ฟิลิปส์ อิเล็คทรอนิคส์ หนึ่งในบริษัทไฟฟ้าชื่อดังของโลก จากเนเธอร์แลนด์ ได้ตัดสินใจที่จะหันหลังให้กับแผนกธุรกิจสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็คทรอนิคส์ที่คลุกคลีมากว่า 80 ปีแล้ว พร้อมกับการเทขายทรัพย์สิน อย่างแผ่นเสียง วีดีโอ สื่อมีเดีย และแผนกสินค้าอุปกรณ์เสริมให้กับบริษัท ฟูนาอิ อิเล็คทรอนิคส์ ญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าการซื้อขายเงินสดที่ 201.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมค่าลิขสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้า
ทั้งนี้ ข่าวการออกมาประกาศตัดสินหันหลังให้กับวงการ ตามมาหลังจากที่ฟิลิปส์ออกมาแถลงผลประกอบการของไตรมาสที่สี่ไม่กี่วัน โดยถูกเปิดเผยว่า บริษัทจากดัทช์รายนี้มีภาวะขาดทุนอย่างมหาศาล ซึ่งในจำนวนรายได้ที่สูญเสียไปนั้น มาจากค่าใช้จ่ายในความพยายามปรับโครงสร้างและค่าปรับจากคดีฮั้วกันกำหนดราคา
ในอดีต ฟิลิปส์ คือหนึ่งในบริษัทผู้บุกเบิกเกี่ยวกับสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็คทรอนิคส์ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1930 จากการเป็นซัพพลายเออร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของวิทยุ ก่อนที่ต่อมาในปี 1963 จะเป็นบริษัทที่สามารถคิดค้นออดิโอคาสเซ็ส และเป็นบริษัทแรกที่สามารถสร้างเครื่องบันทึกวีดีโอคาสเซ็สได้ในปี 1972 หลังจากนั้นอีกหนึ่งทศวรรษต่อมาฟิลิปส์ได้กลายมาเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมคอมแพ็คดิสก์ หรือซีดี นอกจากนี้ ฟิลิปส์ยังมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขึ้นของฟอร์แมตของดีวีดีและบลูเรย์ด้วย
สำหรับอนาคตข้างหน้า ฟิลิปส์เผยว่า มีแผนที่จะเน้นความสนใจในเรื่องของธุรกิจเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์แสงสว่างอย่างหลอดไฟ LED รวมถึงระบบควบคุมแสงสว่างบนตึกเอ็มไพร์สเตทที่มหานครนิวยอร์ก แต่อย่างไรก็ดี บริษัทก็จะยังคงเดินหน้าต่อเนื่องในธุรกิจเครื่องชงกาแฟและเครื่องโกนหนวดไฟฟ้า
ที่มา TechSpot
ฟิลิปส์ โบกมือลาวงการสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็คทรอนิคส์แล้ว หลังคลุกคลีมากว่า 80 ปี
ทั้งนี้ ข่าวการออกมาประกาศตัดสินหันหลังให้กับวงการ ตามมาหลังจากที่ฟิลิปส์ออกมาแถลงผลประกอบการของไตรมาสที่สี่ไม่กี่วัน โดยถูกเปิดเผยว่า บริษัทจากดัทช์รายนี้มีภาวะขาดทุนอย่างมหาศาล ซึ่งในจำนวนรายได้ที่สูญเสียไปนั้น มาจากค่าใช้จ่ายในความพยายามปรับโครงสร้างและค่าปรับจากคดีฮั้วกันกำหนดราคา
ในอดีต ฟิลิปส์ คือหนึ่งในบริษัทผู้บุกเบิกเกี่ยวกับสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็คทรอนิคส์ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1930 จากการเป็นซัพพลายเออร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของวิทยุ ก่อนที่ต่อมาในปี 1963 จะเป็นบริษัทที่สามารถคิดค้นออดิโอคาสเซ็ส และเป็นบริษัทแรกที่สามารถสร้างเครื่องบันทึกวีดีโอคาสเซ็สได้ในปี 1972 หลังจากนั้นอีกหนึ่งทศวรรษต่อมาฟิลิปส์ได้กลายมาเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมคอมแพ็คดิสก์ หรือซีดี นอกจากนี้ ฟิลิปส์ยังมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขึ้นของฟอร์แมตของดีวีดีและบลูเรย์ด้วย
สำหรับอนาคตข้างหน้า ฟิลิปส์เผยว่า มีแผนที่จะเน้นความสนใจในเรื่องของธุรกิจเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์แสงสว่างอย่างหลอดไฟ LED รวมถึงระบบควบคุมแสงสว่างบนตึกเอ็มไพร์สเตทที่มหานครนิวยอร์ก แต่อย่างไรก็ดี บริษัทก็จะยังคงเดินหน้าต่อเนื่องในธุรกิจเครื่องชงกาแฟและเครื่องโกนหนวดไฟฟ้า
ที่มา TechSpot