลังจากที่ใช้คอมเก่าทำโปรแกรมให้เครื่องไวมานาน ช่วง ม. ปลายหัวเลี้ยวหัวต่อก็อยากจะเรียนวิศวะคอมอยู่แล้ว แต่ไปศึกษาดูเรียนทั้ง hardware software network แล้วจบมาจะเป็น software developer ก็ไม่ตรงเท่าไหร่ จะเรียน com sci ก็กลัวโดนดูถูกว่าเป็นลูกน้องวิศวะเลยเอาวิศวะซอฟ์แวร์ดีกว่า น่าจะโดน
แต่ปัญหาคือมันมีแต่ภาค inter และค่าเทอมก็แพงมหาศาล ตั้ง 6 หมื่นซึ่งสำหรับเด็กบ้านนอกคงเป็นได้แค่ความฝัน จนขนาดพ่อถามว่าเปลี่ยนคณะดีมั้ยลูก ตอนนั้นก็น้อยใจพ่อไปหลายปีอยู่เหมือนกัน แต่แม่ก็บอกให้ลูกเรียนเถอะ แม่มีเงินที่แอบเก็บมาอยู่ 20 ปีอยู่ 3 แสน คิดๆดูแล้วมันก็น้อยมากนะเพราะกว่าจะจบมาก็หมดเป็นล้าน
นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่ผมต้องหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้เงินมา ผมเลยติดต่อกับ website ที่รู้จักเสนอไปว่าจะทำ app ลงเว็บเป็นพิเศษให้โดยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนโอนมาเอา ก็ตกลงกับเค้าได้ที่ $650 ต่อเดือนก็น่าจะพอจ่ายค่าเทอมชิลๆ ผมเลยส่งตัวเองเรียนแทน พ่อแม่จะได้ไม่ลำบาก
พอเล่าให้พ่อแม่ฟัง ก็เหมือนจะไม่หวังอะไร บอกว่าฝรั่งเค้าจะหลอกเอา ตอนเค้าโอนเงินมาแม่ดีใจโดดกอดเลย ตอนได้เข้ามหาลัยผมจึงมาดมั่นมากว่าเราส่งตัวเองเรียนนะเว้ย เทพแสดๆอ่า จนหลายคนรอบข้างระอาไปพอสมควรตามประสาคนมี ego คิดว่าตัวนั้นสูงใหญ่
สมัยอยู่ปี 1 นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศรั้วมหาลัยแล้วผมยังได้สัมผัสบรรยากาศของมนุษย์เงินเดือนไปได้พร้อมๆกัน ตอนแรกที่กดเงินหมื่นมาซื้อ iRiver H320 มาใช้แทน iRiver ตัวพันกว่าที่แม่ให้เป็นรางวัลสอบเข้าได้ ผมงี้มือสั่นเลย เงินหมื่นที่ต้องควักจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองมันหนักจริงๆครับสำหรับเด็กอายุ 18 ปี หูฟังเป็นหมื่นลืมไปได้เลย
พอผ่านไปได้ปีนึง ความหรือโอกาสที่เปลี่ยนชีวิตก็มาเยือน ผมตกงานครับเนื่องจาก campaign ที่ตกลงไว้ไม่ค่อย effective และมีปัญหาว่า project ที่ลงเป็นของใคร เค้าเลย terminate ซะ มรสุมลูกแรกใหญ่ๆได้มาเยือนผมซะแล้วสิ ตอนนั้นเองที่ผมได้รับรู้ถึงรสชาติของชีวิตว่าการหมดตัวมันเป็นยังไง
แต่โอกาสก็มาทันทีคือมีเจ้าของเว็บ jcxp.net ชวนไปอยู่ด้วยให้ทำ web กับ host เค้าได้ พอจัดการเว็บเสร็จเค้าก็แนะนำให้ลง Google AdSense ซึ่งพอติดไปแล้วก็มีรายได้เฉลี่ยหมื่นกว่าๆก็ทำให้ผมพอเห็นความหวังว่าคงจะพอส่งตัวเองจนเรียนจบได้แหละเพื่อชีวิตที่ใฝ่ฝันว่าจะเป็นโปรแกรมเมอร์ในบริษัทหย่ายๆ
แต่ไม่วายก็ซวยอีกเมื่อขึ้นปี 2 มาได้สักพักเพราะอยู่หอในด้วยความบังคับจากพ่อแม่ว่ามันถูก ผมมีรุ่นน้องเข้ามาใหม่สองคนในห้อง ซึ่งมีคนนึงที่ชอบกลับมาดึก มาตี 2-3 ประจำ ผมก็ต้องพยายามอยู่รอจนน้องเค้ากลับเข้ามานะค่อยล็อกห้องนอนกลัวจะมีคนมาขโมยของซึ่งก็ระวังมาตลอดเทอม จนช่วงสอบนี่แหละ กะแวะไปกินข้าวหน้ามหาลัยแล้วจะกลับไปอ่านหนังสือต่อก็เจอเพื่อนชวนไปให้ติว ผมก็บอกไปว่าทิ้งคอมไว้กลัวหายเค้าบอกว่าไม่นาน
แต่พอไปถึงจริงๆก็รอจนได้อารมณ์ติวก่อนแหละ รอเพื่อนบ้างเล่นเกมกันบ้างจนดึกละก็เริ่มติวกัน สุดท้ายผมก็ไม่ได้กลับไปแล้วตื่นมาก็รีบไปห้องสอบกันเลย ผมรีบทำข้อสอบออกมาด้วยความกังวลว่า notebook และ project ที่ผมกำลังจะ release จะอยู่ดีไหม แล้วฟ้าก็ผ่าลงกลางหัวผมเมื่อเปิดประตูเข้าไป notebook หาย งานก็หายไปกับ notebook
แต่โชคยังดีที่โจรมันรีบเลยดึงเอา hdd external ทิ้งไว้ซึ่งมี backup ของงานเมื่อเดือนก่อน ถ้าหายหมดเลยชีวิตผมคงต้องเริ่มจาก 0 ใหม่อีกรอบ ตอนนั้นผมต้องรีบหาเครื่องมาเตรียม project ใหม่ ก็พอยืม notebook จากเพื่อนในภาคมาแก้ขัดได้คืนหนึ่งแต่ก็ซวยอีกเพราะเครื่องใหม่เค้ามาอยู่ๆ hdd มันก็ defect เองทำเอาผมต้องผิดใจกับเค้าอีก ซวยจริงๆ ตอนนั้นกุไม่ได้ทำเครื่องตกหรือทำพิเรณอะไรกับเครื่องจริงๆนะ กุขอโทษจริงๆว่ะ
ในเมื่อ notebook ไม่อาจรอได้อีกแล้วและผมก็เพิ่งจ่ายค่าเทอมที่ 2 ไปเหลือเงินอยู่ไม่กี่หมื่น จะเข้าค่ายคอมแล้วด้วยต้องเอาเงินเก็บเหลือพอจะซื้อ notebook ได้เครื่องหนึ่งพอดีมาซื้ออีกที ก่อนเครื่องหายตั้งใจว่าจะไม่ซื้อ Acer ซ้ำซากเด็ดขาดแต่ตอนนี้ต้องซื้อแล้วและ spec ที่ดูน่าซื้อก็ดันเป็น Acer จนโดนเพื่อนล้อไปข้ามปีว่าเป็นสาวก Acer แถมเงินไม่พอต้องขอยืมแม่ก่อนอีก 5 พัน
พอได้เครื่องใหม่มาแล้ว ผมก็รีบ clear project ต่อให้เสร็จและช่วงนั้นเองก็ปิ๊ง idea หนึ่งที่กำลังกลายเป็นที่นิยมในตอนนี้ได้ว่าโปรแกรมฟรีจะสร้างรายได้ได้ยังไงบ้าง ผมก็ใส่ idea นั้นลงไปก่อนที่จะ release ผลงาน เนื่องจาก project ที่ผมทำมีคนใช้ทั่วโลกกว่าล้านคนในตอนนั้น check จากเงินหมื่นกลายเป็นเงินแสนได้ในช่วงสัปดาห์สุดท้าย เป็นวันเกิดที่เปลี่ยนชีวิตผมโดยสิ้นเชิง
หลังจากนั้นมาเช็คก้อนโตก็มาโดยไม่หยุดหย่อน ดูเหมือนชีวิตจะราบรื่นไปได้ดีแต่มรสุมลูกใหม่ก็ใกล้เข้าในและโหมกระหน่ำในช่วงที่ฝึกงานที่ได้ใช้เวลาแบบพนักงานประจำของจริง มันอาจจะเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของผมก็เป็นได้ และเป็นช่วงที่ผมเกือบจะสูญสิ้นทุกอย่างโดนสิ้นเชิงไป
ช่วงฝึกงานนั้นผมก็ต้องเตรียมทำ project จบกับเพื่อนด้วยและกลุ่มผมก็เหมือนจะเป็นกลุ่มหัวกะทิของภาค หลังจากที่สรุปงานกันออกมา scale ของ project ใหญ่มากแบบทำให้ตายก็ไม่น่าจะทำได้สมบูรณ์ 100% และมีแต่มือใหม่หัดทำกันหมด ตอนนั้นผมอยากจะบังคับให้ทำเว็บข้อมูลสินค้าแทนเลยจริงๆ ตอนนี้เว็บ notebookspec.com กลายเป็นเว็บที่ผมอยากทำในตอนนั้นและผมก็ต้องทำทั้งฝึกงาน project จบ และ project ส่วนตัว
นอกจากทำงานปกติจะลำบากมากพออยู่แล้ว ผมต้องทำทั้ง project จบและ project ส่วนตัวไปด้วย ถึงผมจะชินกับการนอนตี 3 ตื่น 7 โมงเช้าแต่ฝึกงานมันเพลียกว่าเรียนหนังสือนัก ผมเผลอหลับเลยป้ายรถเมล์แทบทุกวัน ไม่กล้านั่งวินเพราะกลัวจะหลับตกรถลงไป มันเป็นช่วงที่บั่นทอนสุขภาพกายและสุขภาพจิตมากและมันทำให้ผมเป็นคนหงุดหงิดฉุนเฉียวได้ง่ายจนทำให้บรรยากาศ project จบนั้นแย่ลงๆ
แต่นั้นเป็นเพียงน้ำจิ้ม เพราะวันหนึ่งผมเข้ามา office เปิดเว็บ check mail ไม่ได้ password ผิดพลาด account PayPal ผมก็เข้าไม่ได้ พอหาทางเข้าได้ก็โดนถอนเงินไปหมด ผมเริ่มเอะใจว่า domain เว็บจะเป็นยังไงบ้าง พอเข้าไป check ดูกลับกลายเป็นว่าโดนย้ายไปแล้ว วันนั้นผมโดน hack ปอกลอก online identify ไปทั้งหมดเลย ในช่วงเวลาที่ผมกำลังลำบากที่สุดในชีวิต
ผมต้องวิ่งวุ่นติดต่อประสานงานกับเจ้าของ domain ทำ passport ยืนยันหลักฐานต่างๆตามส่งไปเพื่อกู้เอาสิ่งที่เสียไปคืนมาซึ่งสุดท้ายผมก็ทวงกลับมาได้ แต่ความรู้สึกที่เพื่อนร่วมทีมเสียไปนั้นคงยากที่จะเอากลับมาได้ และผมเองก็ไม่เคยที่จะอธิบายขอความเห็นใจจากเขาเพราะมันเป็นความผิดพลาดของผมเอง
หลังจากผ่านมรสุมที่เลวร้ายที่สุดไปได้แล้ว ผมก็ต้องมาเหนื่อยกับปั่น project จบให้เสร็จทันก่อนส่งในช่วงปี 4 นี้ แต่ละคนก็ทั้งเครียดและกดดันสุดๆจนเกือบได้ทะเลาะวิวาทกันเพราะความกดดันและความมนุษย์สัมพันธ์ไม่ดีของผมในตอนนั้นจนในที่สุดโปรเจ็คก็เสร็จลงได้ แต่เกรดไม่ออกสักที เกือบจะไม่ได้ A แล้วเพราะอาจารย์ที่ปรึกษาแกมาตราฐานสูงที่สุดแล้ว เราเป็นหัวหน้าทีมรับผิดชอบด้วย ตอนนั้นคิดว่าถ้าไม่ได้ A portfolio ของเพื่อนจะเป็นยังไง ตั้งใจไว้แรกแล้วว่าหากจำเป็นจะยอมเป็นยักษ์ให้เพื่อนโกรธเพื่อนเกลียดแล้วจบ project ได้ A ดีกว่าทำงาน happy กับเพื่อนแต่ project ไม่ผ่าน ถ้าไม่ได้ A แล้วมันจะมีความหมายอะไร ก็พยายามอ้อนวอนอาจารย์จนใจอ่อนให้ไปเพราะเนื้องานแน่นที่สุด
หลังจากเรียนจบผมก็พยายามที่จะหางานทำเหมือนๆกับเพื่อน พยายามจะทำในสิ่งที่คนธรรมดาน่าจะทำเหมือนกัน แต่ตอนรับปริญญานั้นกระดาษแผ่นนั้นช่างเบาโหว่งไม่มีน้ำหนักอะไรจริงๆ พวกคุณพยายามกันแทบตายเพื่อให้ได้กระดาษสมมติบางๆใบนี้เนี่ย ทำไมถึงต้องทำหน้าหน้าระรื่นดีใจกันหมดตอนได้รับปริญญากันด้วย ณ จุดนั้นเอง ผมก็ได้พบสัจธรรมว่าชีวิตที่ใฝ่ฝันของผมนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ผมสมมติขึ้นมา มันไม่มีอยู่จริง
หลังจากตระเวนสัมภาษณ์งานไปได้สักพัก ซึ่งก็น่าแปลกที่บริษัทส่วนมากที่เรียกผมไปสัมภาษณ์ก็พร้อมจะรับคนเก๊ๆกังๆคุยไม่ค่อยเป็นผู้เป็นคนแบบผมเท่าไหร่มาทำงานได้ง่ายกว่าที่คิด แต่ก็ปฏิเสธไปเพราะผมเลือกงานและไม่แน่ใจว่าเราจะขายเวลาและอิสรภาพของเราเพื่อเงินที่ไม่ได้ต้องการมากมายนี้ไปทำไม ผมอยากทำอะไรที่ดูมีคุณค่า มีความหมาย งานมันน่าจะเป็นอะไรที่มากกว่าการขายแรงงานสิ
และวันหนึ่ง วันที่ผมกำลังจะเตรียม music server ออกงานเครื่องเสียงให้ร้านที่คนรู้จักแนะนำมา มีโทรศัพท์นักสัมภาษณ์งานจากบริษัทและตำแหน่งที่ผมใฝ่ฝันถึง 2 บริษัทพร้อมๆกันเพราะผมก็ไม่ได้วาดฝันไปไกลกว่านั้น แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะบอกลากับมายาในความฝัน สิ่งที่ผมอยากจะทำนั้นไม่ต้องมีคุณค่าอะไรมากมายก็ได้ ไม่ต้องให้ใครยอมรับก็ได้ ไม่ต้องได้เงินก็ได้
จบมาแล้วก็ใช่ว่าจะดีอะไรหรอกครับ พอเค้าไม่สั่งให้ไปเรียนทำนั่นทำนี่แล้วชีวิตจะทำอะไรดี ชีวิตเราจริงๆมีอะไรบ้าง สังเกตดูคนอื่นเค้าก็มีเพื่อน มีสังคม มีสีสันของชีวิตดีส่วนเราไม่ได้ทำแบบเขา มี่ประสบการณ์แบบเขา ทำตัวน่าคบเหมือนเขา ก็เคว้งไปปีสองปีได้กว่าจะเข้าร่องเข้ารอย ทุกวันนี้ก็สบายดีครับแม้จะแอบเหงานิดๆเวลาเห็นรูป party ของคนอื่นๆใน facebook และดีใจที่ปีที่แล้วก็คลายปมบางอย่างไปได้บ้าง วัยเรียนของผมก็จบลงตรงนี้ครับ แต่บทเรียนชีวิตยังต้องศึกษาต่อไป