โครงการเสวนาวิชาการ เรื่อง “ฟื้น (ราก) ชาวกรุง?”
จัดโดยเครือข่ายอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม
วันพุธที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๑๕ – ๑๖.๓๐ น.
ณ ห้องประชุมชั้น ๑ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
เนื่องด้วยพื้นที่ต่อเนื่องจากกรุงรัตนโกสินทร์ ไปจนจรดคลองผดุงกรุงเกษมนั้น ถือเป็นแหล่งมรดก
วัฒนธรรมสำคัญแห่งหนึ่งของชาติ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าที่มาของความเจริญรุ่งเรือง
ของกรุงรัตนโกสินทร์ อันประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อสายที่ได้อพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร และเป็นส่วนหนึ่งในการก่อร่างสร้างเมือง สร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน
เยาวราช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในย่าน China Town ของกรุงเทพฯ ที่มีชาวจีนหลากหลายกลุ่มมาตั้งรกราก และมีบทบาทสำคัญต่อการวางรากฐานทางเศรษฐกิจการค้าให้กับประเทศชาติ พร้อมๆ ไปกับการสร้างวิถี
ประเพณีจีนที่มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ตลอดรวมไปถึงสร้างอาคารสถาปัตยกรรมที่สะท้อนให้เห็นวิวัฒนาการ
ของอาคารพาณิชย์รุ่นแรกๆของกรุงรัตนโกสินทร์เหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่บอกเล่าประวัติศาสตร์
ของเมืองได้อย่างดียิ่ง
ทว่า ปัจจุบันการวางผังเมืองและการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน มักให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่
ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ขาดวิสัยทัศน์ทางด้านวัฒนธรรม จนเป็นผลให้ชุมชนเก่าแก่เช่นเดียวกับเยาวราช
ถูกไล่รื้ออยู่เนืองๆ แทนที่จะหาแนวทางพัฒนาเชิงอนุรักษ์ สร้างความสมดุลระหว่างสิ่งเก่าและใหม่ให้เกิดขึ้น
อย่างลงตัว กลับเป็นการทำลายรากเหง้าอันเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และมรดกวัฒนธรรมของชาติ
ให้สูญหายไป
ภาพจากแฟ้ม บทความเรื่อง “รถไฟใต้ดินผ่านเยาวราช...ผังเมืองจะมีทิศทางรักษา "รากเหง้า" ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างไร...” ตามลิ้งก์บนบล็อก
http://www.oknation.net/blog/tourrattanakosin/2012/08/05/entry-1
ปัญหาที่กล่าวมานี้ หาได้เกิดขึ้นกับย่านเยาวราชเท่านั้น หากแต่ยังเกิดขึ้นกับชุมชนประวัติศาสตร์แหล่งอื่นๆ อีกจำนวนมาก การหาแนวทางเพื่อปกป้องมรดกวัฒนธรรมชุมชนในย่านเยาวราช จึงเปรียบเสมือนกรณีศึกษา
ให้กับชุมชนอื่นๆได้พึงตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและเตรียมตัวตั้งรับกับปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้ที่อาจจะ
เกิดขึ้นกับชุมชนของตนต่อไปด้วย
เครือข่ายอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม ซึ่งประกอบไปด้วย สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ หอศิลปวัฒนธรรม
แห่งกรุงเทพมหานคร สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันอาศรมศิลป์ สมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรม และสิ่งแวดล้อม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมูลนิธิเล็ก -ประไพ วิริยะพันธุ์ จึงเห็นร่วมกันว่าน่าจะได้มีการจัดสนทนาแลกเปลี่ยนพูดคุยในปัญหาของชาวกรุง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยในกรุงและคนในสังคมได้ตระหนักรู้และเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเมือง ที่เสี่ยงต่อการทำลายมรดกวัฒนธรรมและชุมชนที่เป็นดั่ง “ราก” และ “หัวใจ” ของเมือง อันเป็นองคาพยพสำคัญที่จะทำให้เมืองนั้นๆ มีชีวิตเมืองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ดังนั้นการจะรักษา “ราก” ของเมืองให้ดำรงอยู่ได้นั้น ผู้อาศัยในเมืองนั้นๆ ย่อมต้องเข้าใจถึงสิทธิและหน้าที่ของชุมชน ตลอดจนเรียนรู้เรื่องราวมรดกวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนเอง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาหย่อมย่านแต่ละถิ่นที่ประกอบขึ้นเป็นบ้านเมือง ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีสุขและสันติ
ดำเนินรายการโดย คุณวิมล อังสุนันทวิวัฒน์ กรรมการสมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อม
โปรดแจ้งชื่อเพื่อลงทะเบียนล่วงหน้าที่ จารุณี คงสวัสดิ์
เจ้าหน้าที่ประสานงานเครือข่ายอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม
ที่ jarunee@siam-society.org
แผนที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
จะฟื้น (ราก) ชาวกรุง? จะทำกันอย่างไรดี? พุธที่ ๒๗ ก.พ. ๕๖ มีคำตอบ
จัดโดยเครือข่ายอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม
วันพุธที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๑๕ – ๑๖.๓๐ น.
ณ ห้องประชุมชั้น ๑ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
เนื่องด้วยพื้นที่ต่อเนื่องจากกรุงรัตนโกสินทร์ ไปจนจรดคลองผดุงกรุงเกษมนั้น ถือเป็นแหล่งมรดก
วัฒนธรรมสำคัญแห่งหนึ่งของชาติ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าที่มาของความเจริญรุ่งเรือง
ของกรุงรัตนโกสินทร์ อันประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อสายที่ได้อพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร และเป็นส่วนหนึ่งในการก่อร่างสร้างเมือง สร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน
เยาวราช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในย่าน China Town ของกรุงเทพฯ ที่มีชาวจีนหลากหลายกลุ่มมาตั้งรกราก และมีบทบาทสำคัญต่อการวางรากฐานทางเศรษฐกิจการค้าให้กับประเทศชาติ พร้อมๆ ไปกับการสร้างวิถี
ประเพณีจีนที่มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ตลอดรวมไปถึงสร้างอาคารสถาปัตยกรรมที่สะท้อนให้เห็นวิวัฒนาการ
ของอาคารพาณิชย์รุ่นแรกๆของกรุงรัตนโกสินทร์เหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่บอกเล่าประวัติศาสตร์
ของเมืองได้อย่างดียิ่ง
ทว่า ปัจจุบันการวางผังเมืองและการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน มักให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่
ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ขาดวิสัยทัศน์ทางด้านวัฒนธรรม จนเป็นผลให้ชุมชนเก่าแก่เช่นเดียวกับเยาวราช
ถูกไล่รื้ออยู่เนืองๆ แทนที่จะหาแนวทางพัฒนาเชิงอนุรักษ์ สร้างความสมดุลระหว่างสิ่งเก่าและใหม่ให้เกิดขึ้น
อย่างลงตัว กลับเป็นการทำลายรากเหง้าอันเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และมรดกวัฒนธรรมของชาติ
ให้สูญหายไป
ภาพจากแฟ้ม บทความเรื่อง “รถไฟใต้ดินผ่านเยาวราช...ผังเมืองจะมีทิศทางรักษา "รากเหง้า" ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างไร...” ตามลิ้งก์บนบล็อก http://www.oknation.net/blog/tourrattanakosin/2012/08/05/entry-1
ปัญหาที่กล่าวมานี้ หาได้เกิดขึ้นกับย่านเยาวราชเท่านั้น หากแต่ยังเกิดขึ้นกับชุมชนประวัติศาสตร์แหล่งอื่นๆ อีกจำนวนมาก การหาแนวทางเพื่อปกป้องมรดกวัฒนธรรมชุมชนในย่านเยาวราช จึงเปรียบเสมือนกรณีศึกษา
ให้กับชุมชนอื่นๆได้พึงตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและเตรียมตัวตั้งรับกับปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้ที่อาจจะ
เกิดขึ้นกับชุมชนของตนต่อไปด้วย
เครือข่ายอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม ซึ่งประกอบไปด้วย สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ หอศิลปวัฒนธรรม
แห่งกรุงเทพมหานคร สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันอาศรมศิลป์ สมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรม และสิ่งแวดล้อม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมูลนิธิเล็ก -ประไพ วิริยะพันธุ์ จึงเห็นร่วมกันว่าน่าจะได้มีการจัดสนทนาแลกเปลี่ยนพูดคุยในปัญหาของชาวกรุง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยในกรุงและคนในสังคมได้ตระหนักรู้และเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเมือง ที่เสี่ยงต่อการทำลายมรดกวัฒนธรรมและชุมชนที่เป็นดั่ง “ราก” และ “หัวใจ” ของเมือง อันเป็นองคาพยพสำคัญที่จะทำให้เมืองนั้นๆ มีชีวิตเมืองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ดังนั้นการจะรักษา “ราก” ของเมืองให้ดำรงอยู่ได้นั้น ผู้อาศัยในเมืองนั้นๆ ย่อมต้องเข้าใจถึงสิทธิและหน้าที่ของชุมชน ตลอดจนเรียนรู้เรื่องราวมรดกวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนเอง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาหย่อมย่านแต่ละถิ่นที่ประกอบขึ้นเป็นบ้านเมือง ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีสุขและสันติ
ดำเนินรายการโดย คุณวิมล อังสุนันทวิวัฒน์ กรรมการสมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อม
โปรดแจ้งชื่อเพื่อลงทะเบียนล่วงหน้าที่ จารุณี คงสวัสดิ์
เจ้าหน้าที่ประสานงานเครือข่ายอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม
ที่ jarunee@siam-society.org
แผนที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร