ก่อนหน้านี้เคยออกมาให้สัมภาษณ์แบบสวนทางกัน สำหรับความสัมพันธ์ของสาว "กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์" กับหนุ่ม "มาริโอ้ เมาเร่อ" แต่ล่าสุด สาวกุ๊บกิ๊บก็ออกมาเปิดใจยอมรับว่า ลดสถานะเหลือเพียงเพื่อนกัน พร้อมกับชี้แจงหลังเจ้าตัวชิ่งสื่อ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ในงานช่วงเช้าว่า
"งานเมื่อเช้าจริง ๆ ไม่ได้หนีนะคะ ยังไงวันนี้ต้องตอบอยู่แล้ว อยากพูดทีเดียว ตอนแรกก็บอกกับพีอาร์ไปแล้วว่าจะไม่พูด ก็อาจจะเป็นการเข้าใจผิดกัน เพราะเราดิวมาแค่จะพูดคุยบนเวที แล้วต้องมางานนี้ต่อ ก็โพสต์ขอโทษนักข่าวไปแล้ว เพราะไม่คิดว่าจะมีนักข่าวมาและเกิดเรื่องขึ้นขนาดนี้
กับโอ้ก็คุยกันแล้ว เป็นเพื่อนกันก่อนหน้านี้ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เตี๊ยมกัน ใครคิดแบบไหนก็ตอบแบบนั้น ก็หลังจากให้สัมภาษณ์ไปก็เลยได้คุยกัน ไม่ได้ถามเหตุผลคิดว่าคนเราคบกันมานานก็คงมีจุดนึงที่อยากจะหยุดพักทำอะไร ค้นหาตัวเองว่าใช่หรือไม่โอ้เขาก็โทรมาคุย แต่ว่าไม่ได้เจอกันค่ะ เพราะว่างานเขายุ่ง ถามว่าง้อไหม อย่างที่โอ้บอกว่าเราไม่ได้หมดรักกัน แต่ว่าอยากจะหยุดโฟกัสงาน ต่างคนต่างใช้เวลาของตัวเองก่อน เรื่องมือที่ 3 ไม่มีเลยนะคะ ไม่ต้องโยงเลยค่ะ สงสารคนอื่นเขากิ๊บกับโอ้ถ้าจะเลิกกันก็ต้องเลิกด้วยตัวของเราเอง ไม่มีมือที่ 3 แน่นอน
ถามว่าเสียใจไหม ก็เสียใจนะคะ สำหรับกิ๊บโอ้ก็เป็นเหมือนเพื่อนมาโดยตลอด ก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ ไม่เคยเสียดายเวลาเลยค่ะ ปีนี้ก็ขึ้นปีที่ 10 แล้ว ไม่เสียความรู้สึก เพราะคิดว่าเรายังเด็ก ยังไม่มีอะไรแน่นอน ยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนนี้เราแค่อยากหยุดก่อนเพื่อทำงาน เพื่อได้คิดอะไรแค่นั้นเอง แต่ว่าเราไม่ได้โกรธกัน ไม่ได้เกลียดกัน ก็อยากให้ฟังจากปากกิ๊บกับโอ้ เพราะว่าตอนนี้ข่าวเยอะเหลือเกิน คือเราก็ยังรักกัน ยังเป็นเพื่อนกัน ดูแลกันเหมือนเดิม ยังไปทานข้าวกันได้
สำหรับกิ๊บไม่ว่าสถานะใดก็ได้ ไม่ใช่ยื้อ มันเป็นอะไรที่เหมือนช่วงพักเบรก ก็ต้องมีหยุดไปบ้าง การที่กิ๊บมีความรู้สึกดีๆ ให้กันมันไม่ใช่การยื้อ เราคบกันมาเป็น 9 ปี 10 ปี ก็เคลียร์นะคะ เพราะว่าไม่ได้ทะเลาะกัน มันเป็นการตกลงของเราสองคนนะคะ ไม่ใช่การโปรโมทค่ะ เพราะว่าเขาก็ดังอยู่แล้ว ที่เห็นว่าเขียนเศร้าๆ เพราะว่ากิ๊บกำลังจะเขียนหนังสือเลยเขียนในทำนองที่ให้กำลังใจคน ถามว่าอยากคืนดีไหม อันนี้ยังไม่รู้ค่ะ เป็นเรื่องของอนาคต ยังใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ค่ะ"
เครดิต : sanook.com
กุ๊บกิ๊บรับเลิกมาริโอ้
"งานเมื่อเช้าจริง ๆ ไม่ได้หนีนะคะ ยังไงวันนี้ต้องตอบอยู่แล้ว อยากพูดทีเดียว ตอนแรกก็บอกกับพีอาร์ไปแล้วว่าจะไม่พูด ก็อาจจะเป็นการเข้าใจผิดกัน เพราะเราดิวมาแค่จะพูดคุยบนเวที แล้วต้องมางานนี้ต่อ ก็โพสต์ขอโทษนักข่าวไปแล้ว เพราะไม่คิดว่าจะมีนักข่าวมาและเกิดเรื่องขึ้นขนาดนี้
กับโอ้ก็คุยกันแล้ว เป็นเพื่อนกันก่อนหน้านี้ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เตี๊ยมกัน ใครคิดแบบไหนก็ตอบแบบนั้น ก็หลังจากให้สัมภาษณ์ไปก็เลยได้คุยกัน ไม่ได้ถามเหตุผลคิดว่าคนเราคบกันมานานก็คงมีจุดนึงที่อยากจะหยุดพักทำอะไร ค้นหาตัวเองว่าใช่หรือไม่โอ้เขาก็โทรมาคุย แต่ว่าไม่ได้เจอกันค่ะ เพราะว่างานเขายุ่ง ถามว่าง้อไหม อย่างที่โอ้บอกว่าเราไม่ได้หมดรักกัน แต่ว่าอยากจะหยุดโฟกัสงาน ต่างคนต่างใช้เวลาของตัวเองก่อน เรื่องมือที่ 3 ไม่มีเลยนะคะ ไม่ต้องโยงเลยค่ะ สงสารคนอื่นเขากิ๊บกับโอ้ถ้าจะเลิกกันก็ต้องเลิกด้วยตัวของเราเอง ไม่มีมือที่ 3 แน่นอน
ถามว่าเสียใจไหม ก็เสียใจนะคะ สำหรับกิ๊บโอ้ก็เป็นเหมือนเพื่อนมาโดยตลอด ก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ ไม่เคยเสียดายเวลาเลยค่ะ ปีนี้ก็ขึ้นปีที่ 10 แล้ว ไม่เสียความรู้สึก เพราะคิดว่าเรายังเด็ก ยังไม่มีอะไรแน่นอน ยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนนี้เราแค่อยากหยุดก่อนเพื่อทำงาน เพื่อได้คิดอะไรแค่นั้นเอง แต่ว่าเราไม่ได้โกรธกัน ไม่ได้เกลียดกัน ก็อยากให้ฟังจากปากกิ๊บกับโอ้ เพราะว่าตอนนี้ข่าวเยอะเหลือเกิน คือเราก็ยังรักกัน ยังเป็นเพื่อนกัน ดูแลกันเหมือนเดิม ยังไปทานข้าวกันได้
สำหรับกิ๊บไม่ว่าสถานะใดก็ได้ ไม่ใช่ยื้อ มันเป็นอะไรที่เหมือนช่วงพักเบรก ก็ต้องมีหยุดไปบ้าง การที่กิ๊บมีความรู้สึกดีๆ ให้กันมันไม่ใช่การยื้อ เราคบกันมาเป็น 9 ปี 10 ปี ก็เคลียร์นะคะ เพราะว่าไม่ได้ทะเลาะกัน มันเป็นการตกลงของเราสองคนนะคะ ไม่ใช่การโปรโมทค่ะ เพราะว่าเขาก็ดังอยู่แล้ว ที่เห็นว่าเขียนเศร้าๆ เพราะว่ากิ๊บกำลังจะเขียนหนังสือเลยเขียนในทำนองที่ให้กำลังใจคน ถามว่าอยากคืนดีไหม อันนี้ยังไม่รู้ค่ะ เป็นเรื่องของอนาคต ยังใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ค่ะ"
เครดิต : sanook.com