ยุคเสื่อม
เมื่อสมัยอดีตกาลนานมาแล้ว
กวีไทนเพริดแพร้วและฟูเฟื่อง
แต่งร้อยกรองสวยงามนามประเทิอง
มีครบเครื่องทั้ง โคลง กลอน กาพย์ ฉันท์ ร่าย
มาบ้ดนี้วงกวีมีอาถรรพ์
ไม่เห็นความสำคัญค่อยเลือนหาย
เหลือนักกลอนนอนเหี่ยวอยู่เดียวดาย
ทั้ง โคลง ฉันท์ กาพย์ ร่าย ต่างเรียก กลอน
เอาคำมาเรียงกันแปดเก้าคำ
ไม่จดจำสัมผัสดุจดังก่อน
สัมผัสนอกสัมผัสในไม่อาทร
เขียนแต่กลอนเปล่าไปคล้ายลำนำ
มีเนื้อเรื่องพรรณาประสาซื่อ
ไม่ยึดถือหลักใดใดให้คมขำ
โอ้วงกวีบัดนี้สุดระกำ
ต้องตกต่ำวนเวียนเขียนกลอนเอย.
"ปภัสสร"
๖ กุมภาพันธุ์ ๒๕๕๖ เวลา ๑๙.๒๔ น.
ยุคเสื่อม
เมื่อสมัยอดีตกาลนานมาแล้ว
กวีไทนเพริดแพร้วและฟูเฟื่อง
แต่งร้อยกรองสวยงามนามประเทิอง
มีครบเครื่องทั้ง โคลง กลอน กาพย์ ฉันท์ ร่าย
มาบ้ดนี้วงกวีมีอาถรรพ์
ไม่เห็นความสำคัญค่อยเลือนหาย
เหลือนักกลอนนอนเหี่ยวอยู่เดียวดาย
ทั้ง โคลง ฉันท์ กาพย์ ร่าย ต่างเรียก กลอน
เอาคำมาเรียงกันแปดเก้าคำ
ไม่จดจำสัมผัสดุจดังก่อน
สัมผัสนอกสัมผัสในไม่อาทร
เขียนแต่กลอนเปล่าไปคล้ายลำนำ
มีเนื้อเรื่องพรรณาประสาซื่อ
ไม่ยึดถือหลักใดใดให้คมขำ
โอ้วงกวีบัดนี้สุดระกำ
ต้องตกต่ำวนเวียนเขียนกลอนเอย.
"ปภัสสร"
๖ กุมภาพันธุ์ ๒๕๕๖ เวลา ๑๙.๒๔ น.