พระกัสสปะพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าในภัทรกัปป์นี้ ทรงจุติลงมาในโลกมนุษย์หลังจากสิ้นสุดศาสนาของพระโกนาคมพุทธเจ้าแล้ว โดยนับตั้งแต่อายุมนุษย์ลดลงจากสองหมื่นปีเหลือ 10 ปี แล้วเพิ่มขึ้นจนถึงสองหมื่นปีอีกครั้ง พระองค์จึงเสด็จลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
พระองค์เกิดในตระกูลพราหมณ์ บิดานามว่า พรหมทัต มารดานามว่า ธนวดี หลังจากเจริญชันณษาแล้ว ทรง อภิเษกกับ มเหสีนามว่า สุนันทา ทรงมีราชโอรส วิชิตเสน ทรงเป็นฆราวาสอยู่ 2,000 ปี เมื่อถึงคราวทรงเห็นเทวทูตทั้งสี่ ได้ละทางโลก แล้วทรงออกผนวช บำเพ็ญเพียรอยู่ 7 วันก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ในสมัยพุทธกาลนี้ พระโคตมพุทธเจ้าได้เกิดเป็นโชติปาลมานพ (อ่านว่า โช-ติ-ปา-ละ อยู่วรรณะพราหมณ์) ผู้เป็นสหายของฆฏิการอุบาสก (อย่านว่าคะ-ติ-กา-ระ บรรลุธรรมระดับอนาคามีบุคคล) โชติปาลมานพในตอนแรกไม่ได้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า แต่เมื่อฆฏิการอุบาสกชวนไปฟังธรรมบ่อยเข้าจึงยอมไป เมื่อไปพบพระกัสสปพุทธเจ้าโชติปาลมานพ ได้กล่าวลบหลู่ว่า "การตรัสรู้เป็นของยากจะมีโพธิบัลลังก์ที่ไหนให้ท่านได้ตรัสรู้กัน" แต่เมื่อได้ฟังธรรมแล้วมีจิตเลื่อมใสจึงออกบวช และได้รับพุทธพยากรณ์ว่าต่อไปภายหน้าโชติปาลภิกษุจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป อย่างไรก็ตามพระโคดมพุทธเจ้าเมื่อครั้งตรัสรู้แล้วได้กล่าวไว้ว่าเพราะผลกรรมที่ได้กล่าวลบหลู่พระกัสสปพุทธเจ้าในอดีตทำให้พระองค์ทรงเสียเวลาในการ ลองผิดลองถูกเป็นเวลานานถึง 6 ปีกว่าจะได้ตรัสรู้ ซึ่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของพระพุทธเจ้าที่มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกและระหว่างนั้นพระองค์ได้มีการอดอาหารจนกระทั่งเกือบสิ้นพระชนม์
ประเด็นที่อยากชวนสนทนาก็คือ สมมุติว่า ในสมัยนั้นออกบวช แล้วได้เป็นพระมหาเถระ มีโอกาสชักชวน เจ้าเมือง เจ้าแคว้นออกบวช รวมถึงเหล่าเสนาบดี ทหารของแคว้นเหล่านั้น มาบวชด้วย จนมีคำเล่าลือว่า เจ้าแคว้นที่ออกบวช และในที่สุดก็กลับมาเกิดในสมัยพระพุทะเจ้า สมณโคดม 2600 ปีผ่านไป เจ้าแคว้นในอดีชาติอีกเมืองคือ เจ้าเมืองที่มีศิลปะในหัวใจ ก็กลับมาเกิดในชาตินี้ คำุถามก็คือ เป็นไปได้ไหมว่า เมื่อกลับมาเกิดอีกหลายภพหลายชาติ พระมหาเถระในสมัยอดีตชาตินั้น กลับมาเกิดเป็นลูกชาวนายากจน แต่ภายหลังก็รวมคนมาสร้างวัดได้ใหญ่โตอลังการได้ โดยแบ่งคนออกเป็นสี่กองทัพ คือ ธาตุธรรม ทำวิชชา เผยแผ่ ปฏิสังขรณ์ กองเสบียง
จากกรณีศึกษาเรื่องกฏแห่งกรรมนี้ ก็แสดงว่า ในแต่ละภพชาตินั้น ไม่มีความแน่นอนใดๆที่จะกลับมาเกิดตามใจปรารถนา
ขนาดเป็นพระมหาเถระ เป็นอาจารย์ของพระราชาองค์ที่ออกบวช (ในอดีตชาติ) ยังมีโอกาสกลับมาเกิดเป็นลูกชาวนายากจนได้เลย
และที่ยังสงสัยว่า มหาเสนาบดีผู้เกียจคร้านในอดีตชาติ ขนาดเกียจชังกันตั้งหลายภพ ยังตามมาเกิดในภพชาตินี้อีกด้วย
ก็แสดงว่า กฏแห่งกรรม ก็หนีกันไม่พ้น
สมมุติว่าเกิดเป็นคนในยุดสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า
พระองค์เกิดในตระกูลพราหมณ์ บิดานามว่า พรหมทัต มารดานามว่า ธนวดี หลังจากเจริญชันณษาแล้ว ทรง อภิเษกกับ มเหสีนามว่า สุนันทา ทรงมีราชโอรส วิชิตเสน ทรงเป็นฆราวาสอยู่ 2,000 ปี เมื่อถึงคราวทรงเห็นเทวทูตทั้งสี่ ได้ละทางโลก แล้วทรงออกผนวช บำเพ็ญเพียรอยู่ 7 วันก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ในสมัยพุทธกาลนี้ พระโคตมพุทธเจ้าได้เกิดเป็นโชติปาลมานพ (อ่านว่า โช-ติ-ปา-ละ อยู่วรรณะพราหมณ์) ผู้เป็นสหายของฆฏิการอุบาสก (อย่านว่าคะ-ติ-กา-ระ บรรลุธรรมระดับอนาคามีบุคคล) โชติปาลมานพในตอนแรกไม่ได้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า แต่เมื่อฆฏิการอุบาสกชวนไปฟังธรรมบ่อยเข้าจึงยอมไป เมื่อไปพบพระกัสสปพุทธเจ้าโชติปาลมานพ ได้กล่าวลบหลู่ว่า "การตรัสรู้เป็นของยากจะมีโพธิบัลลังก์ที่ไหนให้ท่านได้ตรัสรู้กัน" แต่เมื่อได้ฟังธรรมแล้วมีจิตเลื่อมใสจึงออกบวช และได้รับพุทธพยากรณ์ว่าต่อไปภายหน้าโชติปาลภิกษุจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป อย่างไรก็ตามพระโคดมพุทธเจ้าเมื่อครั้งตรัสรู้แล้วได้กล่าวไว้ว่าเพราะผลกรรมที่ได้กล่าวลบหลู่พระกัสสปพุทธเจ้าในอดีตทำให้พระองค์ทรงเสียเวลาในการ ลองผิดลองถูกเป็นเวลานานถึง 6 ปีกว่าจะได้ตรัสรู้ ซึ่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของพระพุทธเจ้าที่มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกและระหว่างนั้นพระองค์ได้มีการอดอาหารจนกระทั่งเกือบสิ้นพระชนม์
ประเด็นที่อยากชวนสนทนาก็คือ สมมุติว่า ในสมัยนั้นออกบวช แล้วได้เป็นพระมหาเถระ มีโอกาสชักชวน เจ้าเมือง เจ้าแคว้นออกบวช รวมถึงเหล่าเสนาบดี ทหารของแคว้นเหล่านั้น มาบวชด้วย จนมีคำเล่าลือว่า เจ้าแคว้นที่ออกบวช และในที่สุดก็กลับมาเกิดในสมัยพระพุทะเจ้า สมณโคดม 2600 ปีผ่านไป เจ้าแคว้นในอดีชาติอีกเมืองคือ เจ้าเมืองที่มีศิลปะในหัวใจ ก็กลับมาเกิดในชาตินี้ คำุถามก็คือ เป็นไปได้ไหมว่า เมื่อกลับมาเกิดอีกหลายภพหลายชาติ พระมหาเถระในสมัยอดีตชาตินั้น กลับมาเกิดเป็นลูกชาวนายากจน แต่ภายหลังก็รวมคนมาสร้างวัดได้ใหญ่โตอลังการได้ โดยแบ่งคนออกเป็นสี่กองทัพ คือ ธาตุธรรม ทำวิชชา เผยแผ่ ปฏิสังขรณ์ กองเสบียง
จากกรณีศึกษาเรื่องกฏแห่งกรรมนี้ ก็แสดงว่า ในแต่ละภพชาตินั้น ไม่มีความแน่นอนใดๆที่จะกลับมาเกิดตามใจปรารถนา
ขนาดเป็นพระมหาเถระ เป็นอาจารย์ของพระราชาองค์ที่ออกบวช (ในอดีตชาติ) ยังมีโอกาสกลับมาเกิดเป็นลูกชาวนายากจนได้เลย
และที่ยังสงสัยว่า มหาเสนาบดีผู้เกียจคร้านในอดีตชาติ ขนาดเกียจชังกันตั้งหลายภพ ยังตามมาเกิดในภพชาตินี้อีกด้วย
ก็แสดงว่า กฏแห่งกรรม ก็หนีกันไม่พ้น