ลูกชายเศรษฐีควบเฟอร์รารี! เสย-6คันรวด - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
ลูกชายตระกูล “ทักษิณทวีทรัพย์” ก่อเหตุควบรถสปอร์ตสุดหรู “เฟอร์รารี” ชนยับรวดเดียว 6 คันซ้อน หลังควบรถเก๋งคู่ใจซิ่งลงจากสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าด้วยความเร็วสูง เมื่อลงสะพานเห็นรถจอดติดบนถนนราชดำเนินเรียงเป็นตับเจ้าตัวเหยียบเบรกตัวโก่งแต่หยุดรถไม่อยู่
พุ่งชนเสียงดังสนั่นจนฝากระโปรงหน้ารถเก๋งคันงามยุบเป็นเศษเหล็ก เผยคนขับเฟอร์รารีเป็นพี่ชายของคนขับรถปอร์เช่ ป้ายแดงที่ก่อเหตุชนสาวลาวตายสยองตัวขาดสองท่อน ร่างท่อนบนตั้งแต่หัวถึงเอวติดคากับตัวรถสปอร์ตคันงาม ที่เป็นอุบัติเหตุสยองเมื่อ มี.ค.54
อีกด้วยอุบัติเหตุซิ่งรถเฟอร์รารีชนยับครั้งนี้ เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 2 ก.พ. ร.ต.ต.ธรรมนูญ หม่อมปลัด พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุมีรถชนกันที่เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพการจราจรที่ติดขัดอย่างมาก ประกอบกับเป็นช่วงเย็นที่มีผู้ใช้รถจำนวนมาก ขณะที่มีน้ำมันไหลนองเต็มพื้นผิวการจราจรทางช่องซ้ายของถนนราชดำเนินกลาง ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามหอศิลป์ กรมศิลปากร เยื้องสนามหลวง พบรถเฟอร์รารี สีแดง รุ่นเอฟ 430 ทะเบียน ป้ายแดง น-0567 กรุงเทพมหานคร มีนายวัศพล ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/61 ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. เป็นคันก่อเหตุที่พุ่งชนท้ายอัดติดอยู่กับรถตู้โฟล์ค คาราเวล สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฬธ 888 กรุงเทพมหานคร แรงชนยังส่งผลให้รถพุ่งชนรถคันที่อยู่ทางด้านหน้าอีก 4 คัน ทั้งรถแท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีฟ้า ทะเบียน ทว 5074 กรุงเทพมหานคร รถร่วมโดยสารประจำทางสาย 68 สีส้ม ทะเบียน 14-6640 กรุงเทพมหานคร รถตู้โฟล์ค คาราเวล สีบรอนซ์ฟ้า ทะเบียน ฮข 3978 กรุงเทพมหานคร และรถโตโยต้า วีออส ไม่ทราบทะเบียน
รวมรถเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ 6 คัน โดยสภาพรถเฟอร์รารี เสียหายที่ฝากระโปรงหน้ารถถูกชนยับกลายเป็นเศษเหล็ก ส่วนภายในตัวรถถุงลมนิรภัยอยู่ในสภาพที่ใช้งานระหว่างถูกชน ขณะที่รถคันอื่นถูกชนกระแทกรถยุบเสียหายทั้งด้านหน้าและด้านหลังรถไปตามๆกัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถเฟอร์รารี ขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งขึ้นมาจากสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ามุ่งไปฝั่งพระนคร พอถึงกลางสะพาน คาดว่าคนขับน่าจะเห็นรถที่ชะลออยู่ด้านหน้า จึงพยายามเหยียบเบรก แต่ไม่สามารถควบคุมรถให้หยุดได้ จึงพุ่งเข้าชนดังกล่าวเสียงดังสนั่นเบื้องต้นพนักงานสอบสวนถ่ายภาพความเสียหายทั้งหมดไว้ พร้อมนำนายวัศพล และคนขับคู่กรณีทั้งหมด ไปสอบสวนที่ สน.ชนะสงคราม หากพบว่านายวัศพลมีความผิดจะดำเนินคดีในข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายต่อไป ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลากรถเฟอร์รารีไปจอดไว้ที่หน้า สน.ชนะสงคราม พร้อมกับนำแผงเหล็กมากั้นไว้
สร้างความตื่นตาให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศย่านตรอกข้าวสารฮือฮาเข้าถ่ายภาพเก็บไว้ด้วย สำหรับนายวัศพล เป็นพี่ชายของนายพีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 20 ปี ที่เคยก่อเหตุขับรถยนต์ปอร์เช่ สีขาว ทะเบียน ป้ายแดง ง-1352 กรุงเทพมหานคร ชน น.ส.คำใบ อินทิลาด อายุ 17 ปี ชาวลาว ตายอนาถร่างกายขาด 2 ท่อน สภาพศพตั้งแต่ครึ่งเอวถึงปลายเท้าตรงจุดถูกชนใกล้ปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนสาย 345 หมู่ 6 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ส่วนศพตั้งแต่ช่วงศีรษะถึงท่อนเอวติดอยู่ในรถปอร์เช่ที่นายพีรพลขับไปจอดทิ้งไว้ข้างทางถนนราชพฤกษ์ หมู่ 2 ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ห่างจากจุดที่ชนเป็นระยะทาง 10 กม. ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มี.ค.54 ที่ผ่านมา กระทั่งนายศุภชัย ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 59 ปี บิดาของนายพีรพล และมีชื่อเป็นเจ้าของรถปอร์เช่ ต้องพานายพีรพลเข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ดำเนินคดีข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมาแล้ว
ขอบคุณที่มา
http://www.thairath.co.th/content/newspaper/324258
ลูกชายเศรษฐีควบเฟอร์รารี! เสย-6คันรวด - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
ลูกชายตระกูล “ทักษิณทวีทรัพย์” ก่อเหตุควบรถสปอร์ตสุดหรู “เฟอร์รารี” ชนยับรวดเดียว 6 คันซ้อน หลังควบรถเก๋งคู่ใจซิ่งลงจากสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าด้วยความเร็วสูง เมื่อลงสะพานเห็นรถจอดติดบนถนนราชดำเนินเรียงเป็นตับเจ้าตัวเหยียบเบรกตัวโก่งแต่หยุดรถไม่อยู่
พุ่งชนเสียงดังสนั่นจนฝากระโปรงหน้ารถเก๋งคันงามยุบเป็นเศษเหล็ก เผยคนขับเฟอร์รารีเป็นพี่ชายของคนขับรถปอร์เช่ ป้ายแดงที่ก่อเหตุชนสาวลาวตายสยองตัวขาดสองท่อน ร่างท่อนบนตั้งแต่หัวถึงเอวติดคากับตัวรถสปอร์ตคันงาม ที่เป็นอุบัติเหตุสยองเมื่อ มี.ค.54
อีกด้วยอุบัติเหตุซิ่งรถเฟอร์รารีชนยับครั้งนี้ เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 2 ก.พ. ร.ต.ต.ธรรมนูญ หม่อมปลัด พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุมีรถชนกันที่เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพการจราจรที่ติดขัดอย่างมาก ประกอบกับเป็นช่วงเย็นที่มีผู้ใช้รถจำนวนมาก ขณะที่มีน้ำมันไหลนองเต็มพื้นผิวการจราจรทางช่องซ้ายของถนนราชดำเนินกลาง ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามหอศิลป์ กรมศิลปากร เยื้องสนามหลวง พบรถเฟอร์รารี สีแดง รุ่นเอฟ 430 ทะเบียน ป้ายแดง น-0567 กรุงเทพมหานคร มีนายวัศพล ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/61 ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. เป็นคันก่อเหตุที่พุ่งชนท้ายอัดติดอยู่กับรถตู้โฟล์ค คาราเวล สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฬธ 888 กรุงเทพมหานคร แรงชนยังส่งผลให้รถพุ่งชนรถคันที่อยู่ทางด้านหน้าอีก 4 คัน ทั้งรถแท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีฟ้า ทะเบียน ทว 5074 กรุงเทพมหานคร รถร่วมโดยสารประจำทางสาย 68 สีส้ม ทะเบียน 14-6640 กรุงเทพมหานคร รถตู้โฟล์ค คาราเวล สีบรอนซ์ฟ้า ทะเบียน ฮข 3978 กรุงเทพมหานคร และรถโตโยต้า วีออส ไม่ทราบทะเบียน
รวมรถเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ 6 คัน โดยสภาพรถเฟอร์รารี เสียหายที่ฝากระโปรงหน้ารถถูกชนยับกลายเป็นเศษเหล็ก ส่วนภายในตัวรถถุงลมนิรภัยอยู่ในสภาพที่ใช้งานระหว่างถูกชน ขณะที่รถคันอื่นถูกชนกระแทกรถยุบเสียหายทั้งด้านหน้าและด้านหลังรถไปตามๆกัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถเฟอร์รารี ขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งขึ้นมาจากสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ามุ่งไปฝั่งพระนคร พอถึงกลางสะพาน คาดว่าคนขับน่าจะเห็นรถที่ชะลออยู่ด้านหน้า จึงพยายามเหยียบเบรก แต่ไม่สามารถควบคุมรถให้หยุดได้ จึงพุ่งเข้าชนดังกล่าวเสียงดังสนั่นเบื้องต้นพนักงานสอบสวนถ่ายภาพความเสียหายทั้งหมดไว้ พร้อมนำนายวัศพล และคนขับคู่กรณีทั้งหมด ไปสอบสวนที่ สน.ชนะสงคราม หากพบว่านายวัศพลมีความผิดจะดำเนินคดีในข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายต่อไป ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลากรถเฟอร์รารีไปจอดไว้ที่หน้า สน.ชนะสงคราม พร้อมกับนำแผงเหล็กมากั้นไว้
สร้างความตื่นตาให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศย่านตรอกข้าวสารฮือฮาเข้าถ่ายภาพเก็บไว้ด้วย สำหรับนายวัศพล เป็นพี่ชายของนายพีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 20 ปี ที่เคยก่อเหตุขับรถยนต์ปอร์เช่ สีขาว ทะเบียน ป้ายแดง ง-1352 กรุงเทพมหานคร ชน น.ส.คำใบ อินทิลาด อายุ 17 ปี ชาวลาว ตายอนาถร่างกายขาด 2 ท่อน สภาพศพตั้งแต่ครึ่งเอวถึงปลายเท้าตรงจุดถูกชนใกล้ปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนสาย 345 หมู่ 6 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ส่วนศพตั้งแต่ช่วงศีรษะถึงท่อนเอวติดอยู่ในรถปอร์เช่ที่นายพีรพลขับไปจอดทิ้งไว้ข้างทางถนนราชพฤกษ์ หมู่ 2 ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ห่างจากจุดที่ชนเป็นระยะทาง 10 กม. ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มี.ค.54 ที่ผ่านมา กระทั่งนายศุภชัย ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 59 ปี บิดาของนายพีรพล และมีชื่อเป็นเจ้าของรถปอร์เช่ ต้องพานายพีรพลเข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ดำเนินคดีข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมาแล้ว
ขอบคุณที่มา
http://www.thairath.co.th/content/newspaper/324258