เรียนจบได้วุฒิ ปวส.แล้ว แนะนำให้ไปสอบ ภาคก. ของก.พ. ทิ้งไว้
ภาคก. ไม่มีอะไรมาก ทำคะแนนแต่ละส่วนให้เกิน 60% ทั้ง 2ส่วน ก็ผ่านละ
สำหรับสายอาชีพ แนะนำให้ไปอ่านคณิต ภาษาไทยปูพื้นฐานไว้ จะเพิ่มโอกาสผ่าน

เมื่อสอบภาคก.  ของ ก.พ.ผ่านได้ใบรับรองแล้ว ที่นี้ก็ตระเวณฑ์หาหน่วยราชการที่เปิดรับสมัคร
ภาค ข ต่อ (อาจจะมีถึงภาค ค.) ภาคนี้หูตาต้องเร็วนิดนึง หาที่เปิดรับสอบให้ดี  
พร้อมกับเตรียมตัวรับมือการสอบความรู้เฉพาะตำแหน่งราชการ กับเตรียมตัวรับการสัมพาทไว้ด้วย
(ฝึกพูด ฝึกสร้างวิสัยทัศน์)

อีกที่หนึ่งที่น่าสนใจ คือสอบ กทม. คู่แข่งจะเยอะหน่อย แต่เป็นสนามสอบฝึกการทำข้อสอบอย่างดีสนามหนึ่ง

วุฒิปวสที่ใช้สอบรับราชการ จะอยู่ในแท่งทั่วไป (ปฏิบัติงาน ถึงชำนาญงาน ระดับอาวุฒิโสอย่างไปหวัง)
สมัยที่ยังเป็นc ใช้เวลา 2ปี เงินเดือน จะเท่าสายป.ตรี
สมัยระบบแท่ง ใช้เวลา 3ปี ถึง3ปีครึ่ง  เงินเดือนจะเท่าป.ตรี
ยุคหมื่น5  อายุราชการ5ปี ก็ยังตามสายป.ตรีไม่ทัน
ดังนั้นถ้าคิดจะรับราชการวุฒิ ปวส. ต้องหาลู่ทางเรียนป.ตรีทิ้งไว้ด้วย
สำหรับคนงบน้อยแนะนำเรียน มสธ.(ต้องมีวินัยสูง)หรือราม(สำหรับเน้นจบ)
ถ้ามีตังหน่อย ก็เรียนภาคพิเศษ เอา
เมื่อมีวุฒิป.ตรี ก็ไปสอบสายวิชาการอีกที่ ขรก.แท่งทั่วไป ความก้าวหน้าต่ำ มีโอกาสเปลี่ยนสายก็เปลี่ยน

ข้อดีของการรับราชการ วุฒิปวส.
- คู่แข่งน้อยกว่า ศักยภาพต่ำกว่า ส่งผลให้ฌอกาสสอบติด สูงกว่า
- สอบติดตั้งแต่อายุน้อย ๆ จะทำให้ มีอายุราชการสูง เมื่อเกษียณ %เงินบำนาญจะสูง
- ศึกษาระบบราชการ เพื่อเป็นลู่ทางในอนาคต