(กระทู้ข่าว) “ลาล่า-ลูลู่” แยกตัวรับงานเอง พูดไม่เต็มปาก “โปงลาง” แตกวง


ที่มา : http://entertain.smmonline.net/

          เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่กำลังได้รับความสนใจ กรณีวงดนตรีพื้นบ้านชื่อดัง “โปงลางสะออน” ถึงคราวแตกวงเสียแล้ว หลังจากชาวพิจิตรออกมาแสดงความไม่พอใจ ที่ไม่มี “ลาล่า ลูลู่”ขึ้นแสดงในงานหนึ่ง จนมีกระแสข่าวว่าวงโปงลางสะออนถึงคราวแตกเสียแล้ว ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 11.00น. (31ม.ค.) สองสาวได้เชิญสื่อไปฟังความจริงจากปากของเธอ ที่ห้องอาร์เอส ฮอลล์  บ.อาร์เอส จะเป็นอย่างไรไปฟังกัน

          “ก่อนอื่นก็กราบพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่าน วันนี้ก็อยากจะมาชี้แจงแถลงไขเรื่องที่เป็นเรื่องการเบี้ยวงานที่จังหวัด พิจิตร ก็งานที่พิจิตรนะค่ะคือพวกเราไม่ทราบงานมาก่อนหน้านี้ แล้วก็พวกเราก็ได้ลาออกจากวงมาตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2556 แล้วค่ะ เราสองคนลาออกจากวงโปงลางสะออน มีผลกับการทำงานคือวันที่ 3มกรา เราก็ไม่ได้ร่วมงานกับวงแล้ว ไม่ได้ไปด้วยกันแล้ว
          สาเหตุที่พวกเราลาออกจากวงก็เพราะว่าความคิดและการทำงานของเราไม่ตรงกันจึงทำให้พวกเราตัดสินใจลาออกจากวงเพื่อที่จะ เราทั้งสองคนจะได้มีโอกาสทำงานอย่างอื่นได้หลากหลาย เนื่องจากการร่วมงานกับวงเราก็ได้ร่วมงานมา เป็น 10 กว่าปีแล้ว เราก็อยากจะทำงานที่หลากหลายสไตล์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราบ้าง ตอนนี้พูดจริงๆ เราสองคนก็อายุเยอะแล้ว แล้วก็ความคิดของเราอาจจะโตขึ้นด้วย ก็เลยอยากทำอะไรอย่างอื่นด้วย แต่ถ้าบนเวทีเราก็ยังได้เหมือนเดิม แต่ก็อยากจะมีพวกละคร พิธีกร ร่วมด้วยจึงทำให้เราทั้งสองคนตัดสินใจลาออกจากวงโปงลางสะออน
          ประเด็นที่ว่าเราเบี้ยวงาน ตั้งแต่ที่เราเริ่มทำงานมา เราสองคนไม่เคยเบี้ยวงาน มีแต่ไปก่อนด้วยซ้ำ ไปก่อนก็ไปเป็นชั่วโมง แม้กระทั้งเป็นไข้ หรือป่วยอยู่กับสายน้ำเกลือ ลูลู่ก็ต้องถอดสายน้ำเกลือเพื่อไปงาน ขนาดพ่อของ ลูลู่เสีย ก็ยังขึ้นเวทีอยู่เลยค่ะ ไม่เคยคิดที่จะเบี้ยวงานและไม่เคยคิดอยู่ในหัวสมองอยู่แล้วค่ะ คือการทำงานเต็มที่เต็มร้อย

          ต่อไปก็จะเห็นพวกเราอีกรูปแบบหนึ่ง อาจจะมีละครบ้าง แล้วก็มี ซิงเกิลใหม่ที่พวกเราแยกออกมาทำเพลงของเราต่างหาก ตอนนี่พวกเราก็ยังอยู่กับ อาร์เอส กับอาร์สยามเหมือนเดิม โปงลางสะออนยังอยู่กับอาร์เอส อาร์สยามเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าไม่มีเราสองคน การจ้างงานของโปงลางก็จะไม่มีลูลู่ ลาล่า อีกต่อไปค่ะ

          สาเหตุเราไม่ได้ทะเลาะกันค่ะ เรากับพี่อี๊ดก็คุยกันปกติ เรายังบอกกับพี่อี๊ดว่าจะไม่ได้ทำงานด้วยกันแล้วนะ ก็แจงไปแล้วว่า วันที่ 3 เราจะหยุดเราจะไม่ไปกับโปงลางสะออนแล้ว ทุกคนทราบดีทั้งสมาชิกในวงก็ทราบ ผู้ใหญ่ทางวงก็ทราบ เฮีย ก็ทราบค่ะ หลังจากวันที่ 3 ก็ไม่มีลูลู่ ลาล่าแล้ว คือได้ลาออกแล้ว

          ตอนลาออกพี่อี๊ดก็บอกว่าท่าน้องไปในทางที่ดีเขาก็ยินดีที่จะสนับสนุน เพราะว่าเขาก็อยากให้น้องแต่ละคนมีอะไรที่หลากหลายสไตล์ คือรับทราบดีค่ะ”

เรียกว่าวงแตกได้ไหม?
    “อันนี้วงโปงลางสะออนยังไม่แตกนะค่ะ เพราะว่าวงยังมีเหมือนเดิม ยังมีสัญญากับอาร์เอสเหมือนเดิม เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีเราสองคน เพราะว่าตออนี้เราก็แยกเซ็นสัญญากับอาร์สยามอีก ตอนนี้ที่ให้ชื่อในการทำงานกับอาร์เอส คือ ลูลู่ ลาล่าโปงลางอาร์สยาม “

มันไม่ทับไลน์กันเหรอ
    “ไม่เป็นสไตล์นั้น เพราะว่าพี่อี๊ดเป็นวงใหญ่ เราก็จะเป็นแค่เราสองคนของเรา ส่วนเรื่องลายละเอียดต่างๆ ไม่ขอพูดนะค่ะ ขอโทษจริงๆ แล้วก็ไม่ได้เสียน้ำตาเพราะว่าเรา เป็นการคุยกันด้วยดี คุยกันด้วยเหตุผลประเด็นหลักๆ อยู่ที่ความคิดของเรา การทำงานของเราเพราะเราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น  ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าเราอยู่กับที่ อยู่แต่บนเวที เราก็อยากได้อะไรใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตบ้าง  ก็พูดได้เลยว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อายุจะได้แค่ไหน ก็เลยอยากทำอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น”

ความผูกพัน หลายปีที่ผ่านมา พอตอนออกมารู้สึกอย่างไรบ้าง
    “ความผูกพันก็เหมือนเดิม ยังคิดถึงเหมือนเดิม ยังคุยกับพี่อี๊ดได้ล่าสุดปีใหม่ก็คุยกัน ทุกอย่างเราเหมือนเดิม ก็แค่รูปแบบการทำงานอาจจะเปลี่ยนไป”

เราเป็นคนขอค่ายเองที่จะแยก หรือว่าใครแนะนำ
    “ใช่ค่ะ เราสองคนก็ได้ปรึกษากับผู้ใหญ่ ว่าเราอยากทำแบบนี้นะ อยากทำอะไรหลายๆอย่าง”

กลัวเพื่อนๆ ในวงว่าไหม ว่าดังแล้วแยกวง
    “อันนี้เราไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร แต่ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้คุยกันทั้งวงแล้ว รับทราบว่าจะเป็นรูปแบบนี้ค่ะ พี่อี๊ดไม่รั้งไว้ค่ะ จะมีคนมาแทนที่เราสองคนไหม มันเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ ส่วนเรื่องของเราเองก็เป็นอนาคตว่าจะวางยังไง”

ทำไมไม่นำพีอี๊ดมาพูดด้วย
    “คือมันเป็นเรื่องของเราสองคน เป็นประเด็นเราที่หาว่าเราเบี้ยวงาน แล้วก็มีข้อสงสัยหลายอย่างที่เกี่ยวกับเราสองคน”

ด้วยความที่เราเป็นโลโก้ของโปงลาง เราห่วงไหมว่าวงโปงลางจะอยู่ไม่ได้
    “อันนี้เป็นเรื่องของอนาคตจริงๆค่ะ ที่เราไม่สามารถวางไว้ก่อนได้ เป็นหวงไหม คิดถึงมากกว่าค่ะ เราสองคนเซ็นสัญญาอีก 5 ปีค่ะ เรื่องสัญญาของพี่อี๊ดไม่ทราบว่าเซ็นกี่ปี แต่รู้ว่าตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ ปีกว่าๆ ค่ะ”

มีปัญหาที่สะสมทีละเล็กทีละน้อยหรือเปล่าจนกระทั่งต้องแยกวง
    “อันนี้เป็นที่ความคิดที่ไม่ตรงกันมากกว่าค่ะ เราไม่ได้สะสมอะไร อันนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนค่ะ”

ที่ออกมาไม่ได้โปรโมทอะไรหรือสร้างกระแส?
    “ค่ะที่มาวันนี้ก็อยากจะชี้แจง ที่ว่าไม่ได้ไปงานพิจิตรเพราะสาเหตุอะไร เพราว่าลาออกจากวงตั้งแต่วันที่ 3 แล้ว สิ่งที่ออกมาเราก็รู้สึกข้างอยู่ในใจ เราก็เลยต้องมาแจ้ง เพราะมันจะมีผลกับเจ้าภาพในอนาคตด้วย “

วันก่อนเฮียให้สัมภาษณ์ ว่ามีปัญหาในตัวของวงเอง
    “ใช่ค่ะมีปัญหา คือตัวพวกหนูเอง ระบบการทำงาน ความรู้สึกภายในใจ  รับเรื่องอะไรไม่ได้ อันนี้ไม่ขอตอบนะคะ ไม่ขอลงรายละเอียด  การจ้างงานก็ต้องจ้างแบบแยกกันค่ะ ตอนนี่เราก็ยิงเพลงที่โปรโมทอยู่ค่ะ สไตล์ก็ไม่เหมือนค่ะ ก็ยังเป็นเราอยู่ งานอื่นก็รับได้เลยค่ะ”

กลัว Feedback ไหมว่าจะไม่เปรี้ยงเหมือนเดิม
    “ตรงนี้เราไม่ได้คำนึงว่าจะเปรี้ยงหรือไม่เปรี้ยง เราได้ทำ เราได้เห็นคนดูดูเราเรามีความสุข สนุกไม่ต้องคิดอะไรมาก”

ความรู้สึกตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ฟังดูเสียงสั่นมาก
    “มันก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะว่าเราไม่เคยเจอแบบนี้  แต่ก็ถือเป็นการจากแต่ว่าก็ยังคุยกันเหมือนเดิม ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกันก็ได้อยู่แล้ว ได้เสมอ ส่วนเรื่องโทรหาพี่อี๊ดเราบอกไม่ได้ว่าตอนไหน เพราะว่าเรา ก็ต้องไปถ่ายละครต่อค่ะ”

ตัดสินใจลาออกมานานหรือยัง
    “อันนี้เราก็คุยกันมานานแล้วค่ะ ความคิดกับการทำงานไม่ค่อยตรงกันค่ะก็เลยแบบไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ในการทำงาน แล้วก็ไม่มีบุคคลที่สามเข้ามาทำให้แยกออกจากวง”

ทำไมเพิ่งมาแถลงวันนี้ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าเราจะลาออก
    “ที่จริงจะมีแถลงอยู่แล้ว แต่กำหนดการไม่ทราบ แต่พอดีเกิดเรื่องที่พิจิตรก่อน ก็เลยว่าอย่างนี้ทีเดียวเลย ส่วนเรื่องแฟนคลับของวงก็ยังเหมือนเดิม “

ด้วยระบบของวงของการปูมุขใครเป็นคนคิด
       “ส่วนมากพี่อี๊ดจะเป็นคนปูมากกว่าค่ะ เรื่องมุขเราก็ช่วยกันค่ะ พอไม่มีอี๊ดจะเป็นยังไง ส่วนของเราเป็นงานโชว์เพลงด้วย แล้วก็มีแทรกมุขต่างๆ เหมือนเดิม ไม่มีการทับกัน มันก็ต้องเปิดโลกกว้างอยู่แล้ว เหตุที่แยกวงก็ไม่เกี่ยวกับที่พี่อี๊ดชอบแยกไปรับงานนะคะ”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่