หนักๆตกที่ประชาธิปัตย์
เจอรายการเคลียร์
บิลยาวเป็นหางว่าวเลย จาก
คดี 91 ศพ ในเหตุสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง นปช.ที่จ่อรอเข้าสู่กระบวนการศาล
ต่อเนื่องกับปมหนีทหารที่กำลังพัฒนาไปสู่สถานภาพการเป็นผู้แทนราษฎร ตามคิวที่น
ายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ร้องขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ภายหลัง รมว.กลาโหม มีคำสั่งไล่ออกจากราชการกรณีทุจริตเข้ารับราชการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ล่าสุดมาถึงประเด็นร้อนฉาวโฉ่ โครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) ทั่วประเทศจำนวน 396 แห่ง รวมทั้งการก่อสร้างแฟลตตำรวจ 163 อาคาร ที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน เสร็จไม่ทันตามกำหนด
มีหลักฐานเป็นเสาตั้งโด่ประจาน
ตามท้องเรื่องที่
โยงกับอดีตรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เป็นคนเซ็นลงนาม 2 ครั้ง รอบแรกให้กระจายอำนาจมีการจัดซื้อจัดจ้างประมูลเอง แต่หลังจากนั้นอีก 6 เดือน นายสุเทพกลับลงนามใหม่ให้ไปรวมศูนย์กับส่วนกลางและมีการดำเนินการลักษณะให้มีผู้รับเหมารายเดียว
ผลก็คือไม่มีผู้รับเหมา “เทวดา” เนรมิตงานได้ทัน
ล่าสุด นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ลงนามอนุมัติรับเป็นคดีพิเศษ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (ฮั้วประมูล) ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.แนบท้ายของกฎหมายการสอบสวนคดีพิเศษ
คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวน สั่งคดี แจ้งข้อหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน 30 วัน
สำทับด้วย “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ย้ำเสียงเข้ม โครงการทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพัก และแฟลตตำรวจ
จะต้องมีผู้ได้รับโทษ มีคนติดคุกแน่นอน และเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ยากที่จะสอบสวน เนื่องจากได้
มีการเบิกเงินไปแล้ว กว่า 800 ล้านบาทจากธนาคารกรุงไทย โดย
เงินจำนวนดังกล่าว ไปอยู่ที่พ่อตาของนักการเมืองคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่
ในสถานการณ์ที่ “เทพเทือก” เล่นบท “ขอมดำดิน” กบดานนิ่ง
ตามจังหวะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตนายก รัฐมนตรี ต้องออกหน้ามาการันตี “เทพเทือก” ไม่เกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลก่อสร้าง 396 โรงพักแน่
ชิงจังหวะเบรกกระแสเฉพาะหน้าไว้ก่อน
ทั้งหมดทั้งปวง แค่สถานการณ์ที่ต้องเจอคิวเคลียร์บิลย้อนหลัง
เจอเข้าไป 3–4 รายการหนักๆ ตามสภาพ “อภิสิทธิ์–เทพเทือก” และทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ ยังตั้งหลักไม่ติด
แค่คิดหาหนทางเคลียร์เผือกร้อนๆก็เหนื่อยแล้ว
มันจึงเป็นอะไรที่ไม่กดดัน ในเมื่อคู่แข่งอย่างประชาธิปัตย์ยังตกอยู่ในสภาพตั้งรับทางการเมือง
เรื่องของเรื่อง โยงเข้าฉากความเคลื่อนไหวที่สังเกตความ แปลกใหม่ได้ในโลกสังคมออนไลน์ ตามอารมณ์ชิวชิวที่นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โชว์แอ็กชั่นให้ทีมงานพีอาร์ส่วนตัวถ่ายรูป อัพภาพสวยๆลงเฟซบุ๊กส่วนตัว และโปรแกรมอินสตาแกรม ให้แฟนคลับได้ติดตามแทบจะทุกๆชั่วโมง
มีทั้งช็อตนั่งทำงานบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยโทรศัพท์มือถือ ในมุมของผู้บริหารหญิงที่ต้องสั่งการ รับรายงานอยู่ตลอดเวลา หรือในมุมสบายๆ น่ารักที่นายกฯหญิงนั่งกินไอติมในระหว่างสนทนากับทีมงาน
แน่นอนพวกที่ชอบก็ “กดไลค์” ชื่นชมแบบยกก้น
แต่ก็มีพวกที่หมั่นไส้รุมก่นด่า “คอมเมนต์” เหน็บแนมกันแบบแสบๆคันๆ
ถึงขั้นที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ลากตั้ง หัวขบวนกลุ่มต้านพรรคเพื่อไทย เอามากระแนะกระแหนในห้องประชุมสภา เป็นนัยว่า ถ้านายกฯหญิงอยากแสดงตนว่าเป็นคนทำงานโดยไม่อยู่ใต้อาณัติของพี่ชาย ก็ให้สั่งตำรวจไล่ล่าอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เหมือน อย่างกับที่ล็อกตัว “กำนันเป๊าะ” นายสมชาย คุณปลื้ม ไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปโชว์โทรศัพท์ 5–6 เครื่องบนโต๊ะทำงาน
กระตุกอาการเขม่น หนีไม่พ้นสายตาของพวกที่รู้ทัน
แต่สรุปมันก็
เข้าเหลี่ยมของโคตรเซียนการตลาดที่เล่นกระแสชิงพื้นที่ข่าว ดึงความสนใจของสังคมมาอยู่กับช็อตเบาๆ ไม่ซีเรียส
โชว์เลยว่า สถานการณ์เครียดๆเบาลงไปแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/324634
????????????????????????????????????
ว่ามาเป็นฉากๆ อธิบายเสียเห็นภาพหมดเลย
ตับไตไส้พุงที่เน่าๆหมักหมมมาเนิ่นนานถูกเทออกตีแผ่ประจานเสียเกลี้ยงไห
เอาอะไรมาพูดก็ไม่รู้ไทยรัฐเนี่ยะ.....
แมงสาบเค้าเขินนะ....555
ทีมข่าวไทยรัฐวิเคราะห์เสียเห็นภาพชัด..."หนักๆตกที่ประชาธิปัตย์"...อ่านข่าวแล้วพลพรรครักแมงสาบไม่สติแตกก็ให้มันรู้ไป
เจอรายการเคลียร์บิลยาวเป็นหางว่าวเลย จากคดี 91 ศพ ในเหตุสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง นปช.ที่จ่อรอเข้าสู่กระบวนการศาล
ต่อเนื่องกับปมหนีทหารที่กำลังพัฒนาไปสู่สถานภาพการเป็นผู้แทนราษฎร ตามคิวที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ร้องขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลัง รมว.กลาโหม มีคำสั่งไล่ออกจากราชการกรณีทุจริตเข้ารับราชการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ล่าสุดมาถึงประเด็นร้อนฉาวโฉ่ โครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) ทั่วประเทศจำนวน 396 แห่ง รวมทั้งการก่อสร้างแฟลตตำรวจ 163 อาคาร ที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน เสร็จไม่ทันตามกำหนด
มีหลักฐานเป็นเสาตั้งโด่ประจาน
ตามท้องเรื่องที่โยงกับอดีตรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เป็นคนเซ็นลงนาม 2 ครั้ง รอบแรกให้กระจายอำนาจมีการจัดซื้อจัดจ้างประมูลเอง แต่หลังจากนั้นอีก 6 เดือน นายสุเทพกลับลงนามใหม่ให้ไปรวมศูนย์กับส่วนกลางและมีการดำเนินการลักษณะให้มีผู้รับเหมารายเดียว
ผลก็คือไม่มีผู้รับเหมา “เทวดา” เนรมิตงานได้ทัน
ล่าสุด นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ลงนามอนุมัติรับเป็นคดีพิเศษ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (ฮั้วประมูล) ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.แนบท้ายของกฎหมายการสอบสวนคดีพิเศษ
คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวน สั่งคดี แจ้งข้อหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน 30 วัน
สำทับด้วย “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ย้ำเสียงเข้ม โครงการทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพัก และแฟลตตำรวจ จะต้องมีผู้ได้รับโทษ มีคนติดคุกแน่นอน และเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ยากที่จะสอบสวน เนื่องจากได้มีการเบิกเงินไปแล้ว กว่า 800 ล้านบาทจากธนาคารกรุงไทย โดยเงินจำนวนดังกล่าว ไปอยู่ที่พ่อตาของนักการเมืองคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่
ในสถานการณ์ที่ “เทพเทือก” เล่นบท “ขอมดำดิน” กบดานนิ่ง
ตามจังหวะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตนายก รัฐมนตรี ต้องออกหน้ามาการันตี “เทพเทือก” ไม่เกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลก่อสร้าง 396 โรงพักแน่
ชิงจังหวะเบรกกระแสเฉพาะหน้าไว้ก่อน
ทั้งหมดทั้งปวง แค่สถานการณ์ที่ต้องเจอคิวเคลียร์บิลย้อนหลัง เจอเข้าไป 3–4 รายการหนักๆ ตามสภาพ “อภิสิทธิ์–เทพเทือก” และทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ ยังตั้งหลักไม่ติด
แค่คิดหาหนทางเคลียร์เผือกร้อนๆก็เหนื่อยแล้ว
มันจึงเป็นอะไรที่ไม่กดดัน ในเมื่อคู่แข่งอย่างประชาธิปัตย์ยังตกอยู่ในสภาพตั้งรับทางการเมือง
เรื่องของเรื่อง โยงเข้าฉากความเคลื่อนไหวที่สังเกตความ แปลกใหม่ได้ในโลกสังคมออนไลน์ ตามอารมณ์ชิวชิวที่นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โชว์แอ็กชั่นให้ทีมงานพีอาร์ส่วนตัวถ่ายรูป อัพภาพสวยๆลงเฟซบุ๊กส่วนตัว และโปรแกรมอินสตาแกรม ให้แฟนคลับได้ติดตามแทบจะทุกๆชั่วโมง
มีทั้งช็อตนั่งทำงานบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยโทรศัพท์มือถือ ในมุมของผู้บริหารหญิงที่ต้องสั่งการ รับรายงานอยู่ตลอดเวลา หรือในมุมสบายๆ น่ารักที่นายกฯหญิงนั่งกินไอติมในระหว่างสนทนากับทีมงาน
แน่นอนพวกที่ชอบก็ “กดไลค์” ชื่นชมแบบยกก้น
แต่ก็มีพวกที่หมั่นไส้รุมก่นด่า “คอมเมนต์” เหน็บแนมกันแบบแสบๆคันๆ
ถึงขั้นที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ลากตั้ง หัวขบวนกลุ่มต้านพรรคเพื่อไทย เอามากระแนะกระแหนในห้องประชุมสภา เป็นนัยว่า ถ้านายกฯหญิงอยากแสดงตนว่าเป็นคนทำงานโดยไม่อยู่ใต้อาณัติของพี่ชาย ก็ให้สั่งตำรวจไล่ล่าอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เหมือน อย่างกับที่ล็อกตัว “กำนันเป๊าะ” นายสมชาย คุณปลื้ม ไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปโชว์โทรศัพท์ 5–6 เครื่องบนโต๊ะทำงาน
กระตุกอาการเขม่น หนีไม่พ้นสายตาของพวกที่รู้ทัน
แต่สรุปมันก็เข้าเหลี่ยมของโคตรเซียนการตลาดที่เล่นกระแสชิงพื้นที่ข่าว ดึงความสนใจของสังคมมาอยู่กับช็อตเบาๆ ไม่ซีเรียส
โชว์เลยว่า สถานการณ์เครียดๆเบาลงไปแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/324634
????????????????????????????????????
ว่ามาเป็นฉากๆ อธิบายเสียเห็นภาพหมดเลย
ตับไตไส้พุงที่เน่าๆหมักหมมมาเนิ่นนานถูกเทออกตีแผ่ประจานเสียเกลี้ยงไห
เอาอะไรมาพูดก็ไม่รู้ไทยรัฐเนี่ยะ.....
แมงสาบเค้าเขินนะ....555