ตอนแรกเราคิดว่าเป็นสิวหัวช้าง ก็เลยแค่ทาเบตาดีน มันก็ยุบๆ เป็นๆ เป็นอย่างนี้มา 6-7 เดือนได้ จนวันหนึ่งมันแดงที่ตุ่มนี้คือมันอักเสบแล้ว
เราเลยหาข้อมูลทาง internet ก็เลยรู้ว่าสงสัยตัวเองจะเป็นฝี เลยไปซื้อกอเอี๊ยะ มาแปะ แต่มันก็ไม่ดีขึ้น เลยตัดสินใจไปหาหมอดีกว่า พอไปหาหมอประมาณเดือน ก.ย. 55 หมอก็บอกว่าเป็นฝีอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจาก 1.ถอนขนที่รักแร้ (เวลาถอนแล้วขนมันขาดแล้วทำให้มันไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ หรือขนคุด จึงทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นอักเสบ) 2.อาจจับที่ตุ่มจนมันอักเสบ ///
หมอเลยให้กินยาแก้อักเสบ กินอยู่หลายอาทิตย์ หมอเปลี่ยนยาแก้อักเสบ มาหลายประเภท ก็ไม่ยุบสักที จนหมอบอกว่ากรีดดีกว่า จะได้ล้างแผลข้างในเพื่อเอาหนองออก เราก็โอเค คือตอนนั้นหมอจะทำอะไรก็ทำหมด อยากหายไวๆ มันเรื้อรัง พอกรีดแล้วก็ต้องล้างแผลทุกวัน เพราะเป็นแผลเปิด (ประมาณ 1 ซม.) ได้ หมอใช้อุปกรณ์ที่หนีบสำลีจิ้มให้ดูบอกว่าลึกประมาณเซ็นกว่าๆ คือปล่อยให้อักเสบไว้นาน หนองมันเลยกินลงไปลึก แต่พอล้างแล้วก็ไม่ดีขึ้น พยาบาลที่ล้างแผลบอกว่าคนเป็นกันเยอะ หายเร็วบ้าง ช้าบ้าง แล้วแต่รูขุมขนของแต่ละคน และยาตัวที่กินเข้าไปถูกกับเชื้อที่อักเสบอยู่หรือเปล่า พอปากแผลปิด แต่ยังมีหนอง หมอก็ต้องกรีดใหม่ ไม่งั้นมันไม่หาย จนเรากรีดไป 5 ครั้ง ล้างแผลมาประมาณ 3 เดือน จนเนื้อที่ล้างบ่อยๆเป็นพังผืด ก็ยังไม่หาย
จนเดือนธ.ค. หมอเลยตัดสินใจ ผ่าตัดเล็ก(กรีดประมาณ 1 นิ้ว เย็บ 5 เข็ม) อันนี้คือขั้นตอนสุดท้ายที่หมอเลือกที่จะทำ เพราะบางคนกินยาแล้วก็ยุบ บางคนแค่กรีดก็ยุบ แต่เราทำทุกอย่างแล้วไม่ยุบ (T-T) เพื่อเอาชิ้นเนื้อไปตรวจว่าเป็นอะไรทำไมถึงไม่หายสักที ผลออกมาก็ปกติ ไม่มีอะไรร้ายแรง มีแค่แบคทีเรียทั่วไป พอหลังจากตัดไหม ซึ่งบางคนก็หาย แต่เราไม่หาย ตามเคย (T-T) แทนที่จะเป็นแผลเรียบๆ เหมือนเคสปกติที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จ แต่แผลเรามีส่วนที่นูนออกมา บริเวณที่เดิมที่เป็นฝี เราเลยไปหาหมออีก หมอก็บอกสงสารคนไข้ไม่หายสักที หมอเลยเปลี่ยนเป็นยาฆ่าเชื้อ ยาตัวนี้กินแล้วดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แผลค่อยๆยุบลงๆ จนปัจจุบันยุบลงจนเรียบเท่าเนื้อปกติแล้ว วันที่ 3 ก.พ. 56 คงเป็นการหาหมอครั้งสุดท้ายในเคสนี้สักที ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 5 เดือน ^_^" แต่สำหรับบางคนหลายปีเลยอ่ะ ที่เราเคยอ่านมา
หมอบอกว่าคนที่เป็นฝีจะไม่หายขาดห้ามไปจับหรือไปกระตุ้นทำให้มันอักเสบ เหตุการณ์ครั้งนี้แม้ไม่ได้เป็นโรคที่รุนแรงแต่มันเรื้อรังเลยทำให้เราคิดว่า เวลาเป็นอะไรที่ผิดสังเกตุควรรีบไปหาหมอ จะได้รักษาหายไวๆ เพราะเราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ได้มีเวลาว่างพอในการไปหาหมอ (ช่วงที่เป็นเราลาเยอะมาก จนเกรงใจ) เห็นคนเป็นกันเยอะ แต่ข้อมูลใน internet ไม่เยอะเท่าไหร่ เราเลยเอามาแชร์ในเพื่อนๆ อ่าน เผื่อใครกำลังเป็นอยู่หรืออยากศึกษาข้อมูล ^___^
ฝีที่รักแร้ เป็นกับตัวเองเลยเอามาแบ่งปันเพื่อนๆ ^_^
เราเลยหาข้อมูลทาง internet ก็เลยรู้ว่าสงสัยตัวเองจะเป็นฝี เลยไปซื้อกอเอี๊ยะ มาแปะ แต่มันก็ไม่ดีขึ้น เลยตัดสินใจไปหาหมอดีกว่า พอไปหาหมอประมาณเดือน ก.ย. 55 หมอก็บอกว่าเป็นฝีอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจาก 1.ถอนขนที่รักแร้ (เวลาถอนแล้วขนมันขาดแล้วทำให้มันไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ หรือขนคุด จึงทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นอักเสบ) 2.อาจจับที่ตุ่มจนมันอักเสบ ///
หมอเลยให้กินยาแก้อักเสบ กินอยู่หลายอาทิตย์ หมอเปลี่ยนยาแก้อักเสบ มาหลายประเภท ก็ไม่ยุบสักที จนหมอบอกว่ากรีดดีกว่า จะได้ล้างแผลข้างในเพื่อเอาหนองออก เราก็โอเค คือตอนนั้นหมอจะทำอะไรก็ทำหมด อยากหายไวๆ มันเรื้อรัง พอกรีดแล้วก็ต้องล้างแผลทุกวัน เพราะเป็นแผลเปิด (ประมาณ 1 ซม.) ได้ หมอใช้อุปกรณ์ที่หนีบสำลีจิ้มให้ดูบอกว่าลึกประมาณเซ็นกว่าๆ คือปล่อยให้อักเสบไว้นาน หนองมันเลยกินลงไปลึก แต่พอล้างแล้วก็ไม่ดีขึ้น พยาบาลที่ล้างแผลบอกว่าคนเป็นกันเยอะ หายเร็วบ้าง ช้าบ้าง แล้วแต่รูขุมขนของแต่ละคน และยาตัวที่กินเข้าไปถูกกับเชื้อที่อักเสบอยู่หรือเปล่า พอปากแผลปิด แต่ยังมีหนอง หมอก็ต้องกรีดใหม่ ไม่งั้นมันไม่หาย จนเรากรีดไป 5 ครั้ง ล้างแผลมาประมาณ 3 เดือน จนเนื้อที่ล้างบ่อยๆเป็นพังผืด ก็ยังไม่หาย
จนเดือนธ.ค. หมอเลยตัดสินใจ ผ่าตัดเล็ก(กรีดประมาณ 1 นิ้ว เย็บ 5 เข็ม) อันนี้คือขั้นตอนสุดท้ายที่หมอเลือกที่จะทำ เพราะบางคนกินยาแล้วก็ยุบ บางคนแค่กรีดก็ยุบ แต่เราทำทุกอย่างแล้วไม่ยุบ (T-T) เพื่อเอาชิ้นเนื้อไปตรวจว่าเป็นอะไรทำไมถึงไม่หายสักที ผลออกมาก็ปกติ ไม่มีอะไรร้ายแรง มีแค่แบคทีเรียทั่วไป พอหลังจากตัดไหม ซึ่งบางคนก็หาย แต่เราไม่หาย ตามเคย (T-T) แทนที่จะเป็นแผลเรียบๆ เหมือนเคสปกติที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จ แต่แผลเรามีส่วนที่นูนออกมา บริเวณที่เดิมที่เป็นฝี เราเลยไปหาหมออีก หมอก็บอกสงสารคนไข้ไม่หายสักที หมอเลยเปลี่ยนเป็นยาฆ่าเชื้อ ยาตัวนี้กินแล้วดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แผลค่อยๆยุบลงๆ จนปัจจุบันยุบลงจนเรียบเท่าเนื้อปกติแล้ว วันที่ 3 ก.พ. 56 คงเป็นการหาหมอครั้งสุดท้ายในเคสนี้สักที ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 5 เดือน ^_^" แต่สำหรับบางคนหลายปีเลยอ่ะ ที่เราเคยอ่านมา
หมอบอกว่าคนที่เป็นฝีจะไม่หายขาดห้ามไปจับหรือไปกระตุ้นทำให้มันอักเสบ เหตุการณ์ครั้งนี้แม้ไม่ได้เป็นโรคที่รุนแรงแต่มันเรื้อรังเลยทำให้เราคิดว่า เวลาเป็นอะไรที่ผิดสังเกตุควรรีบไปหาหมอ จะได้รักษาหายไวๆ เพราะเราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ได้มีเวลาว่างพอในการไปหาหมอ (ช่วงที่เป็นเราลาเยอะมาก จนเกรงใจ) เห็นคนเป็นกันเยอะ แต่ข้อมูลใน internet ไม่เยอะเท่าไหร่ เราเลยเอามาแชร์ในเพื่อนๆ อ่าน เผื่อใครกำลังเป็นอยู่หรืออยากศึกษาข้อมูล ^___^