ภาพยนตร์เรื่อง : The Last Stand – นายอำเภอคนพันธุ์เหล็ก
แนว : action – Crime
เรตภาพยนต์ : น 18+
ผู้กำกับ : คิม จี วุน (A Tale of Two Sisters - ตู้ซ่อนผี)
บทภาพยนตร์ : จอร์จ โนลฟี่ (เขียนบท Ocean's Twelve เขียนบทและกำกับ The Adjustment Bureau)
นักแสดงนำ : อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ปล. เรื่องนี้พากย์ไทยโดยพันธมิตร รับประกันความฮา พร้อมมุกสดใหม่ทันสมัยเสียดสีสังคม
ปล. 2 หนังประมาณครึ่งเรื่องตัดสลับไปมาระหว่างเรื่องในเมืองกับในชนบทจนผมเองก็ลำดับเหตุการณ์ไม่ถูกสักเท่าไร จะเล่าเท่าที่พอนึกออกนะครับ
เริ่มเรื่องที่คืนหนึ่ง ขณะตำรวจทางหลวงนายหนึ่งซุ่มจอดอยู่ริมถนนหลวงในชนบทอันมืดมิด กำลังทานโดนัทเคล้าเพลงทางวิทยุ โดยไม่ได้มองกระจกหลัก มีรถคันหนึ่งขับมา พอใกล้ๆ ก็ปิดไฟเพื่อไม่ให้ตำรวจรู้ตัว แล้วก็มีเพียงเสียงลมผ่านไป ตำรวจนายนั้นได้แต่งงๆ พร้อมดูมาตรวัดตรวจจับความเร็วว่าอยู่ที่ 195 ไมล์ต่อชั่วโมง (ไม่ก็ 175 นี่ล่ะ) แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ แจ้งศูนย์แค่ว่าสงสัยมีเครื่องบินเล็กบินผ่าน
เช้าวันต่อมาที่หมู่บ้านชานเมืองชานประเทศสหรัฐอเมริกาติดเขตแดนแม็กซิโกเพียงแค่ช่องแคบเล็กๆ ที่ชื่อโซเมอตัล ผู้คนในหมู่บ้านกำลังจะไปดูและเชียร์ทีมอเมริกันฟุตบอลของหมู่บ้านตัวเองในเมือง(ไม่แน่ใจว่าวอชิงตันดีซีหรือเปล่า) แต่นายอำเภอไม่อยากไปเพราะบอกว่าไม่ชอบคนเยอะๆ แต่จริงๆ แล้วอยากอยู่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเมืองมากกว่า หลังชาวเมืองส่วนใหญ่ไปจากเมืองกันหมด ก็เหลือคนในหมู่บ้านเพียงไม่กี่คน นายอำเภอจึงเข้าไปในร้านขายอาหารประจำเมือง กล่าวทักทายทุกคนและทุกคนก็ทักทายนายอำเภอ จนนายอำเภอสังเกตเห็นคนต่างถิ่นสองคนคุยเรื่องไม่ปรกติ จึงแอบจับตาดู ตามไปจดทะเบียนรถคอนเทนเนอร์ที่สองคนนี้ขับมา
ตัดมาที่ผู้ช่วยนายอำเภอสองคน หนึ่งคือหนุ่มวัยละอ่อน กับวัยกลางคนเหมือนชาวแม็กซิโก กำลังอยู่กับตัวละครที่เห็นว่ามาจากหนังเรื่อง Jack Ass (ผมไม่สันทัดหนังตลกฝรั่งเสียด้วยสิ ต่อไปจะเรียกเขาว่าเจ้าของคลังปืนนะครับ) กำลังยิงปืนพกขนาดใหญ่อย่างสนุกสนาน ก่อนที่นายอำเภอจะเข้ามาขวางความสนุก รู้ว่าเจ้าของคลังปืนมีใบอนุญาติครอบครองปืนและเปิดพิพิธภัณฑ์ปืนประจำหมู่บ้านอีกด้วย แล้วนายอำเภอก็ให้ผู้ช่วยไปตรวจหาทะเบียนรถว่าเป็นใครมาจากไหน
ตัดมาที่ปลายทางรถคอนเทนเนอร์นี้ เผยให้เห็นว่ามีกลุ่มคนหลายคนอยู่บริเวณนั้น มีตัวหัวหน้าหน่วยย่อยด้วย แล้วก็โชว์พาวด้วยการฆ่าคุณลุงแถวนั้นไปหนึ่งคน เพราะขัดขวางการทำงานของพวกตน
ตัดมาที่ตัวเมือง กำลังจะมีการส่งตัวนักโทษไปประหารชีวิตเป็นการลับ นักโทษเป็นลูกชายเจ้าพ่อมาเฟียแม็กซิโกที่ค้ายาค้าอาวุธอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เป็นภารกิจส่งตัวอย่างลับๆ ที่มีคนในรู้กันไม่กี่คน และแจ้งเจ้าหน้าที่อื่นๆ ล่วงหน้าเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ในขณะที่รถกำลังติดไฟแดงนั้นเอง ก็เกิดการชิงตัวประกันขึ้น โดยการใช้เครนแม่เหล็กที่ใช้ดูดรถในลานกำจัดรถเก่ามาดึงรถหุ้มเกราะชิงนักโทษไปสู่ที่ดาดฟ้าตึก แล้วลวงให้หลงด้วยการโรยตัวด้วยรอกจากตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่ง มีพนักงานเอาชุดมาให้นักโทษเปลี่ยน และเตรียมรถที่ใช้ในการหลบหนี้พร้อม แถมจับ FBI สาวไปเป็นตัวประกันได้อีกหนึ่งคน โดยทาง FBI ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วรู้ว่ารถที่ใช้เป็นรถต้นแบบที่เพิ่งถูกขโมยไปเมื่อสองวันก่อน ความเร็วน่าจะราวๆ 1,200 แรงม้าได้ เรียกได้ว่าจะรถหรือเฮลิคอปเตอร์ก็ตามไม่ทันแน่ๆ
ตัดกลับมาที่ชนบท เรื่องเผยให้เห็นว่ายังมีผู้ช่วยนายอำเภอสาวสวยอยู่อีกคน กำลังคุยอยู่กับแฟนเก่าที่เป็นคนเก่งแต่ทำตัวเหลวไหล แถมโดนนายอำเภอสั่งขังช่วงสุดสัปดาห์ด้วย และทำให้รู้ว่านายหนุ่มเกเร ผู้ช่วยสาว และผู้ช่วยละอ่อนเป็นเพื่อนกัน และผู้ช่วยละอ่อนอยากขอร้องนายอำเภอให้ส่งตัวเองไป LA เพราะอยากก้าวหน้าและพบความตื่นเต้นในชีวิต
ระหว่างนั้นก็มีการชิงไหวชิงพริบระหว่างตัวร้ายและ FBI ในการหลบหนีและสกัดจับ ซึ่งตัวร้ายก็รอดไปได้ทุกที โดยหัวหน้า FBI ก็คาดการว่าตัวร้ายน่าจะหนีไปไหน แต่ก็ไม่คิดว่าจะหนีไปทางเมืองของนายอำเภอ แต่ก็โทรแจ้งไว้เพื่อไม่ให้นายอำเภอเข้ามายุ่ง เพราะไม่เชื่อในฝีมือ
ตัดมาที่นายอำเภอตอนตี 4 ลูกสาวของร้านอาหารประจำอำเภอขอร้องให้นายอำเภอไปดูลุงส่งนมประจำร้านให้หน่อย เพราะปกติลุงแกไม่เคยมาสาย นายอำเภอจึงส่งวัยละอ่อนกับผู้ช่วยสาวไป จึงรู้ว่าลุงถูกฆาตกรรมแล้ว
นายอำเภอมาดูที่เกิดเหตุแล้วรู้ว่าถูกจัดฉากฆาตกรรมให้ดูเหมือนว่าเป็นการชิงทรัพย์ ในขณะที่วัยละอ่อนกับผู้ช่วยสาวตามรอยรถไป จึงไปชนกับแก๊งค์เข้าอย่างจัง รู้แผนว่าพวกนี้จะสร้างสะพานข้ามแดนขึ้นมาเพื่อให้ตัวร้ายซิ่งรถผ่านเข้าแม็กซิโก จึงวิทยุขอความช่วยเหลือจากนายอำเภอ หลังจากยิงกันอยู่พักหนึ่ง นายอำเภอมาช่วยทั้งสองคนไว้ได้ แต่วัยละอ่อนโดนยิงจุดสำคัญ เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล สร้างความเสียใจแก่ทุกคนในที่ทำการอำเภอ
นายอำเภอโทรไปถามหัวหน้า FBI ว่าคนร้ายเป็นใคร พอรู้ชื่อว่าเป็นพ่อค้ายารายใหญ่และตัวเองรู้จัก จึงด่าใส่หัวหน้า FBI ไป พร้อมบอกว่ามันจะหนีมาทางนี้แน่ๆ หัวหน้า FBI จึงเริ่มสงสัยว่านายอำเภอเป็นใคร ทำไมดูจะรู้มากกว่านายอำเภอปรกติ จึงไปค้นประวัติดูแล้วรู้ว่า จริงๆ นายอำเภอเคยเป็นหน่วยพิเศษปราบปรามยาเสพติดมาก่อน แต่ในภารกิจทลายแก๊งค์ค้ายารายใหญ่ครั้งหนึ่ง ภารกิจสำเร็จ แต่คนในหน่วยตายหมด เขาจึงรู้สึกไม่อยากเห็นการสูญเสียอีก จึงลาออกมาเป็นนายอำเภออยู่บ้านนอกนั่นเอง
ตัวร้ายซิ่งรถหรูระเบิดระเบ้ออยู่กับตัวประกันสาว FBI สองต่อสอง ทลายการสกัดของ FBI ด้วยสารพัดเทคนิค ในขณะที่นายอำเภอแต่งตั้งพ่อหนุ่มเกเรแฟนเก่าผู้ช่วยสาวและเจ้าของพิพิธภัณฑ์จอมเพี้ยนให้เป็นผู้ช่วย ขนอาวุธเต็มอัตราศึกไว้รับการมาของตัวร้าย ณ กลางเมืองของตน เพื่อไม่ให้ผ่านไปได้
แล้วรุ่งเช้าแห่งการระเบิดเขาเผาตึกก็เริ่มขึ้น เริ่มจากแก๊งค์ที่ยิงวัยละอ่อนตายบุกเมืองมาก่อน เพื่อหวังเปิดทางให้เจ้านาย หลังจากตูมตามกันจนตัวร้ายตายราบคาบ ตัวหัวหน้าจึงซิ่งรถผ่านมาแล้วผ่านไป นายอำเภอจึงต้องเอารถเทพที่จอดอยู่ของคนอื่นตั้งแต่ต้นเรื่องไล่ตามไป (เชฟโรเล็ตด้วยนะเออ เหอๆ)
ฉากบี้รถสนุกสนานจนไม่น่าเชื่อว่าจะคิดได้ คือ เอารถสปอร์ตสองคันไปไล่ล่ากันในไร่ข้าวโพด มีเล่นซ่อนแอบกันด้วย ประทับใจในระดับหนึ่งเลย คิดได้ยังไงเนี่ย (แต่แอบเสียดายรถ เป็นรอยหมด 555)
หลังจากรถพัง(จนได้ ตามสูตร) ตัวร้ายก็วิ่งหนีไปพบกับนายอำเภอบนสะพานสร้างใหม่นั่นล่ะ แล้วก็ดวลกันแบบไม่ใช้ปืนตามสไตล์หนังบู๊ โดยก่อนที่จะสู้กันตัวร้ายก็เสนอเงินราวๆ 10 ล้านกับนายอำเภอเพื่อขอให้ปล่อยตัวเองไป แต่ถูกปฏิเสธ ต่อมาเสนอราว 20 ล้าน ก็ยังถูกปฏิเสธ ทั้งคู่เลยฟัดกันตัวต่อตัวอย่างเมามัน แล้วจบด้วยชัยชนะของนายอำเภอแบบจับเป็น (ตามสูตรเป๊ะ แต่ลูกน้องตัวร้ายน่ะตายให้หมด) ก่อนถูกจับตัวร้ายยังเสนอเงินราว 35 ล้าน แต่นายอำเภอก็จับคนร้ายใส่กุญแจมือเรียบร้อย ตัวร้ายจึงได้แต่มองว่าอีกเพียงแค่ไม่กี่ก้าวตัวเองก็จะรอดไปได้อยู่แล้วแท้ๆ ด้วยเหตุนี้ นายอำเภอจึงนำตัวร้ายมาส่งให้หัวหน้า FBI ได้เป็นผลสำเร็จ แถมหัวหน้า FBI ยังได้ของแถมเป็น FBI สาวตัวประกัน ซึ่งจริงๆ แล้วเธอคือสายโจรนั่นเอง เข้าคุกไปตามระเบียบ ก่อนที่จะเข้ามาขอบคุณและกล่าวความประทับใจเล็กๆ ต่อนายอำเภอ จบเรื่องด้วยการแต่งตั้งพ่อหนุ่มเกเรเป็นผู้ช่วยเต็มตัวและคืนดีกับผู้ช่วยสาวอีกครั้ง
จบ
โดยส่วนตัวผมแล้ว แม้หนังเรื่องนี้จะถูกจัดอยู่ในเรต 18+ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้มีฉากรุนแรงมากมายนัก ไม่ได้ถึงขนาดเลือดท่วมจอ แต่กระสุนน่ะท่วมถนนหนทางผนังประตูและยอดตึกกันเลยทีเดียว ยิงกันแบบไม่ต้องประหยัดกระสุน ไม่ต้องกลัวหมดแม็ก(แต่มีฉากเติมกระสุนนะครับ) ไม่ต้องนับฉากระเบิดระเบ้ออีกเพียบ รถถูก RPG ไปหลายคัน ยังไม่นับที่เอามาบังกระสุนอีกต่างหาก ฉากขับรถไล่เบียดกันอย่างเมามัน แถมมีแม้กระทั่งฉากบังคับสุดคลาสสิคสไตล์หนังบู๊ฝรั่งคือ การดวลกันตัวต่อตัวของพระเอกกับตัวร้ายที่ใช้ระยะเวลาพอสมควร(เดี๋ยวแฟนๆ หนังแนวนี้จะบ่นว่าตัวร้ายแพ้ง่ายไป)
ด้านการเล่าเรื่อง หนังทำได้กระชับและลุ้นระทึกดี เริ่มต้นเรื่องจะมีการเล่าสลับฉากระหว่างเมืองใหญ่ที่ตัวร้ายกำลังหลบหนีจากการตามล่าของ FBI ด้วยวิธีการต่างๆ ตัดสลับกับการสืบสวนของคณะนายอำเภอต่อความไม่ชอบมาพากลภายในหมู่บ้านอันแสนสงบสุขของตน โดยมีการขึ้นเวลาให้ดูทุกครั้งที่มีการตัดสลับฉาก เพื่อให้ได้รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันใช้เวลาไม่นาน ไล่เป็นไทม์ไลน์กันเลยทีเดียว(ในเมืองออกแนวซิ่งระห่ำ นอกเมืองออกแนวสืบสวน) ซึ่งทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อ
ทั้งหมดส่งผลให้หนังเรื่องนี้ดูเป็นหนังสูตรสำเร็จของหนังแอ็คชั่นร่วมสมัย(จะว่าเป็นหนังสมัยก่อนก็เกินไป) คือมันเป็นหนังบู๊ฝรั่งคลาสสิคที่บูชาครูอยู่ไม่น้อย แต่ก็สอดแทรกมุกใหม่ๆ สำหรับฉากแอ็คชั่นอยู่พอสมควร
สำหรับผม ผมให้คะแนน 7.5 / 10 ครับ หรืออยู่ในระดับที่ดูได้เพลินๆ แต่ก็อาจโดนใจใครหลายๆ คนที่ชอบหนังบู๊ล้างผลาญครับ
แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นว่าอย่างไรกันบ้างครับ?
ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านจนมาถึงบรรทัดนี้นะครับผม ไว้พบกันใหม่คราวหน้าครับ
^ ^
[CR] ดูแล้วมาเล่าให้ฟัง ตอน “The Last Stand : แอ็คชั่นรุ่นเก่า แต่ยังเก๋าอยู่เสมอ” (สปอยล์ 100 %)
แนว : action – Crime
เรตภาพยนต์ : น 18+
ผู้กำกับ : คิม จี วุน (A Tale of Two Sisters - ตู้ซ่อนผี)
บทภาพยนตร์ : จอร์จ โนลฟี่ (เขียนบท Ocean's Twelve เขียนบทและกำกับ The Adjustment Bureau)
นักแสดงนำ : อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยส่วนตัวผมแล้ว แม้หนังเรื่องนี้จะถูกจัดอยู่ในเรต 18+ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้มีฉากรุนแรงมากมายนัก ไม่ได้ถึงขนาดเลือดท่วมจอ แต่กระสุนน่ะท่วมถนนหนทางผนังประตูและยอดตึกกันเลยทีเดียว ยิงกันแบบไม่ต้องประหยัดกระสุน ไม่ต้องกลัวหมดแม็ก(แต่มีฉากเติมกระสุนนะครับ) ไม่ต้องนับฉากระเบิดระเบ้ออีกเพียบ รถถูก RPG ไปหลายคัน ยังไม่นับที่เอามาบังกระสุนอีกต่างหาก ฉากขับรถไล่เบียดกันอย่างเมามัน แถมมีแม้กระทั่งฉากบังคับสุดคลาสสิคสไตล์หนังบู๊ฝรั่งคือ การดวลกันตัวต่อตัวของพระเอกกับตัวร้ายที่ใช้ระยะเวลาพอสมควร(เดี๋ยวแฟนๆ หนังแนวนี้จะบ่นว่าตัวร้ายแพ้ง่ายไป)
ด้านการเล่าเรื่อง หนังทำได้กระชับและลุ้นระทึกดี เริ่มต้นเรื่องจะมีการเล่าสลับฉากระหว่างเมืองใหญ่ที่ตัวร้ายกำลังหลบหนีจากการตามล่าของ FBI ด้วยวิธีการต่างๆ ตัดสลับกับการสืบสวนของคณะนายอำเภอต่อความไม่ชอบมาพากลภายในหมู่บ้านอันแสนสงบสุขของตน โดยมีการขึ้นเวลาให้ดูทุกครั้งที่มีการตัดสลับฉาก เพื่อให้ได้รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันใช้เวลาไม่นาน ไล่เป็นไทม์ไลน์กันเลยทีเดียว(ในเมืองออกแนวซิ่งระห่ำ นอกเมืองออกแนวสืบสวน) ซึ่งทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อ
ทั้งหมดส่งผลให้หนังเรื่องนี้ดูเป็นหนังสูตรสำเร็จของหนังแอ็คชั่นร่วมสมัย(จะว่าเป็นหนังสมัยก่อนก็เกินไป) คือมันเป็นหนังบู๊ฝรั่งคลาสสิคที่บูชาครูอยู่ไม่น้อย แต่ก็สอดแทรกมุกใหม่ๆ สำหรับฉากแอ็คชั่นอยู่พอสมควร
สำหรับผม ผมให้คะแนน 7.5 / 10 ครับ หรืออยู่ในระดับที่ดูได้เพลินๆ แต่ก็อาจโดนใจใครหลายๆ คนที่ชอบหนังบู๊ล้างผลาญครับ
แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นว่าอย่างไรกันบ้างครับ?
ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านจนมาถึงบรรทัดนี้นะครับผม ไว้พบกันใหม่คราวหน้าครับ
^ ^