วันเสาร์ที่ 12 ม.ค. เรานำรถเข้าเช็คระยะ 10,000 กม. ที่ผ่านมาเราจะเช็คที่ศูนย์ที่ออกรถ แต่ค่อนข้างไกล ประกอบกับวันนั้นมีธุระอื่น จึงตัดสินใจเข้า เค.มอเตอร์ ประชาอุทิศที่อยู่ใกล้บ้านแทน
หลังจาก จนท. แจ้งรายการและค่าใช้จ่าย เราก็สอบถามเรื่องส่วนลด จนท. บอกว่าปกติจะไม่ได้สิทธิ์เพราะไม่ได้ออกรถกับดีลเลอร์นี้และเป็นลูกค้าใหม่ แต่จะลดให้ 10% ตามที่ขอ เมื่อชำระเงิน เรามาดูบิลก็ไม่เห็นว่ามีส่วนลดอะไร แต่เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายนัก เพราะสิทธิ์ที่ว่าไม่สามารถใช้ลดค่าน้ำมันเครื่องได้ ส่วนอะไหล่อื่นๆ ก็ราคาไม่มากนัก ลดได้ไม่เท่าไหร่ แต่นอกจากการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองตามปกติแล้ว พบว่าโช้คหลังด้านซ้ายมีน้ำมันซึมออกมา สอบถามเพิ่มเติมแล้วทราบว่าน่าจะเกิดจากซีลยางแตก แต่รถอยู่ในระยะประกัน ดังนั้นจะทำเรื่องเบิกอะไหล่ ซึ่งต้องรอประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วจะโทรมาแจ้งอีกครั้ง
รอจนกระทั่งวันศุกร์ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ สุดท้ายเราต้องเป็นฝ่ายโทรไปสอบถามเอง จนท. ที่รับเรื่องสอบถามเลขทะเบียนและขอเวลาตรวจสอบ บอกว่าจะโทรกลับมาแจ้งอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน จนท. คนเดิมโทรกลับมา ถามหมายเลขทะเบียนอีกครั้งแล้วพูดเหมือนเดิมว่าจะโทรมาแจ้งใหม่ -_-“ ในที่สุดก็โทรกลับมาบอกว่าอะไหล่ยังไม่มา ถ้ามาจะโทรแจ้ง (อีกครั้ง)
รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ สุดท้ายมี จนท. โทรมาแจ้งให้นำรถเข้าไปเปลี่ยนโช้ค สรุปว่าเราต้องรออะไหล่ 3 สัปดาห์ แทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือระยะเวลารออะไหล่สำหรับ Toyota Vios 2012 เมื่อนำรถเข้าไปตามนัด (ประมาณ 9.30 น.) แล้ว จนท. บอกว่าใช้เวลาดำเนินการประมาณ 3 ชม. เราจึงทิ้งรถไว้ แล้วจะกลับมารับอีกครั้ง ผ่านไปประมาณ 30 นาที จนท. โทรมาขอโทษ แจ้งว่าโช้คที่สั่งมานั้นผิดรุ่น เราเซ็ง พูดไม่ออก ได้แต่ถามไปว่าวันนี้จะเสร็จไหม จนท. บอกว่าเสร็จแน่นอนครับ ตอนนี้กำลังรออะไหล่ จะมาประมาณบ่าย 2 – บ่าย 3 เราก็บอกว่าเสร็จแล้วโทรมาแล้วกัน แต่สงสัยว่าเมื่อมีปัญหาสามารถเปลี่ยนอะไหล่ได้ภายใน 2-3 ชม. แต่ขั้นตอนการเบิก 3 สัปดาห์มันคืออะไร
ประมาณบ่ายสองครึ่ง จนท. โทรมาบอกว่ารถเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางไปรับรถ จนท. ให้ตรวจสอบความเรียบร้อย แต่เราตรวจสอบได้เพียงผ่านๆ ด้วยความเร่งรีบ เพราะมีธุระและแผนการรวนไปหมดจากระยะเวลาที่ยืดออกไป เมื่อขับออกมาได้ระยะหนึ่ง เราหันไปหยิบของด้านหลัง พบว่าผ้ายางตรงที่วางเท้าด้านหลังคนขับร่นมาด้านหน้า เปิดให้เห็นพรมกับพื้นสีเบจที่เปื้อนคราบดำเหมือนเอามือจับผ้ายาง เห็นดังนั้นแล้วเราก็อดไม่ได้ที่จะก้มมองด้านคนขับ ไม่ผิดคาดเลย พื้นห้องโดยสารสีเบจตรงด้านซ้ายถัดจากคันเบรกซึ่งไม่มีผ้ายางปิดเปื้อนรอยพื้นรองเท้าเช่นเดียวกับใต้คันเร่ง แถมบนผ้ายางยังมีคราบของเหลวไหลเปื้อนอีก จากเดิมที่ปลงกลายเป็นโมโหมาก คิดว่าจะเลี้ยวรถกลับไปที่ศูนย์แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะกว่าจะกลับไปถึงศูนย์คงปิดแล้ว ก่อนหน้านี้เห็นว่าศูนย์นี้ล้างรถไม่เรียบร้อยเลย เพราะตอนส่งรถยังเห็นหยดน้ำเกาะที่กระจกข้างอยู่ มาคราวนี้ไม่ไหวจริงๆ ถ้าทำแบบนี้ไม่ต้องล้างเลยดีกว่าไหม เพราะนอกจากภายนอกจะล้างและเช็ดไม่สะอาด ไม่ล้างหรือแม้กระทั่งเททรายบนผ้ายาง ยังทำพื้นรถภายในเลอะอีกต่างหาก เราต้องรีบจอดรถเช็ดออกเพราะกลัวว่าจะยิ่งเป็นคราบฝังลึก
พนักงานศูนย์นี้ให้บริการสุภาพดี แต่เห็นจะต้องปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพและความใส่ใจในการทำงานอีกมาก วันแรกที่เอารถเข้าเช็คระยะช่วงศูนย์เปิดเรายังโทรไปคุยกับเพื่อนขำๆ เลยว่าเห็น พนง. หญิงคนหนึ่งลงจากมอเตอร์ไซค์วินรีบวิ่งไปสแกนนิ้วเข้างาน เสร็จแล้วรีบกลับไปขึ้นมอเตอร์ไซค์คันเดิมออกจากศูนย์ไป พอเจอแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจกับการบริหารซึ่งส่งผลถึงการบริการของที่นี่ เสียความรู้สึกจริงๆ ค่ะ กลับมาเสิร์ชกูเกิล คิดจะหาช่องทางร้องเรียนดันเจอวีรกรรมของที่นี่ในเคสอื่นๆ อีก ทำให้คิดได้ว่าสิ่งที่เราเจอมานี้กระจอกไปเลย และไม่แน่ใจว่าร้องเรียนไปจะได้ผลอะไรรึเปล่า เลยขอแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ ทางนี้ดีกว่าค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ พอกันทีค่ะกับศูนย์นี้
ขอแชร์ประสบการณ์แย่ๆ จากศูนย์ Toyota K.Motors ประชาอุทิศ
หลังจาก จนท. แจ้งรายการและค่าใช้จ่าย เราก็สอบถามเรื่องส่วนลด จนท. บอกว่าปกติจะไม่ได้สิทธิ์เพราะไม่ได้ออกรถกับดีลเลอร์นี้และเป็นลูกค้าใหม่ แต่จะลดให้ 10% ตามที่ขอ เมื่อชำระเงิน เรามาดูบิลก็ไม่เห็นว่ามีส่วนลดอะไร แต่เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายนัก เพราะสิทธิ์ที่ว่าไม่สามารถใช้ลดค่าน้ำมันเครื่องได้ ส่วนอะไหล่อื่นๆ ก็ราคาไม่มากนัก ลดได้ไม่เท่าไหร่ แต่นอกจากการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองตามปกติแล้ว พบว่าโช้คหลังด้านซ้ายมีน้ำมันซึมออกมา สอบถามเพิ่มเติมแล้วทราบว่าน่าจะเกิดจากซีลยางแตก แต่รถอยู่ในระยะประกัน ดังนั้นจะทำเรื่องเบิกอะไหล่ ซึ่งต้องรอประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วจะโทรมาแจ้งอีกครั้ง
รอจนกระทั่งวันศุกร์ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ สุดท้ายเราต้องเป็นฝ่ายโทรไปสอบถามเอง จนท. ที่รับเรื่องสอบถามเลขทะเบียนและขอเวลาตรวจสอบ บอกว่าจะโทรกลับมาแจ้งอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน จนท. คนเดิมโทรกลับมา ถามหมายเลขทะเบียนอีกครั้งแล้วพูดเหมือนเดิมว่าจะโทรมาแจ้งใหม่ -_-“ ในที่สุดก็โทรกลับมาบอกว่าอะไหล่ยังไม่มา ถ้ามาจะโทรแจ้ง (อีกครั้ง)
รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ สุดท้ายมี จนท. โทรมาแจ้งให้นำรถเข้าไปเปลี่ยนโช้ค สรุปว่าเราต้องรออะไหล่ 3 สัปดาห์ แทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือระยะเวลารออะไหล่สำหรับ Toyota Vios 2012 เมื่อนำรถเข้าไปตามนัด (ประมาณ 9.30 น.) แล้ว จนท. บอกว่าใช้เวลาดำเนินการประมาณ 3 ชม. เราจึงทิ้งรถไว้ แล้วจะกลับมารับอีกครั้ง ผ่านไปประมาณ 30 นาที จนท. โทรมาขอโทษ แจ้งว่าโช้คที่สั่งมานั้นผิดรุ่น เราเซ็ง พูดไม่ออก ได้แต่ถามไปว่าวันนี้จะเสร็จไหม จนท. บอกว่าเสร็จแน่นอนครับ ตอนนี้กำลังรออะไหล่ จะมาประมาณบ่าย 2 – บ่าย 3 เราก็บอกว่าเสร็จแล้วโทรมาแล้วกัน แต่สงสัยว่าเมื่อมีปัญหาสามารถเปลี่ยนอะไหล่ได้ภายใน 2-3 ชม. แต่ขั้นตอนการเบิก 3 สัปดาห์มันคืออะไร
ประมาณบ่ายสองครึ่ง จนท. โทรมาบอกว่ารถเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางไปรับรถ จนท. ให้ตรวจสอบความเรียบร้อย แต่เราตรวจสอบได้เพียงผ่านๆ ด้วยความเร่งรีบ เพราะมีธุระและแผนการรวนไปหมดจากระยะเวลาที่ยืดออกไป เมื่อขับออกมาได้ระยะหนึ่ง เราหันไปหยิบของด้านหลัง พบว่าผ้ายางตรงที่วางเท้าด้านหลังคนขับร่นมาด้านหน้า เปิดให้เห็นพรมกับพื้นสีเบจที่เปื้อนคราบดำเหมือนเอามือจับผ้ายาง เห็นดังนั้นแล้วเราก็อดไม่ได้ที่จะก้มมองด้านคนขับ ไม่ผิดคาดเลย พื้นห้องโดยสารสีเบจตรงด้านซ้ายถัดจากคันเบรกซึ่งไม่มีผ้ายางปิดเปื้อนรอยพื้นรองเท้าเช่นเดียวกับใต้คันเร่ง แถมบนผ้ายางยังมีคราบของเหลวไหลเปื้อนอีก จากเดิมที่ปลงกลายเป็นโมโหมาก คิดว่าจะเลี้ยวรถกลับไปที่ศูนย์แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะกว่าจะกลับไปถึงศูนย์คงปิดแล้ว ก่อนหน้านี้เห็นว่าศูนย์นี้ล้างรถไม่เรียบร้อยเลย เพราะตอนส่งรถยังเห็นหยดน้ำเกาะที่กระจกข้างอยู่ มาคราวนี้ไม่ไหวจริงๆ ถ้าทำแบบนี้ไม่ต้องล้างเลยดีกว่าไหม เพราะนอกจากภายนอกจะล้างและเช็ดไม่สะอาด ไม่ล้างหรือแม้กระทั่งเททรายบนผ้ายาง ยังทำพื้นรถภายในเลอะอีกต่างหาก เราต้องรีบจอดรถเช็ดออกเพราะกลัวว่าจะยิ่งเป็นคราบฝังลึก
พนักงานศูนย์นี้ให้บริการสุภาพดี แต่เห็นจะต้องปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพและความใส่ใจในการทำงานอีกมาก วันแรกที่เอารถเข้าเช็คระยะช่วงศูนย์เปิดเรายังโทรไปคุยกับเพื่อนขำๆ เลยว่าเห็น พนง. หญิงคนหนึ่งลงจากมอเตอร์ไซค์วินรีบวิ่งไปสแกนนิ้วเข้างาน เสร็จแล้วรีบกลับไปขึ้นมอเตอร์ไซค์คันเดิมออกจากศูนย์ไป พอเจอแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจกับการบริหารซึ่งส่งผลถึงการบริการของที่นี่ เสียความรู้สึกจริงๆ ค่ะ กลับมาเสิร์ชกูเกิล คิดจะหาช่องทางร้องเรียนดันเจอวีรกรรมของที่นี่ในเคสอื่นๆ อีก ทำให้คิดได้ว่าสิ่งที่เราเจอมานี้กระจอกไปเลย และไม่แน่ใจว่าร้องเรียนไปจะได้ผลอะไรรึเปล่า เลยขอแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ ทางนี้ดีกว่าค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ พอกันทีค่ะกับศูนย์นี้