อดีตที่อาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ เจ้าสำนักปู่สวรรค์ ตำแหน่งทูตสันติภาพแห่งโลก ได้ช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากการยึดครองของลัทธิคอมมิวนิสต์แบบปิดทองก้นพระ ยุคนั้น คอมมิวนิสต์เฟื่องฟู มีนักศึกษาเข้าป่าไปร่วมด้วยมากมาย โดยท่านกล้าเข้าไปบำรุงขวัญทหารตำรวจถึงฐานปฏิบัติการทั่วประเทศในยุคนั้นด้วยตนเอง แจกผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช ซึ่งไม่มีสำนัก องค์กรหรือหน่วยงานไหนกล้าเสี่ยงชีวิตเข้าไปเพราะจะถูกซุ่มโจมตีหรือวางกับระเบิดจากผู้ก่อการร้าย จนถูกต่อว่า...ทำไมบอกก่อน จะได้เอากำลังไปคุ้มกัน
แต่ท่านอาจารย์สุชาติตอบว่า....เราเอาของดีมาแจก ถ้าคุ้มครองเราเองไม่ได้ จะค้มครองพวกท่านได้อย่างไร ? ไม่มีทหารที่มีผ้ายันต์นี้ เสียชีวิตในสนามรบเลย ยุคนั้นทหารชายแดนรู้ถึงอานุภาพของผ้ายันต์นี้ดี และแปลกมาก เพราะเป็นผ้ายันต์แบบเดียวที่ไม่มียันต์ ผลจากการเยี่ยมเยือน ทำให้เหล่านักรบของชาติถึงกับน้ำตาไหล ตื้นตันใจ เพราะแต่เดิมไม่มีใครกล้าเข้าไป
.............. ภาพสุดท้าย คุณสันติ ลุ้นเผ่ นักร้องเพลงปลุกใจรักชาติดังที่สุดของไทย เล่นแอคโคเดียน ก็เป็นศิษย์สำนักปู่สวรรค์ กล้าไปตะเวณทั่วไปประเทศตามอาจารย์สุชาติ ตามคำพูดของท่านว่า .....ที่ไหนมีปืน มีอันตราย เราจะไป แผ่นดินไทยทุกที่เราต้องไปได้
ทำให้แผนยึดเมืองไทยล้มเหลว ซึ่งต่างชาติงง เพราะตามทฤษฏีโดมีโน่แล้ว ต้องถูกยึด ไทยรอดไปได้อย่างไร คอมมิวนิสต์สืบข่าวก็รู้ว่า มาจากสำนักปู่สวรรค์มาขัดขวาง ก็เลยหันมาเล่นงานล้มสำนักปู่สวรรค์และหุบผาสวรรค์ อ.ปากท่อ ราชบุรี แต่กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่า ไม่มีทางล้มได้ และตั้งค่าหัวอาจารย์สุชาติ 4 ล้านแทน ทุ่มเงินหว่านเงินเข้าไปทุกวงการของไทย และผลจากการเสียหน้าที่ยึดเมืองไทยไม่ได้ ต่อมาคอมมิวนิสต์ล่มสลายแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ ดังที่ทราบกัน
ฉนั้น ถ้าอยากสร้างความดี ที่ไม่มีอะไรแอบแฝง ต้องไปเดินใน 3 จังหวัดชายแดน เพื่อให้ธรรมะแผ่ให้ร่มเย็นขึ้น อย่าเดินแถวๆที่เจริญแล้ว ซึ่งมีเงินใครก็ทำได้ ถ้าทำอย่างนี้ ไม่มีใครต่อว่าด้วย แบบที่เล่าเป็นตัวอย่างมา ซึ่งทำให้ไทยรอดพ้นจากการยึดครองจากคอมมิวนิสต์และศาสนาพุทธและศาสนาต่างๆ ก็ไม่ถูกทำลาย......... ทำให้มาเดินแฟชั่นธุดงค์กันได้ตามความปรารถนา
แม้จะเอาพระมาเดินแฟชั่นธุดงค์ กี่ครั้งๆก็ไม่เหนือกว่า แบบนี้หรอก
อดีตที่อาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ เจ้าสำนักปู่สวรรค์ ตำแหน่งทูตสันติภาพแห่งโลก ได้ช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากการยึดครองของลัทธิคอมมิวนิสต์แบบปิดทองก้นพระ ยุคนั้น คอมมิวนิสต์เฟื่องฟู มีนักศึกษาเข้าป่าไปร่วมด้วยมากมาย โดยท่านกล้าเข้าไปบำรุงขวัญทหารตำรวจถึงฐานปฏิบัติการทั่วประเทศในยุคนั้นด้วยตนเอง แจกผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช ซึ่งไม่มีสำนัก องค์กรหรือหน่วยงานไหนกล้าเสี่ยงชีวิตเข้าไปเพราะจะถูกซุ่มโจมตีหรือวางกับระเบิดจากผู้ก่อการร้าย จนถูกต่อว่า...ทำไมบอกก่อน จะได้เอากำลังไปคุ้มกัน
แต่ท่านอาจารย์สุชาติตอบว่า....เราเอาของดีมาแจก ถ้าคุ้มครองเราเองไม่ได้ จะค้มครองพวกท่านได้อย่างไร ? ไม่มีทหารที่มีผ้ายันต์นี้ เสียชีวิตในสนามรบเลย ยุคนั้นทหารชายแดนรู้ถึงอานุภาพของผ้ายันต์นี้ดี และแปลกมาก เพราะเป็นผ้ายันต์แบบเดียวที่ไม่มียันต์ ผลจากการเยี่ยมเยือน ทำให้เหล่านักรบของชาติถึงกับน้ำตาไหล ตื้นตันใจ เพราะแต่เดิมไม่มีใครกล้าเข้าไป
.............. ภาพสุดท้าย คุณสันติ ลุ้นเผ่ นักร้องเพลงปลุกใจรักชาติดังที่สุดของไทย เล่นแอคโคเดียน ก็เป็นศิษย์สำนักปู่สวรรค์ กล้าไปตะเวณทั่วไปประเทศตามอาจารย์สุชาติ ตามคำพูดของท่านว่า .....ที่ไหนมีปืน มีอันตราย เราจะไป แผ่นดินไทยทุกที่เราต้องไปได้
ทำให้แผนยึดเมืองไทยล้มเหลว ซึ่งต่างชาติงง เพราะตามทฤษฏีโดมีโน่แล้ว ต้องถูกยึด ไทยรอดไปได้อย่างไร คอมมิวนิสต์สืบข่าวก็รู้ว่า มาจากสำนักปู่สวรรค์มาขัดขวาง ก็เลยหันมาเล่นงานล้มสำนักปู่สวรรค์และหุบผาสวรรค์ อ.ปากท่อ ราชบุรี แต่กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่า ไม่มีทางล้มได้ และตั้งค่าหัวอาจารย์สุชาติ 4 ล้านแทน ทุ่มเงินหว่านเงินเข้าไปทุกวงการของไทย และผลจากการเสียหน้าที่ยึดเมืองไทยไม่ได้ ต่อมาคอมมิวนิสต์ล่มสลายแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ ดังที่ทราบกัน
ฉนั้น ถ้าอยากสร้างความดี ที่ไม่มีอะไรแอบแฝง ต้องไปเดินใน 3 จังหวัดชายแดน เพื่อให้ธรรมะแผ่ให้ร่มเย็นขึ้น อย่าเดินแถวๆที่เจริญแล้ว ซึ่งมีเงินใครก็ทำได้ ถ้าทำอย่างนี้ ไม่มีใครต่อว่าด้วย แบบที่เล่าเป็นตัวอย่างมา ซึ่งทำให้ไทยรอดพ้นจากการยึดครองจากคอมมิวนิสต์และศาสนาพุทธและศาสนาต่างๆ ก็ไม่ถูกทำลาย......... ทำให้มาเดินแฟชั่นธุดงค์กันได้ตามความปรารถนา