แต่งงานมา สิบกว่าปี ไม่เคยซั่มกันเลย

เป็นเรื่องของเพื่อน

แต่งงานมา สิบกว่าปี นอนด้วยกันเฉยๆ ต่างคนต่างนอน คนละฝั่งเตียง ไม่มีแม้แต่กระทั่งกอด ไม่หอม ไม่จูบ เพราะผู้หญิงกลัว และได้ทำการตกลงกันไว้ ตั้งแต่ก่อนแต่ง ว่าจะไม่ซั่มกัน

ก็ดำเนินชีวิตมาเป็นปกติ ผู้หญิงไม่เคยรู้เลย ว่านี่เป็นเรื่องที่ผิดปกติ ผู้หญิงคิดว่ามันไม่จำเป็นสำหรับชีวิต

สิบกว่าปี ก็อยู่ด้วยกันมา เท่าที่เราฟัง ก็รักกันดี ยกเว้น ไม่เคยโรแมนติค ไม่เคยกุ๊กกิ๊ก แต่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ไปรับ-ส่ง ทำกับข้าว ดูแลกันดี

เราเป็นเพื่อน ก็ไม่เคยรู้เลย ไม่เคยคิดเลย

พอดี มีชายอื่นเข้ามา พูดดี พูดจีบ พูดหวาน แสดงความเป็นห่วง ผู้หญิงก็ไขว้เขวไปมากเลยทีเดียวแหละ แต่ความที่ผู้หญิงเป็นคนเรียบร้อย แต่ก็เกือบไป ก็เลยตัดไป ไม่ได้ติดต่อกันอีก

แต่คราวนี้ ผู้หญิงอยากให้สามีตัวเอง บอกรัก จู๋จี๋ กุ๊กกิ๊ก โรแมนติค

ก็เลยนำเรื่องมาปรึกษาเรา ว่าจะทำไงดี เราถึงได้รู้ ว่าไม่เคย หญิงยังเวอร์จิ้นอยู่เลย

เอาหละ เราก็เลยจะมาขอคำปรึกษา ว่ามันจะพอเป็นไปได้มั๊ย

ผู้ชายคิดอย่างไร ผู้หญิงคิดอย่างไร เฮ้อ กลุ้มใจแทนเพื่อนจริงๆ

อยู่ด้วยกันมาได้ไง ตั้งสิบกว่าปี ไม่มีเรื่องอย่างนี้เลย

อีกอย่าง เริ่มคิดมาก กลัวผู้ชายมีซ่อนเอาไว้อ้ะ หรือว่าเป็นเกย์ เอ๊ะ หรือว่าตายด้านไปแล้ว หรือที่จริงแล้วก็ทำไม่เป็น

ปอ ลิง ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นคนเรียบร้อยมาก อยู่กับเหย้า เฝ้ากับเรือนทั้งคู่ ไม่เคยไปไหนนอกลู่นอกทางเลย ไปต่างจังหวัดก็ไปด้วยกัน แต่ไม่เคยซั่มกัน เอ๊ะ งง

อ้อ อีกเรื่อง ปัจจุบันนี้ 40 กว่าแล้วทั้งคุ่

ขอขอบคุณสำหรับทุกคำตอบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 65
อายุแค่ 40 เองยังไม่เยอะหรอกนะคะ เราว่าถ้าอยากจี๋จ๋าเพื่อนคุณต้องเริ่มก่อนแล้วค่ะ อ๊ะ...ไม่ใช่ให้กระโจนใส่ก่อนนะคะ แบบนั้นมันผิดปกติไป

เริ่มแรกจากการหาอะไรทำ เช่น อาจจะทำอาหารแบบพิเศษๆ กินกัน หรือไปเที่ยวแบบหนุงหนิงๆ ตอนอยู่บ้านก็คลอเคลียๆ ทำตัวเป็นลูกแมวขี้อ้อนสักหน่อยใส่จริตเข้าไปด้วย พูดอ้อนออเซาะเข้าไป เล่นปูไต่ไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ทำนะคะพัฒนาไปทีละขั้นไม่ใช่ใส่เต็มเม็ด เพราะไม่งั้นคุณสามีที่ด้านชาไปแล้วจะตกใจตื่นแล้วกระโดดหนีได้

แรกๆ อาจจะเก้อเขิล แต่อย่าได้แคร์ค่ะหลับหูหลับตาทำไปเถอะเดี๋ยวชินเอง หลังจากนั้นเรอะ หลังจากที่ปลุกอารมณ์จนสุกงอมแล้ว (หน้าไม่ด้านแล้วเพราะเริ่มชิน) ค่อยแปลงเป็นแม่เสือค่ะ
ส่วนเรื่องอย่างว่านั้นถ้าเพื่อนคุณทำไม่เป็นระหว่างที่กำลังเริ่มปฏิบัติการพลีชีพ เราแนะนำให้คุณพาเพื่อนมาติวนอกรอบค่ะ (หมายถึงศึกษาทฤษฏีนะคะไม่ใช่ตีฉิ่ง) ในเน็ตเพียบและถ้าไม่อายก็ลองพูดคุยกับเพื่อนผู้ชายแบบขอคำปรึกษาไปด้วย

มันอาจจะต้องใช้เวลานะ แต่ถ้าปลุกแล้วไม่ตื่น อาจจะเพราะหลายสาเหตุตายด้าน, หรือเป็นเกย์, หรือบรรลุทางธรรมไปแล้วก็เป็นไปได้

เราลืมบอกว่าคนบางคนเขายึดถือคำมั่นสัญญาจากคำพูดที่ให้ไว้นั้นมี เพราะฉะนั้นเพื่อนคุณต้องเป็นคนละลายพฤติกรรมอันเนื่องมาจากคำสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเรื่องบนเตียงนั้นด้วยค่ะ
เช่น "พี่คะ อายุอานามเราก็ 40 แล้วเนอะ แต่งงานมากันก็ตั้งสิบปี หนูริ่ง(ชื่อสมมุติ)เห็นคนอื่นเขามีตัวเล็กๆ วิ่งกันแล้วอิจฉาจังเลยค่ะ" พูดแล้วกะพริบตาปริบๆ มือก็บีบๆ นวดๆ สามีไปด้วย พูดอ้อนๆ แบบอายๆ ไปเลยว่า "พี่ว่าเรามามีลูกกันสักคนดีไหมคะ..." จะพูดอะไรก็ว่าไปค่ะ นี่เป็นแค่คำแนะนำคร่าวๆ เท่านั้น

ป.ล.เรายังโสดนะคะแต่เพื่อนๆ ที่ออกเรือนไปแล้ว มันชอบมาปรึกษาประดุจว่าเราแต่งงานแล้วซะงั้น เม่าโศก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
เราเป็นผู้หญิงเรียบร้อย สามีก็เป็นคนเรียบร้อย.  55ยังเรียบร้อยเลย
ความคิดเห็นที่ 21
เรื่องจริงรึนี่!!
สันนิษฐานว่า
1.สามีเป็นเกย์
2.นกเขาไม่ขัน
3.สำเร็จกิจโดยหญิงอื่นใดที่มิใช่ภริยา
4.แอบบรรลุทางธรรมเงียบๆ
วิธีแก้ไข : ลองให้ภรรยาบอกสามีไปตรงๆเลยดีกว่า ว่าต้องการอย่างนี้นะ ไหนๆก็อยู่กันมาตั้งสิบปีแล้วนี่ คงไม่มีอะไรต้องปิดกันแล้ว
หรือไม่ก็ชวนมีลูกไปเลย
ความคิดเห็นที่ 4
ผู้ชาย เป็นเกย์ หรือป่าวคะ
เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชายแท้ๆ จะแต่งงานแล้วไม่มีอะไรกับภรรยาตนเอง
นอกจากเขาแต่งเพื่ออะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้แต่งเพื่อความรัก
ความคิดเห็นที่ 10
การที่เขาไม่มีอะไรกับภรรยา ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีอะไรกับคนอื่นนี่เนาะ
ความคิดเห็นที่ 2
เคสนี้น่าสนใจจริงๆ ทนได้ไงผู้ชายอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่