รายงานวิชาบัณฑิตศึกษา เรื่องแม่มดน้อยโดเรมี

กระทู้สนทนา
คำเตือน: ขอสงวนสิทธิ์ในข้อเขียนชิ้นนี้ทุกประการ พูดง่าย ๆ คือให้อ่านอย่างเดียว ห้ามทำซ้ำ ห้ามเผยแพร่ ฯลฯ เพราะเป็นรายงานส่งอธิการฯ ของจริง

แม่มดน้อยโดเรมี


          แม่มดน้อยโดเรมี (Ojamajo Doremi) เป็นผลงานการ์ตูนอนิเมชันของบริษัทโตเอ อนิเมชัน ของญี่ปุ่น แพร่ภาพครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2542 สัปดาห์ละ 1 ตอน เนื้อเรื่องหลักจบลงในช่วงต้นปี 2546 แต่ยังมีภาคพิเศษและผลงานอื่นๆ ออกมาบ้าง ล่าสุดคือไลต์โนเวล (light novel) ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี 2554 และยังไม่จบ



          เนื้อเรื่องหลักกล่าวถึงพัฒนาการของฮารุคาเซ่ โดเรมี (Harukaze Doremi) เด็กหญิงที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่สาม โรงเรียนประถมศึกษามิโซระ (Misora) และพัฒนาการของเพื่อนๆ ในชั้นอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อการทดสอบวัดระดับแม่มดฝึกหัด โดยเป้าหมายคือการได้เป็นแม่มดอย่างเป็นทางการ

          เนื้อเรื่องหลักแบ่งเป็น 4 ภาค ภาคละประมาณ 50 ตอน ซึ่งผู้แต่งพยายามเทียบเคียงกับเวลาจริง ดังนั้น แต่ละภาคจึงเท่ากับช่วงเวลาประมาณ 1 ปี


          ภาคแรกเริ่มต้นเมื่อโดเรมีเปิดเผยตัวตนของแม่มดคนหนึ่งได้โดยบังเอิญ แม่มดคนนั้นจึงกลายเป็นกบแม่มด (Majogaeru) ด้วยคำสาปของอดีตองค์ราชินีโลกแม่มด การจะกลับเป็นมนุษย์มีเพียงวิธีเดียว คือให้โดเรมีเป็นแม่มดฝึกหัด แล้วสอบเลื่อนระดับตั้งแต่ระดับ 9 จนถึงระดับ 1 ซึ่งจะได้เป็นแม่มดเต็มตัว จากนั้นจึงจะใช้เวทมนตร์ทำให้กบแม่มดกลับเป็นมนุษย์ได้

          จากนั้นไม่นาน ความเลินเล่อของโดเรมีทำให้เพื่อนของเธอ 2 คนคือ เซโนโอะ ไอโกะ (Senoo Aiko) และฟุจิวาระ ฮาซึกิ (Fujiwara Hazuki) ทราบว่าโดเรมีใช้เวทมนตร์ได้ กบแม่มดคนนั้นจึงยอมให้ทั้งสองเป็นแม่มดฝึกหัดด้วย

          ครึ่งแรกของภาคแรกนี้จะเน้นการสอบวัดระดับ กับการใช้เวทมนตร์ช่วยเหลือเพื่อนในชั้นและคนที่กำลังลำบาก ส่วนครึ่งหลังจะมีประเด็นเพิ่มเติมคือ การกู้คืนวัตถุอัปมงคล (Bad Card) ที่ถูกขโมยจากโลกแม่มดและกระจัดกระจายอยู่ในโลกมนุษย์เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นในช่วงนี้ ฮารุคาเซ่ ป๊อบ (Harukaze Poppu) น้องสาวของโดเรมีก็กลายเป็นแม่มดฝึกหัดด้วย

          ในช่วงปลาย มีตัวละครใหม่ที่เป็นแม่มดฝึกหัด ชื่อว่า เซงาว่า อมปุ (Segawa Onpu) ซึ่งเป็นผู้เปิดเผยตัวตนของแม่มดอีกคนหนึ่ง ในช่วงท้ายสุดของภาค อมปุใช้เวทมนตร์ต้องห้ามเพื่อช่วยพวกโดเรมีจากการถูกเปิดเผยตัวตน จึงถูกลงโทษจนหมดสติ พวกโดเรมีจึงยอมสละฐานะแม่มดเต็มตัวที่เพิ่งได้รับเพื่อทำให้อมปุฟื้น


          ในภาคสอง ราชินีโลกแม่มดองค์ปัจจุบันทรงเห็นใจพวกโดเรมี และทรงทำให้พวกโดเรมีกลายเป็นแม่ผู้เลี้ยงดูทารกที่เกิดจากดอกกุหลาบราชินีแม่มด (Witch Queen Rose) อีกทั้งยังพระราชทานความเป็นแม่มดฝึกหัดคืน

          ประเด็นหลักของภาคนี้ยังคงคล้ายภาคแรก แต่เปลี่ยนจากการสอบมาเป็นการตรวจสุขภาพทารกแทน อนึ่ง พวกโดเรมีตั้งชื่อให้ทารกคนนี้ว่า ฮานะ (Hana)

          ในครึ่งหลัง นอกจากการเลี้ยงดูแล้ว พวกโดเรมียังต้องปกป้องฮานะจากการลักพาตัวของเหล่าพ่อมด อย่างไรก็ดี ต่อมาพวกโดเรมีพบว่าพวกเขาตีความพระบรมราชโองการขององค์ราชาโลกพ่อมดผิดพลาด (แท้ที่จริงแล้วทรงรับสั่งให้เชิญฮานะมายังโลกพ่อมดอย่างสุภาพ) ปัญหาจึงคลี่คลาย

          ต่อมาไม่นาน อดีตองค์ราชินีซึ่งกลัวพลังเวทมนตร์มหาศาลของฮานะ ได้สาปฮานะจนอาการเข้าขั้นวิกฤต พวกโดเรมียอมถูกคำสาปให้หลับไปพันปีเพื่อช่วยฮานะ แต่หลังจากนั้น เมื่อฮานะเรียกพวกโดเรมีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดมา พวกโดเรมีก็ตื่นขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ อย่างไรก็ตาม ลูกแก้วประจำตัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นแม่มดของพวกโดเรมีแตกไประหว่างความพยายามช่วยฮานะ สถานะแม่มดฝึกหัดของพวกโดเรมีจึงหมดลงอีกครั้ง


          ในภาคสาม มีแม่มดฝึกหัดคนใหม่ชื่อ อาซึกะ โมโมโกะ (Asuka Momoko) ซึ่งย้ายออกจากญี่ปุ่นไปอยู่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยังเล็กเพราะงานของคุณพ่อ หลังจากต้องกลายเป็นแม่มดฝึกหัดแล้ว โมโมโกะก็พยายามสอบจนผ่านระดับ 1 เพื่อคืนร่างเดิมให้กบแม่มดที่เธอรักและเคารพ แต่กบแม่มดคนนั้นกลับเสียชีวิตในวันที่เธอสอบผ่าน โมโมโกะจึงพยายามใช้เวทมนตร์ต้องห้ามเพื่อชุบชีวิต แต่ล้มเหลวและทำให้ลูกแก้วประจำตัวแตก

          องค์ราชินีที่ยังทรงพยายามช่วยเหลือพวกโดเรมี เมื่อทรงทราบเรื่องของโมโมโกะแล้ว จึงทรงเรียกประชุมสภาแม่มด ทรงเสนอให้พวกโดเรมีกับโมโมโกะกลับมาเป็นแม่มดฝึกหัด แล้วทดสอบทำขนมหวานกับเหล่าสมาชิกสภาแม่มดที่ยังไม่เห็นด้วยกับการให้พวกโดเรมีกลับมาเป็นแม่มดเต็มตัว เพื่อให้พวกเธอยอมรับพวกโดเรมี

          ด้วยเหตุนี้ ประเด็นหลักในภาคนี้อย่างหนึ่งก็คือการทดสอบดังกล่าว

          ในครึ่งหลัง อดีตองค์ราชินีกลับมาสาปฮานะอีกครั้งด้วยคำสาปที่ทำให้ฮานะเกลียดผัก พวกโดเรมีจึงต้องพยายามทำให้ฮานะกลับมากินผักได้ทีละเล็กทีละน้อย

          ในช่วงท้ายของภาค พวกโดเรมีเริ่มช่วยเหลืออดีตองค์ราชินีที่จมอยู่ในความเศร้าเพราะความเข้าใจผิดกับครอบครัวที่โลกมนุษย์ แต่ขณะนั้นพวกโดเรมียังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว


          ในภาคสี่ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของเนื้อเรื่องหลัก ฮานะอยากเจอพวกโดเรมีที่อยู่ที่โรงเรียน จึงใช้เวทมนตร์เปลี่ยนร่างกายของตนให้ดูมีอายุเท่ากับพวกโดเรมี

          ประเด็นสำคัญใหม่ของภาคนี้มี 2 เรื่อง คือการเรียนรู้โลกมนุษย์ของฮานะ ผู้ที่จะต้องขึ้นครองราชย์เป็นราชินีองค์ต่อไป และเรื่องราวของอดีตองค์ราชินีซึ่งค่อยๆ เปิดเผยขึ้นระหว่างที่พวกโดเรมียังคงพยายามช่วยเหลือเธอให้สภาพจิตใจกลับมาเป็นปกติ

          ในที่สุดอดีตองค์ราชินีก็ได้สติ (หลังจากได้ทราบถึงความเข้าใจผิดดังที่กล่าวแล้วด้านบน) จากนั้น เธอและราชินีองค์ปัจจุบัน รวมทั้งเหล่าแม่มดคนอื่นๆ ได้ร่วมกันแก้คำสาปกบแม่มด

          พวกโดเรมีได้รับโอกาสให้เป็นแม่มดเต็มตัวอีกครั้งด้วยผลงานนี้ แต่หลังจากการคิดและปรึกษากันเป็นเวลาหนึ่งเดือน พวกโดเรมีทุกคนยกเว้นฮานะก็ตัดสินใจกลับเป็นมนุษย์ปกติ เพราะต้องการดำเนินชีวิตด้วยพลังของตนเอง



          ตัวละครหลักมีทั้งหมด 7 คน คือโดเรมี ไอโกะ ฮาซึกิ ป๊อบ อมปุ โมโมโกะ และฮานะ


          โดเรมีเกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2533 ส่วนป๊อบเกิดเมื่อ 9 กันยายน 2537 คุณพ่อของทั้งคู่เป็นนักเขียนเรื่องเกี่ยวกับการตกปลา ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน (ในอดีต คุณแม่ฝันอยากเป็นนักเปียโนอาชีพ แต่เกิดอุบัติเหตุทำให้บริเวณมือได้รับบาดเจ็บ จึงต้องล้มเลิกไป ในช่วงเวลาที่คุณแม่เสียใจอยู่นั้น ผู้ที่คอยปลอบโยนอยู่ข้างๆ คือคุณพ่อ)

          โดเรมีเป็นเด็กที่สดใสร่าเริง เป็นมิตรกับทุกคน ถึงแม้ผลการเรียนไม่ดีนัก และซุ่มซ่ามตามประสาเด็ก แต่ก็เป็นที่รักของเพื่อนๆ

          แรงบันดาลใจที่ทำให้โดเรมีอยากเป็นแม่มดคือ อยากใช้เวทมนตร์ช่วยสารภาพรักกับเด็กผู้ชายที่ชอบ

          ส่วนป๊อบดูโตกว่าอายุ พึ่งพาได้ และได้รับความนิยมจากเพื่อนที่โรงเรียน ในช่วงแรกไม่ค่อยเคารพพี่สาว แต่เมื่ออายุมากขึ้นก็ค่อยๆ ปรับปรุงตัว

          ป๊อบได้เห็นการใช้เวทมนตร์ของพวกโดเรมีโดยบังเอิญ จึงได้รับอนุญาตให้เป็นแม่มดฝึกหัด


          ไอโกะเกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2533 คุณพ่อเป็นพนักงานขับรถแท็กซี่ คุณแม่เป็นพนักงานดูแลผู้สูงอายุ

          คุณพ่อกับคุณแม่แต่งงานกันโดยที่คุณยายของไอโกะไม่เห็นด้วย ทำให้คุณยายตรอมใจจนเสียชีวิต คุณแม่รู้สึกผิดมาก จึงตั้งใจทำงานดูแลผู้สูงอายุเพื่อชดเชยจนเหนื่อยล้าและแท้งน้องของไอโกะ คุณพ่อต้องการให้คุณแม่เลิกทำงานนี้แต่คุณแม่ไม่ยอม จึงกลายเป็นสาเหตุของการทะเลาะจนแยกทางกัน

          แรงบันดาลใจในการเป็นแม่มดฝึกหัดของไอโกะคือ อยากทำให้คุณพ่อกับคุณแม่ที่เลิกกันไป (ในขณะนั้น โดยไอโกะอยู่กับคุณพ่อ) กลับมาคืนดีกัน ซึ่งเธอทำสำเร็จในภาคสุดท้าย

          ไอโกะเป็นคนห้าวหาญ กล้าพูดกล้าทำ และเป็นผู้สร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนๆ


          ฮาซึกิเกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2534 คุณพ่อเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ คุณแม่เป็น Interior Coordinator

          คุณแม่เคยเกือบแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ดี แต่เพราะคำแนะนำของคุณยายของฮาซึกิ จึงรอดพ้นเหตุการณ์นั้นมาได้ ด้วยเหตุนี้ คุณแม่จึงพยายามเข้าแทรกแซงชีวิตของฮาซึกิมากจนเกินพอดี

          ฮาซึกิต้องการความกล้าที่จะบอกความคิดและความรู้สึกของตนแก่คุณแม่ จึงอยากเป็นแม่มดฝึกหัด

          ฮาซึกิเป็นเด็กหญิงผู้เรียบร้อย อ่อนโยน ผลการเรียนดี


          อมปุเกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2534 เป็นดาราเด็ก คุณพ่อเป็นพนักงานขับรถไฟ ส่วนคุณแม่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของอมปุ

          คุณแม่ของอมปุเคยเป็นดาราเด็กที่ต้องออกจากวงการบันเทิง จึงอยากให้อมปุเป็นดาราเต็มตัวเพื่อทดแทน ดังนั้นแรงบันดาลใจในการเป็นแม่มดฝึกหัดของอมปุจึงเป็นการใช้เวทมนตร์เพื่อทำให้ตนมีชื่อเสียง เช่น การควบคุมจิตใจของคณะกรรมการคัดเลือกตัวแสดงละครเวที อย่างไรก็ตาม เวทมนตร์ดังกล่าวเป็นเวทมนตร์ต้องห้ามและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อมปุถูกลงโทษในช่วงท้ายภาคแรกดังที่กล่าวแล้ว ในภายหลังเธอสำนึกได้และเลิกใช้เวทมนตร์ต้องห้ามไป

          อมปุขยันหมั่นเพียร มีไหวพริบ แต่เจ้าเล่ห์เล็กน้อย ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง


          โมโมโกะเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2533 คุณพ่อเป็นสถาปนิก คุณแม่เป็นช่างภาพ

          ประวัติโดยสังเขปของโมโมโกะได้กล่าวถึงไว้แล้วในส่วนเนื้อเรื่องหลัก

          โมโมโกะเป็นคนรักครอบครัว รักเพื่อน เข้าใจผู้อื่น และมีอารมณ์ขัน


          ฮานะเกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2543 ประวัติโดยสังเขปกล่าวถึงแล้วด้านบนเช่นกัน

          ฮานะเป็นเด็กที่มีพลังเปี่ยมล้น ใสบริสุทธิ์ และซุกซนตามอายุ



          จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา (ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น) จะเห็นได้ว่า ผลงานชิ้นนี้ได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างงดงาม สมควรรักษาไว้เป็นมรดกชิ้นหนึ่งของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นสืบไป

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่