ต่างกันแน่นอนครับ ตู้เย็นยิ่งใหญ่ มีพื้นที่มาก คอมเพรสเซอร์ก็ต้องใหญ่ตามขนาดพื้นที่ ที่กว้างขึ้น
และที่สำคัญ ก็ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากขึ้นด้วย
ฉลากแสดงประสิทธิภาพ(ฉลากเบอร์ 5) ที่ติดไว้หน้าตู้นั้น มีคำตอบ และเป็นตัวเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน
เวลาเดินห้าง ลองไปที่โซนเครื่องใช้ไฟฟ้า ดูที่ฉลากดังกล่าว แล้วลองเอาขนาดตู้ กับปริมาณการใช้ไฟฟ้า มาเทียบกัน
ระหว่างตู้เย็นแต่ละขนาด ก็จะได้คำตอบครับ

การเลือกตู้เย็น ถ้าคิดถึงเรื่องการประหยัดพลังงาน ก็ควรเลือกขนาดให้เหมาะสมกับความต้องการและรูปแบบการใช้งาน
รวมไปถึงจำนวนสมาชิกในครอบครัวด้วย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น
และที่สำคัญช่วยเซฟเงินในกระเป๋าคุณได้อีกด้วยครับ

ผมเองยอมขอรับเลยว่าพลาดไปแล้วกับการเลือกตู้เย็นตอนที่สร้างบ้านใหม่ เพราะตอนออกแบบเลือกเผื่อไว้ที่ขนาด 20.4 คิว
เพราะคิดจะสะสมเสบียงหลายๆอย่างรวมทั้งเผื่อไว้แช่ของเก็บไว้เยอะๆ อีกทั้งคนในบ้านก็เห็นดีเห็นงามกับตู้เย็น ไซด์ บาย ไซด์
แต่พอสร้างบ้านเสร็จและย้ายเข้าอยู่ แม่ผมขอตู้เย็นขนาดเล็กอีกอันไว้ในครัวไทย เพราะท่านทำอาหารประจำ ไม่อยากเอาวัตถุดิบ
ที่มีกลิ่นคาวและเครื่องปรุงอื่นๆมารวมในตู้เย็นตัวใหญ่ ท่านเสียดาย กลัวจะสกปรกและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
สุดท้ายก็ต้องไปเอาตู้เย็นในครัวของบ้านเก่ามาให้ตามความต้องการแม่
ตู้เย็นใหม่แรกๆก็แช่น้ำ ขนม ผลไม้ ไว้เต็ม เพราะเห่อซื้อของมาใส่ แต่ก็ได้แค่แรกๆ ตอนนี้ที่แช่ก็มีแค่น้ำเป็นหลัก กับผลไม้ไม่มาก
ขนม นานๆก็จะมีมาแช่ เพราะกินกันไม่ทัน กลางวันก็มีแต่แม่อยู่บ้าน พ่อ ตัวผมเอง และแฟน ก็ออกไปทำงานกลับเข้ามาตอนเย็น
ของที่บ้าเห่อซื้อมาแช่ตอนแรก พอไม่มีเวลากินให้หมดทัน มันก็หมดอายุเสียไปโดยใช่เหตุ ตู้เย็นค่อนข้างใหญ่แต่...แช่แค่น้ำเป็นหลัก
มันทำให้เปลืองไฟเกินจำเป็นอยู่พอสมควรครับ
ที่เอาประสบการณ์มาแชร์ ก็เพราะอยากให้เห็นว่า ควรพิจารณาปัจจัยความต้องการพื้นฐานให้ดี ก่อนจะเลือกขนาดตู้เย็นเพื่อใช้งาน
เพราะเลือกใหญ่เกินความจำเป็น มันมีผลเสีย ทั้งเปลืองเงินตอนซื้อ และเปลืองค่าไฟระยะยาว โดยใช่เหตุ
อย่าเลือกเพียงแต่เหตุผลที่ว่ามันสวย เห็นบ้านอื่นใช้เราก็อยากใช้ หรือการเผื่อความต้องการมากเกินไปเพื่อเข้าข้างตัวเองให้มีเหตุที่จะซื้อ