เป็นเนื้องอกมดลูกประจำเดือนหมดแล้วแต่พอกลับมาออกกำลังกายประจำเดือนก็มาอีก

ปัจจุบันอายุ52ปี เป็นเนื้องอกมดลูกชนิดไม่ไช่เนื้อร้าย ประจำเดือนหมดหายไป3-4เดือน คิดว่าหมดแล้ว แต่พอกลับมาออกกำลังกาย มันก็กลับมาอีก เป็นอย่างนี้2ปีกว่าแล้ว ขอเล่าอย่างละเอียดนะคะ

เมื่อปี2004ตอนอยู่อเมริกา ก่อนลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัว ได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปี แพทย์แนะนำให้ตรวจละเอียดทุกชนิดเพราะประกันจ่าย(บริษัทมีประกันให้) หมอตรวจพบว่า ที่มดลูกมีจุดดำๆ แต่ไม่ทราบว่าเป็นอะไร ตอนนั้นเราคิดเองว่า อาจเกิดจากมดลูกช้ำเพราะตอนอายุ20ต้นๆเคยทำแท้ง

ปี2005 ขณะนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ กำลังคุยอยู่กับลูกทางสไกพ์ ก็เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ตัวบิดงอจนต้องลงไปนอนกับพื้น แต่ช่วงนั้นเข้าใจไปเองว่า เป็นอาการปวดประจำเดือนของคนวัยทองจึงไม่ได้ไปพบแพทย์ เนื่องจากไม่มีประกันแล้ว อีกอย่างการไปพบแพทย์ในอเมริกา รัฐอลาสก้าแต่ละครั้งคิดเป็นเงินไทยหลายหมื่นบาท เฉพาะค่านัดก็เกือบพันบาทแล้วยังไม่ได้คิดค่าตรวจและค่ายานะ เพราะหมอที่โน่นจะทำงานแค่วันละ8ชั่วโมง คนไข้1คนใช้เวลาตรวจนานถึง30นาที แล้วคิดดูว่าค่าแรงของหมอชั่วโมงละเท่าไร แล้วเขาชาร์จค่าสถานที่ค่าทำความสะอาดค่าโน่นนี่นั่นกับเราอีกเท่าไร เลยคิดว่า กลับมาเที่ยวเมืองไทยเมื่อไรค่อยไปตรวจ

ต่อมาปี2007(อายุ47ปี)น้ำหนักจาก70พุ่งขึ้นไปที่85กิโล จึงเริ่มควบคุมอาหารน้ำหนักลดลงมาอยู่ที่80ต้นๆ จึงเพิ่มการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสลับเวทเทรนนิ่ง(ปี2002เคยมีอาการปวดหัวเข่าหมอแนะนำให้ออกกำลังกายแต่ไม่ได้ทำ) หลังออกกำลังกายได้ประมาณ5-6เดือน น้ำหนักลดเหลือ70กิโล อาการปวดเข่าก็ทุเลาลงจนเกือบปรกติ ติดใจเลยออกกำลังกายต่อเนื่อง

จนถึงปี2010 ก็เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงอีกครั้ง เป็นอุปสรรคต่อการออกกำลังกายอย่างมาก สุดท้าย ยอมแพ้ ต้องพักการออกกำลังกายยาว ประจำเดือนก็เริ่มเป็นๆหายๆ มาบ้างไม่มาบ้าง

กลางปี2011 ย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ก่อนประจำเดือนมาท้องจะบวม พอประจำเดือนไปท้องที่บวมก็ไม่ยอมยุบ จึงไปพบแพทย์ และเล่าให้หมอฟังอย่างละเอียด หมอจึงตรวจให้และบอกว่า "เจออย่างที่คิดจริงๆ เนื้องอกมดลูก ก้อนใหญ่ด้วย" และนัดตรวจละเอียดอีกครั้งว่าเป็นเนื้องอกประเภทไหนด้วยการอัลตร้าซาวด์ ผลออกมาคือเป็นเนื้องอกธรรมดา กว้าง9ซม. ยาว7.5ซม.หมอบอกว่าเราโชคดี ไม่ต้องผ่าตัด เพราะไม่ไช่เนื้อร้าย มันจะฝ่อและเหี่ยวลงไปเองหลังหมดประจำเดือน เพราะมันเจริญเติบโตด้วยฮอร์โมน...หลังจากหมอตรวจ เดือนถัดมาอาการท้องบวมก็หาย ท้องแห้งแบนราบ ประจำเดือนก็หายไปด้วย

ต้นปี2012 น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นไปเกือบ78กิโล เข่าเริ่มไม่มีแรง เส้นหด ขาหนักและตึง จะลุกจะนั่งก็ลำบาก นั่งส้วมก็โอย ก้มตัวลงนั่งพื้นไม่ได้เลย จึงกลับมาออกกำลังกายอีก ประจำเดือนก็กลับมาอีก พอหยุด3-4เดือนประจำเดือนก็ไม่มีมา เป็นอยู่อย่างนี้ปีเศษ

ล่าสุด เมื่อกลางเดือนมกรา2013 แน่ใจว่าประจำเดือนหายแน่นอน จึงกลับมาออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานเบาๆ ปั่นวันละ20กิโล ทางเรีบบ้างเนินเขาบ้าง ออกได้2สัปดาห์ อาการปวดเข่าก็ดีขึ้นทันตาเห็นแต่จู่ๆอาการปวดท้องก็กลับมาอีก ท้องบวมมาก ปวดหลัง 3วันถัดมาประจำเดือนก็โผล่ มามากเหมือนที่เคยเป็น วันนี้เป็นวันที่3แล้วที่มามาก ท้องยังบวมอยู่เหมือนกับตอนท้อง3-4เดือน ถ้านอนคว่ำจะรู้สึกถึงก้อนเนื้อได้อย่างชัดเจน ก้อนใหญ่เท่ากำปั้น

จึงอยากปรึกษาคุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่มีประสบการณ์ว่า ถ้าเราจะออกกำลังกายต่อไป มันจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของก้อนเนื้องอกนี้หรือไม่ กลัวมันจะแตกตัวไปเติบโตที่อื่น...


แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ดิฉันเคยเป็นเนื้องอกและผ่าไปแล้วเมื่อเกือบสิบปีก่อนค่ะ
ตอนนี้อายุเกือบห้าสิบ กลับมาเป็นใหม่อีกครั้ง
แต่หมอบอกว่าถ้าไม่ปวดมากยังไม่เอาออกก็ได้แต่ควรตรวจทุกหกเดือน
เผื่อเซลล์กลายพันธุ์เป็นเนื้อร้าย

ดิฉันเข้าใจว่าเป็นเพราะการออกกำลังกายมีผลกับการหลั่งฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง
ผนวกกับฮอร์โมนจากรังไข่ยังไม่หมดเสียทีเดียว
เมื่อครบรอบเดือนมีคำสั่งให้ผนังมดลูกหนาเพื่อรอรับการตั้งครรภ์
ก้อนของเราก็โตขี้นด้วย  หากไม่ใช่เซลล์มะเร็งก็คงไม่แพร่กระมังคะ

ของคุณพี่มีผลกับความสุขสบายกาย  ไปหาหมอให้จบๆ เรื่องไปดีที่สุดค่ะ
ผู้หญิงวัยนี้มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง  ดิฉันเองมีปัญหาสุขภาพคล้ายคุณพี่หลายเรื่อง
รวมทั้งเรื่องเข่า ที่ทำให้ต้องหันมาปั่นจักรยาน
ปีนี้เพิ่งตรวจเจอเรื่องความดันสูงโดยบังเอิญ
ตกใจอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะเป็นคนออกกำลังกายสม่ำเสมอมาตลอด
ต้องทำใจให้ยอมรับการตรวจรักษาค่ะ ยิ่งเร็วยิ่งดี ยืดเยื้อไปอาจเป็นเรื่องใหญ่

ไปตรวจนะคะ และขอให้โชคดีหายไวๆ กลับมาปั่นจักรยานได้จนแก่ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่