ต่อจากตอนที่แล้ว เมดากะเตรียมลุยสู้กับอิอิฮิโกะอีกครั้งด้วยโหมดเทพสิ้นสุด ด้วยพลังของโหมดทำเอาทุกคนพูดไม่ออกจนนามานิเอะบอกว่าให้พูดอะไรกันหน่อยสิ บอกเป็นธรรมเนียมของโรงเรียนไม่ใช่เหรอไงที่จะสนับสนุนพวกที่พยายาม เซ็นคิจิบอกเขาไม่อยากให้นามานิเอะมาบอกหรอก
พวกเซนคิจิก็ตะโกนให้เมดากะลุยเลย เมดากะก็ลุยทันที
การพุ่งชนนั้นจะพลาดได้แค่เพียงกระพริบตา ต่อให้ไม่กระพริบก็อาจจะพลาดได้ แต่ในห้องผู้อำนวยการโรงพยาบาลฮาโคนิวะนี้ ผู้ที่อยู่ที่นี่ต่างเป็นพยานถึงความเร็วสูงสุดของเมดากะ
แน่นอนว่าคนที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนก็คืออิอิฮิโกะ ด้วยเหตุผลนั้นทำให้ภายในใจเริ่มเย็นชาขึ้นมาทีละน้อยดว้ยความผิดหวังว่า... แค่นี้เองเหรอ คิดว่าจริงอยู่ที่ดูเหมือนจะเร็วขึ้นกว่าครั้งก่อน ถ้านับรวมถึงเรื่องแผลที่ไม่ได้รักษาก็คงเป็นอะไรที่น่าดูอยู่ อิอิฮิโกะพิจารณาอย่างละเอียดมองทะลุปรุโปร่งถึงทริคของความเร็วที่เพิ่มขึ้นที่ง่ายๆคือเรื่องที่หัวใจหยุดเต้น หัวใจของเมดากะหยุดไปแล้วจากการโจมตีอิอิฮิโกะรอบที่แล้วเพราะพลังของคุโรคามิแฟนท่อมสะท้อนกลับมาให้ตัวเธอเอง ถึงอย่างนั้นด้วยการสั่นของกล้ามเนื้อจึงทำให้เลือดไล่เวียนต่อจนฟื้นจากความตายได้แม้หัวใจจะหยุดเต้น
แต่ผลลัพธ์นั้นไม่ได้มีเพียงแค่การฟื้นจากความตาย แต่ตอนนี้ร่างกายของเมดากะทั่วทั้งร่างเป็นเหมือนปั๊ม ทั้งร่างได้กลายเป็นหัวใจไปแล้ว ตอนนี้เมดากะจึงกลายเป็นเหมือนหัวใจขนาดใหญ่ ชีพจรเต้นเร็วเกินค่าเฉลี่ยของมนุษย์และยังส่งผลต่อพลัง แต่ยังไงอิอิฮิโกะก็ไม่ได้รู้สึกสดชื่นกับเรื่องนี้เลย สำหรับอิอิฮิโกะผู้ที่สู้กับผู้ศัตรูมากมายแล้วก็คิดว่าเมดากะก็แค่กลายเป็นหัวใจ ไม่ได้ทำให้เขากลัวเลยแม้แต่น้อย คิดว่าเมดากะก็จะเหมือนใครหลายๆคนที่อิอิฮิโกะได้เจอมาในช่วงหลายร้อยปีหลายพันปี
รวมถึงเหมือนกันอันชินอิน แต่จังหวะที่เมดากะเหมือนจะพุ่งเข้าใส่อิอิฮิโกะแล้ว จู่ๆร่างของเมดากะก็หายไปจนอิอิฮิโกะตกใจ เซ็นคิจิก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมดากะหายไปในจังหวะที่กำลังจะโจมตีอิอิฮิโกะ ทันทีนั้นก็มีเสียงกระทืบเท้า
ปรากฎว่าเมดากะกำลังพุ่งเข้าถึงตัวอิอิฮิโกะ
เซ็นคิจิแปลกใจที่เหมือนมีเมดากะอีกคนอยู่หลังเมดากะ เหมือนเป็นเทคนิคการย่างเท้าจนเกิดเงาหลอกแยกร่าง คาโมเมะบอกเป็นการผสมผสานเทคนิคแยกร่างทำให้เกิดร่างคุโรคามิแฟนท่อมที่หายตัวได้ แต่คาโมเมะไม่อยากเชื่อว่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้ เซ็นคิจิบอกอีกว่าเป็นเหมือนการโจมตีแบบต่างเวลา ราวกับเลื่อนเวลาการพุ่งชน เมดากะเล็งการเผลอผ่อนคลายการป้องกันร่างของอิอิฮิโกะ ก็เหมือนการโจมตีหลอกๆแต่ชิรานุอิบอกอิอิฮิโกะจะไม่ผ่อนการป้องกัน ต่อให้เมดากะพยายามหน่วงเวลาหลอกอิอิฮิโกะแต่ตราบที่อยู่ในโหมดต่อสู้อิอิฮิโกะก็จะสะท้อนการโจมตีได้หมดอยู่ดี แต่นามานิเอะก็บอกนั้นไม่ใช่การหน่วงเวลาแต่เป็น "สลิปสตรีม"
เมื่อผู้ใดพยายามจะทำความเร็วบนโลกก็จะเจอกับกำแพงไม่ว่าจะทั้งมนุษย์หรือสัตว์ประหลาดต่างก็ต้องเผชิญ เป็นสิ่งที่ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้แต่มันก็คือกำแพงจริงๆทางฟิสิกส์ วัตถุจะเจอเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็นเมื่อทำลายกำแพงเสียง กำแพงที่ว่าคือความดันอากาศ อากาศเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดในการใช้ชีวิตตามปกติ แต่เมื่อเพิ่มความเร็วอากาศจะกลายเป็นอุปสรรค หากกรณีเลวร้ายจากการชนเข้ากับกำแพงอากาศเต็มที่วัตถุก็จะกลายเป็นชิ้นๆ
ท่าคุโรคามิแฟนท่อมนั้นเล็งการใช้พลังจนถึงขอบกำแพงนั้น ในระดับสูงหน่อยก็จะใช้ประโยชน์ของกำแพงนี้ ไม่ว่าจะด้วยทางใดหากอยู่บนโลกก็ไม่อาจจะหนีจากรากฐานกฎของการลดความเร็วของแรงต้านอากาศ การจะไล่ตามความเร็วเพื่อให้ได้ความเร็วมากขึ้นก็จะถูกต้านจนถูกบังคับให้ลดความเร็ว ก่อนที่จะใช้ความเร็วทำลายเป้าหมาย หากพยายามขจัดการต่อต้านก็จะถูกความเร็วแล้วพลังฆ่าด้วยอากาศ แต่ถ้าคิดในทางตรงกันข้ามแทนที่จะทำลายกำแพงของอากาศก็มาทำลายกำแพงของการจะถูกขจัด
นั้นคือสลิปสตรีม ด้วยการเอาร่างแยกไว้ที่ด้านหน้าก่อนทำให้เมดากะไม่ต้องเจอ"กำแพง"ในการพุ่งเข้าหาอิอิฮิโกะ ถึงร่างแยกจะเป็นเพียงภาพติตตา ด้วยการนำพุ่งเข้าชนก่อนร่างแยกจะทำให้แรงกดอากาศหายไปและสร้างช่องทางให้ตาม ด้วยคำพูดของฮาโตะที่พูดว่าถ้านำก็จะมีคนตาม แน่นอนว่าความเร็วและพลังไม่ได้เปลี่ยนไปแต่ก็ไม่มีสิ่งกีดขวาง ด้วยพลังกายทั้งหมดจึงเพิ่มขึ้นด้วยวิชา ตอนนี้เมดากะจึงโจมตีได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่อิอิฮิโกะหลบการโจมตีของเมดากะ
เมดากะพลาดจนทุกคนตะลึง เซ็นคิจิพูดกับอิอิฮิโกะเลยว่าทำไมไม่กล้ารับการโจมตีของเมดากะอย่างที่พูด แต่คุมางาวะบอกเพราะเชื่อคำพูดของอิอิฮิโกะนั้นแหละบ้า อย่างอิอิฮิโกะคงไม่เล่นด้วยไปตลอดหรอกเพราะอิอิฮิโกะไม่ใช่เมดากะ แต่ก็ควรชมอิอิฮิโกะจริงๆที่ยังหลบความเร็วของคุโรคามิแฟนท่อมได้ คาเคกาเอะก็บอกว่าจบแล้วเพราะเมดากะคงไม่อาจทำการโจมตีแบบนี้ได้อีกรอบเพราะเมดากะนั้นสู้ถึงขีดสุดแล้ว อิอิฮิโกะเองบอกเลยว่าเท่านี้การต่อสู้นี้เขาก็ชนะ
แต่ทันทีนั้นเองเมดากะก็โจมตีอิอิฮิโกะจากด้านหลังจนทุกคนตะลึง พอดูเส้นทางการพุ่งของเมดากะก็เห็นว่าเมดากะเลี้ยวกลับมาได้
เมดากะบอกเธอทำให้ตัวเองคล้ายเงาของตัวเอง เป็นเทคนิคพิเศษที่ใช้ประโยชน์ของจุดยอดซ่อนตัวในร่างแยกด้วยความเร็วที่ไล่ตาม นี่คือรูปแบบสุดท้ายของคุโรคามิแฟนท่อม คุโรคามิไฟนอล อิอิฮิโกะบอกในที่สุดเขาก็ได้เห็นการดิ้นรนอันสดชื่นของเมดากะ พูดเสร็จอิอิฮิโกะก็ล้มไป เมดากะบอกถ้าเธอเรียนรู้การหักเลี้ยวมาก่อนอิอิฮิโกะก็คงยังรีบหันกลับมาแน่ ถ้าอิอิฮิโกะไม่หลบการโจมตีแรกตัวอิอิฮิโกะก้คงไม่เจ็บขนาดนี้ เมดากะเองก็รู้ว่าตัวเองกำลังจะล้มเหมือนกันจึงคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้เสมอ
แต่ตอนนั้นชิรานุอิก็เข้ามากอดเมดากะก่อน เซ็นคิจิเองก็พูดเลยว่าเล่นไปชิงนำเขาซะงั้น คุมางาวะบอกช่วยไม่ได้ยอมๆชิรานุอิเถอะ ตอนนั้นชิรานุอิก็ปล่อยเมดากะและบอกไม่เสมอหรอกการต่อสู้ครั้งนี้แน่นอนว่า....
ชิรานุอิ: ฉัน...ชนะ
จู่ๆชิรานุอิก็แทงใส่เมดากะ
เมดากะถึงกับกระอักเลือด ทุกคนก็ตกใจ แต่นั้นเพราะอิอิฮิโกะได้ย้ายไปอยู่ในร่างชิรานุอิแล้วและพูดเลยว่า อย่างที่คิดว่าร่างใหม่นี้สดชื่นจริงๆ
จบตอน
[Spoil] Medaka Box - 180
พวกเซนคิจิก็ตะโกนให้เมดากะลุยเลย เมดากะก็ลุยทันที
การพุ่งชนนั้นจะพลาดได้แค่เพียงกระพริบตา ต่อให้ไม่กระพริบก็อาจจะพลาดได้ แต่ในห้องผู้อำนวยการโรงพยาบาลฮาโคนิวะนี้ ผู้ที่อยู่ที่นี่ต่างเป็นพยานถึงความเร็วสูงสุดของเมดากะ
แน่นอนว่าคนที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนก็คืออิอิฮิโกะ ด้วยเหตุผลนั้นทำให้ภายในใจเริ่มเย็นชาขึ้นมาทีละน้อยดว้ยความผิดหวังว่า... แค่นี้เองเหรอ คิดว่าจริงอยู่ที่ดูเหมือนจะเร็วขึ้นกว่าครั้งก่อน ถ้านับรวมถึงเรื่องแผลที่ไม่ได้รักษาก็คงเป็นอะไรที่น่าดูอยู่ อิอิฮิโกะพิจารณาอย่างละเอียดมองทะลุปรุโปร่งถึงทริคของความเร็วที่เพิ่มขึ้นที่ง่ายๆคือเรื่องที่หัวใจหยุดเต้น หัวใจของเมดากะหยุดไปแล้วจากการโจมตีอิอิฮิโกะรอบที่แล้วเพราะพลังของคุโรคามิแฟนท่อมสะท้อนกลับมาให้ตัวเธอเอง ถึงอย่างนั้นด้วยการสั่นของกล้ามเนื้อจึงทำให้เลือดไล่เวียนต่อจนฟื้นจากความตายได้แม้หัวใจจะหยุดเต้น
แต่ผลลัพธ์นั้นไม่ได้มีเพียงแค่การฟื้นจากความตาย แต่ตอนนี้ร่างกายของเมดากะทั่วทั้งร่างเป็นเหมือนปั๊ม ทั้งร่างได้กลายเป็นหัวใจไปแล้ว ตอนนี้เมดากะจึงกลายเป็นเหมือนหัวใจขนาดใหญ่ ชีพจรเต้นเร็วเกินค่าเฉลี่ยของมนุษย์และยังส่งผลต่อพลัง แต่ยังไงอิอิฮิโกะก็ไม่ได้รู้สึกสดชื่นกับเรื่องนี้เลย สำหรับอิอิฮิโกะผู้ที่สู้กับผู้ศัตรูมากมายแล้วก็คิดว่าเมดากะก็แค่กลายเป็นหัวใจ ไม่ได้ทำให้เขากลัวเลยแม้แต่น้อย คิดว่าเมดากะก็จะเหมือนใครหลายๆคนที่อิอิฮิโกะได้เจอมาในช่วงหลายร้อยปีหลายพันปี
รวมถึงเหมือนกันอันชินอิน แต่จังหวะที่เมดากะเหมือนจะพุ่งเข้าใส่อิอิฮิโกะแล้ว จู่ๆร่างของเมดากะก็หายไปจนอิอิฮิโกะตกใจ เซ็นคิจิก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมดากะหายไปในจังหวะที่กำลังจะโจมตีอิอิฮิโกะ ทันทีนั้นก็มีเสียงกระทืบเท้า
ปรากฎว่าเมดากะกำลังพุ่งเข้าถึงตัวอิอิฮิโกะ
เซ็นคิจิแปลกใจที่เหมือนมีเมดากะอีกคนอยู่หลังเมดากะ เหมือนเป็นเทคนิคการย่างเท้าจนเกิดเงาหลอกแยกร่าง คาโมเมะบอกเป็นการผสมผสานเทคนิคแยกร่างทำให้เกิดร่างคุโรคามิแฟนท่อมที่หายตัวได้ แต่คาโมเมะไม่อยากเชื่อว่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้ เซ็นคิจิบอกอีกว่าเป็นเหมือนการโจมตีแบบต่างเวลา ราวกับเลื่อนเวลาการพุ่งชน เมดากะเล็งการเผลอผ่อนคลายการป้องกันร่างของอิอิฮิโกะ ก็เหมือนการโจมตีหลอกๆแต่ชิรานุอิบอกอิอิฮิโกะจะไม่ผ่อนการป้องกัน ต่อให้เมดากะพยายามหน่วงเวลาหลอกอิอิฮิโกะแต่ตราบที่อยู่ในโหมดต่อสู้อิอิฮิโกะก็จะสะท้อนการโจมตีได้หมดอยู่ดี แต่นามานิเอะก็บอกนั้นไม่ใช่การหน่วงเวลาแต่เป็น "สลิปสตรีม"
เมื่อผู้ใดพยายามจะทำความเร็วบนโลกก็จะเจอกับกำแพงไม่ว่าจะทั้งมนุษย์หรือสัตว์ประหลาดต่างก็ต้องเผชิญ เป็นสิ่งที่ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้แต่มันก็คือกำแพงจริงๆทางฟิสิกส์ วัตถุจะเจอเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็นเมื่อทำลายกำแพงเสียง กำแพงที่ว่าคือความดันอากาศ อากาศเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดในการใช้ชีวิตตามปกติ แต่เมื่อเพิ่มความเร็วอากาศจะกลายเป็นอุปสรรค หากกรณีเลวร้ายจากการชนเข้ากับกำแพงอากาศเต็มที่วัตถุก็จะกลายเป็นชิ้นๆ
ท่าคุโรคามิแฟนท่อมนั้นเล็งการใช้พลังจนถึงขอบกำแพงนั้น ในระดับสูงหน่อยก็จะใช้ประโยชน์ของกำแพงนี้ ไม่ว่าจะด้วยทางใดหากอยู่บนโลกก็ไม่อาจจะหนีจากรากฐานกฎของการลดความเร็วของแรงต้านอากาศ การจะไล่ตามความเร็วเพื่อให้ได้ความเร็วมากขึ้นก็จะถูกต้านจนถูกบังคับให้ลดความเร็ว ก่อนที่จะใช้ความเร็วทำลายเป้าหมาย หากพยายามขจัดการต่อต้านก็จะถูกความเร็วแล้วพลังฆ่าด้วยอากาศ แต่ถ้าคิดในทางตรงกันข้ามแทนที่จะทำลายกำแพงของอากาศก็มาทำลายกำแพงของการจะถูกขจัด
นั้นคือสลิปสตรีม ด้วยการเอาร่างแยกไว้ที่ด้านหน้าก่อนทำให้เมดากะไม่ต้องเจอ"กำแพง"ในการพุ่งเข้าหาอิอิฮิโกะ ถึงร่างแยกจะเป็นเพียงภาพติตตา ด้วยการนำพุ่งเข้าชนก่อนร่างแยกจะทำให้แรงกดอากาศหายไปและสร้างช่องทางให้ตาม ด้วยคำพูดของฮาโตะที่พูดว่าถ้านำก็จะมีคนตาม แน่นอนว่าความเร็วและพลังไม่ได้เปลี่ยนไปแต่ก็ไม่มีสิ่งกีดขวาง ด้วยพลังกายทั้งหมดจึงเพิ่มขึ้นด้วยวิชา ตอนนี้เมดากะจึงโจมตีได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่อิอิฮิโกะหลบการโจมตีของเมดากะ
เมดากะพลาดจนทุกคนตะลึง เซ็นคิจิพูดกับอิอิฮิโกะเลยว่าทำไมไม่กล้ารับการโจมตีของเมดากะอย่างที่พูด แต่คุมางาวะบอกเพราะเชื่อคำพูดของอิอิฮิโกะนั้นแหละบ้า อย่างอิอิฮิโกะคงไม่เล่นด้วยไปตลอดหรอกเพราะอิอิฮิโกะไม่ใช่เมดากะ แต่ก็ควรชมอิอิฮิโกะจริงๆที่ยังหลบความเร็วของคุโรคามิแฟนท่อมได้ คาเคกาเอะก็บอกว่าจบแล้วเพราะเมดากะคงไม่อาจทำการโจมตีแบบนี้ได้อีกรอบเพราะเมดากะนั้นสู้ถึงขีดสุดแล้ว อิอิฮิโกะเองบอกเลยว่าเท่านี้การต่อสู้นี้เขาก็ชนะ
แต่ทันทีนั้นเองเมดากะก็โจมตีอิอิฮิโกะจากด้านหลังจนทุกคนตะลึง พอดูเส้นทางการพุ่งของเมดากะก็เห็นว่าเมดากะเลี้ยวกลับมาได้
เมดากะบอกเธอทำให้ตัวเองคล้ายเงาของตัวเอง เป็นเทคนิคพิเศษที่ใช้ประโยชน์ของจุดยอดซ่อนตัวในร่างแยกด้วยความเร็วที่ไล่ตาม นี่คือรูปแบบสุดท้ายของคุโรคามิแฟนท่อม คุโรคามิไฟนอล อิอิฮิโกะบอกในที่สุดเขาก็ได้เห็นการดิ้นรนอันสดชื่นของเมดากะ พูดเสร็จอิอิฮิโกะก็ล้มไป เมดากะบอกถ้าเธอเรียนรู้การหักเลี้ยวมาก่อนอิอิฮิโกะก็คงยังรีบหันกลับมาแน่ ถ้าอิอิฮิโกะไม่หลบการโจมตีแรกตัวอิอิฮิโกะก้คงไม่เจ็บขนาดนี้ เมดากะเองก็รู้ว่าตัวเองกำลังจะล้มเหมือนกันจึงคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้เสมอ
แต่ตอนนั้นชิรานุอิก็เข้ามากอดเมดากะก่อน เซ็นคิจิเองก็พูดเลยว่าเล่นไปชิงนำเขาซะงั้น คุมางาวะบอกช่วยไม่ได้ยอมๆชิรานุอิเถอะ ตอนนั้นชิรานุอิก็ปล่อยเมดากะและบอกไม่เสมอหรอกการต่อสู้ครั้งนี้แน่นอนว่า....
ชิรานุอิ: ฉัน...ชนะ
จู่ๆชิรานุอิก็แทงใส่เมดากะ
เมดากะถึงกับกระอักเลือด ทุกคนก็ตกใจ แต่นั้นเพราะอิอิฮิโกะได้ย้ายไปอยู่ในร่างชิรานุอิแล้วและพูดเลยว่า อย่างที่คิดว่าร่างใหม่นี้สดชื่นจริงๆ
จบตอน