สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
1. นำสำเนาโฉนดของเรา ไปที่สำนักงานที่ดิน
2. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า มาทำเรื่อง "ขอยื่นตรวจสอบ"
3. บอกเขาว่า ที่ดินแปลงที่นำมายื่นนี้ เป็นของเรา
ทีนี้ มีญาตินำที่ดินแปลงติดกัน มาบอกขาย
แจ้งเราว่า เจ้าของ ชื่อ สมบัติ เมทนี มีเนื้อที่อยู่ สองงาน
แต่ดูด้วยตาแล้ว เห็นว่ามีไม่เกิน 80 ตารางวา
เราเกรงว่า จะไม่ใช่ชื่อจริง นามสกุลจริง
จึงจะมาตรวจสอบ เพื่อทราบขนาดพื้นที่จริง
และชื่อเจ้าของพร้อมที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
4. บอกเขาด้วยว่า เราขอถ่ายเอกสารโฉนดฉบับหลวง
และขอถ่ายระวางด้วย
5. เขาจะทำเรื่องให้ แล้วเราไปจ่ายเงิน 35 บาท (โดยประมาณ)
6. หลังจากจ่ายเงินแล้วเขาจะให้เราดู
เราก็ดู ถ้าเขาให้ถ่ายเอกสารได้ เราก็ถ่ายไป
ถ้าเขาไม่ให้ถ่าย เราก็ต้องจดเอาเอง
สาระที่จะต้องจดคือ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่
สาระที่สุดยอดของความสำคัญคือ เลขบัตรประชาชน
ให้จดไว้สองครั้ง ครั้งแรกจดจากหน้าไปหลัง
ครั้งที่สองจดจากหลังมาหน้า
แล้วนำมาเทียบกัน ถ้า เหมือนกันแสดงว่าเราจดถูกต้อง
7. ที่ต้องจดเลขบัตรด้วย เนื่องจาก บางที คนชื่อ ลำไย นามสกุลชวนชื่น
วันหลังอาจมีซินแส มาแนะให้เปลี่ยนเป็น เชอรี่ นามสกุล ภิรมย์รัตน์ ก็ได้
ด้วยมันถูกโฉลก กับเจ้าของดี แม้นเราไปหาคนที่ชื่อลำไย ก็จะหาไม่เจอ
ต้องหาคุณเชอรี่ จึงจะเจอ
ไม่ว่าจะเป็นลำไย ลำยอง พวงแก้ว ก้อตาม แต่เลขประจำตัวยังคงเดิม
ดังนั้น ตามด้วยเลขประจำตัวจะง่ายที่สุด และไม่ผิดตัว
8. พอตามเจอแล้ว ภาษาสุภาพ ที่จะถามซื้อเขาคือ
ขอเช่าระยะยาว หรือ ถ้ามีความคิดจะขาย ก็บอกด้วย
ไม่ใช่ไปถามซื่อๆ ว่า ชั้นจะซื้้อนะยะ อยากขายป่าว
อย่างนี้อาจมีคนเคืองเอาได้ง่ายๆ
ปล. ก่อนไป ควรเปิด Google earth ดูสักหน่อย
ถ้าปริ้นท์ไปได้ ควรปริ้นท์ ไปด้วย แล้วชี้ให้ช่างแผนที่ดูว่าที่ดินเราอยู่ตรงไหน
ที่ที่จะขอยื่นตรวจสอบอยุ่ตรงไหน จะเป็นการง่ายทั้งสองฝ่าย
ไม่ใช่ดุ่ยๆ ไป แล้วพอเขาถาม ก็ตอบไม่ชัด
บอกว่า อยู่ทางนี้ ทางโน้น ซี่งเขาจะงงมาก
ดังนั้น ถ้ามีแผนที่ของเราที่ปริ้นท์ แล้วชี้ให้เขาดู จะทำให้ง่ายมาก
แผนที่นั้น หลักสากล จะวางทิศเหนือ ไว้ส่วนหัวของแผนที่เสมอ
ไม่ว่าเป็นแผนที่ของสำนักใด จะเป็นอย่างนี้เสมอ
ดังนั้นเราสามารถเทียบเคียงตำแหน่งได้ไม่ยาก
2. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า มาทำเรื่อง "ขอยื่นตรวจสอบ"
3. บอกเขาว่า ที่ดินแปลงที่นำมายื่นนี้ เป็นของเรา
ทีนี้ มีญาตินำที่ดินแปลงติดกัน มาบอกขาย
แจ้งเราว่า เจ้าของ ชื่อ สมบัติ เมทนี มีเนื้อที่อยู่ สองงาน
แต่ดูด้วยตาแล้ว เห็นว่ามีไม่เกิน 80 ตารางวา
เราเกรงว่า จะไม่ใช่ชื่อจริง นามสกุลจริง
จึงจะมาตรวจสอบ เพื่อทราบขนาดพื้นที่จริง
และชื่อเจ้าของพร้อมที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
4. บอกเขาด้วยว่า เราขอถ่ายเอกสารโฉนดฉบับหลวง
และขอถ่ายระวางด้วย
5. เขาจะทำเรื่องให้ แล้วเราไปจ่ายเงิน 35 บาท (โดยประมาณ)
6. หลังจากจ่ายเงินแล้วเขาจะให้เราดู
เราก็ดู ถ้าเขาให้ถ่ายเอกสารได้ เราก็ถ่ายไป
ถ้าเขาไม่ให้ถ่าย เราก็ต้องจดเอาเอง
สาระที่จะต้องจดคือ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่
สาระที่สุดยอดของความสำคัญคือ เลขบัตรประชาชน
ให้จดไว้สองครั้ง ครั้งแรกจดจากหน้าไปหลัง
ครั้งที่สองจดจากหลังมาหน้า
แล้วนำมาเทียบกัน ถ้า เหมือนกันแสดงว่าเราจดถูกต้อง
7. ที่ต้องจดเลขบัตรด้วย เนื่องจาก บางที คนชื่อ ลำไย นามสกุลชวนชื่น
วันหลังอาจมีซินแส มาแนะให้เปลี่ยนเป็น เชอรี่ นามสกุล ภิรมย์รัตน์ ก็ได้
ด้วยมันถูกโฉลก กับเจ้าของดี แม้นเราไปหาคนที่ชื่อลำไย ก็จะหาไม่เจอ
ต้องหาคุณเชอรี่ จึงจะเจอ
ไม่ว่าจะเป็นลำไย ลำยอง พวงแก้ว ก้อตาม แต่เลขประจำตัวยังคงเดิม
ดังนั้น ตามด้วยเลขประจำตัวจะง่ายที่สุด และไม่ผิดตัว
8. พอตามเจอแล้ว ภาษาสุภาพ ที่จะถามซื้อเขาคือ
ขอเช่าระยะยาว หรือ ถ้ามีความคิดจะขาย ก็บอกด้วย
ไม่ใช่ไปถามซื่อๆ ว่า ชั้นจะซื้้อนะยะ อยากขายป่าว
อย่างนี้อาจมีคนเคืองเอาได้ง่ายๆ
ปล. ก่อนไป ควรเปิด Google earth ดูสักหน่อย
ถ้าปริ้นท์ไปได้ ควรปริ้นท์ ไปด้วย แล้วชี้ให้ช่างแผนที่ดูว่าที่ดินเราอยู่ตรงไหน
ที่ที่จะขอยื่นตรวจสอบอยุ่ตรงไหน จะเป็นการง่ายทั้งสองฝ่าย
ไม่ใช่ดุ่ยๆ ไป แล้วพอเขาถาม ก็ตอบไม่ชัด
บอกว่า อยู่ทางนี้ ทางโน้น ซี่งเขาจะงงมาก
ดังนั้น ถ้ามีแผนที่ของเราที่ปริ้นท์ แล้วชี้ให้เขาดู จะทำให้ง่ายมาก
แผนที่นั้น หลักสากล จะวางทิศเหนือ ไว้ส่วนหัวของแผนที่เสมอ
ไม่ว่าเป็นแผนที่ของสำนักใด จะเป็นอย่างนี้เสมอ
ดังนั้นเราสามารถเทียบเคียงตำแหน่งได้ไม่ยาก
แสดงความคิดเห็น
ต้องการติดต่อเจ้าของที่ดินข้างบ้าน ซึ่งยังไม่มีใครมาอยู่ จะติดต่อยังไงค่ะ สามารถไปขอเบอร์จากกรมที่ดินได้ไหม
จะติดต่อเจ้าของที่ดินยังไงคะ
รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ