ได้เห็นภาพ ขณะที่พี ปรเมศ ดาราละครช่อง 3 ยกปืนเล็งแล้วยิงไปที่เหยื่อ ตามที่เป็นข่าวครึกโครมไปแล้วนั้น
มันอดจะคิดถึงใครคนใดคหนึ่งที่กำลังพยายามวิ่งหนี และหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ อย่างสุดชีวิต ของนายมาร์ค อภิสิทธิ ไม่ได้
พี ปรเมศ มอบตัวกับตำรวจทันที พร้อมบอกว่า เป็นการแย่งปืนกันในลานจอดรถ แล้วปืนลั่น มันเป็นอุบัติเหตุเหลียวมองมาที่ อภิสิทธิ แกให้สัมภาษณ์ สำนักข่าว บลูมเบอร์ก ว่า
"จากรายงานต่างๆ ที่เราได้รับ ก็ชัดเจนว่าทหารไม่เคยปฏิบัติการที่ก้าวร้าว เราไม่ได้อนุญาตให้พวกเขาเข้าไปสลายการชุมนุมในที่ชุมนุมใหญ่เสียด้วยซ้ำ สิ่งที่พวกเขาทำก็เพียงแค่การตั้งด่านเพื่อสกัดการชุมนุม และด่านกั้นเหล่านั้นก็ถูกโจมตี"
"ถ้าคุณอ่านคำอธิบาย (คดี) ทั้งหมด มันแทบจะเป็นเหมือนอุบัติเหตุ" นายอภิสิทธิย้ำ
ว่า การตายของประชาชนที่เกิดขึ้นนั้น
"มันเหมือนอุบัติเหตุ"
ทั้ง ๆ ที่คนเกือบทั้งโลกเห็นเหมือนกันว่า นี่คือการตั้งใจฆ่า มิใช่อุบัติเหตุ
ทั้ง ๆ ที่ ศพจำนวน 4 ศพ ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่ได้โจมตีด่าน และไม่มีอาวุธใด ๆ ที่ตกอยู่ข้างกายเพื่อเข้าโจมตี
เว้นแต่ศพเดียว....ที่ดัน Action ชูหนังสะติ๊กส์ ให้นักข่าวดูว่า นี่คืออาวุธของประชาชนที่จะตอบโต้ กับ กระสุนจริง.......
ผมไม่รู้ว่าพี ปรเมศ ได้แรงบันดาลใจมาจากนายอภิสิทธิหรือเปล่า
ถึงได้กล้าบอกว่า มันเกิดจากการแย่งปืน มันเป็นอุบัติเหตุ..........
เพราะการตายเกือบ 100 ศพ อดีตผู้นำประเทศยังกล้า พูดกับคนทั้งโลกว่า มันเป็นอุบัติเหตุ
ไม่ได้สลาย
ไม่ได้เข้าใกล้ แค่ตั้งด่าน และด่านถูกโจมตีเท่านั้น
ทั้ง ๆ ที่การฆาตกรรม กลางเมืองหนนี้มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
และที่ศาลชี้ว่าตายด้วยกระสุนของทหารนั้น มิได้มีศพใดเลย ที่เสียชีวิต ขณะเข้าโจมตีด่านสกัด
ตอนนี้ พี กับ มาร์ค
จะเหมือนกัน ตรงที่ ทั้งคู่ เป็นบุคคลสาธารณะ และทั้งคู่ก็พยายาม โกหก และพยายามวิ่งหนีความจริง อย่างสุดชีวิต
สุดแต่ว่า ใครจะโดนผลกรรมตอบสนองก่อนกัน
จะต่างกันก็ตรง พีไม่มีเส้น
แต่มาร์คนั้น เชื่อได้ว่า เส้นระดับปึ๊กส์
สุดท้ายนี้ อยากบอกตามตรงว่า ผมไม่เคยหวังอะไรกับกระบวนการยุติธรรม ใน พ.ศ. นี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ในระบอบประชาธิปไตยแบบไทย ๆ
ไม่เคยมี...ประเพณีปฏิบัติครั้งไหน
ที่ กองทัพ หรือผู้มีอำนาจ เข่นฆ่าประชาชน แล้วต้องมีการรับผิดชอบ
ฉะนั้น แม้น พี ปรเมศ จะ ฆ่าไปแต่คนเดียว
แต่ผลกรรมนั้น จะได้รับมากกว่า มาร์ค มากมายมหาศาลนัก
เพราะที่นี่คือ ประเทศไทย
พี่ ปรเมศ VS มาร์ค อภิสิทธิ ความเหมือนที่แตกต่าง
มันอดจะคิดถึงใครคนใดคหนึ่งที่กำลังพยายามวิ่งหนี และหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ อย่างสุดชีวิต ของนายมาร์ค อภิสิทธิ ไม่ได้
พี ปรเมศ มอบตัวกับตำรวจทันที พร้อมบอกว่า เป็นการแย่งปืนกันในลานจอดรถ แล้วปืนลั่น มันเป็นอุบัติเหตุเหลียวมองมาที่ อภิสิทธิ แกให้สัมภาษณ์ สำนักข่าว บลูมเบอร์ก ว่า
"จากรายงานต่างๆ ที่เราได้รับ ก็ชัดเจนว่าทหารไม่เคยปฏิบัติการที่ก้าวร้าว เราไม่ได้อนุญาตให้พวกเขาเข้าไปสลายการชุมนุมในที่ชุมนุมใหญ่เสียด้วยซ้ำ สิ่งที่พวกเขาทำก็เพียงแค่การตั้งด่านเพื่อสกัดการชุมนุม และด่านกั้นเหล่านั้นก็ถูกโจมตี"
"ถ้าคุณอ่านคำอธิบาย (คดี) ทั้งหมด มันแทบจะเป็นเหมือนอุบัติเหตุ" นายอภิสิทธิย้ำ
ว่า การตายของประชาชนที่เกิดขึ้นนั้น
"มันเหมือนอุบัติเหตุ"
ทั้ง ๆ ที่คนเกือบทั้งโลกเห็นเหมือนกันว่า นี่คือการตั้งใจฆ่า มิใช่อุบัติเหตุ
ทั้ง ๆ ที่ ศพจำนวน 4 ศพ ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่ได้โจมตีด่าน และไม่มีอาวุธใด ๆ ที่ตกอยู่ข้างกายเพื่อเข้าโจมตี
เว้นแต่ศพเดียว....ที่ดัน Action ชูหนังสะติ๊กส์ ให้นักข่าวดูว่า นี่คืออาวุธของประชาชนที่จะตอบโต้ กับ กระสุนจริง.......
ผมไม่รู้ว่าพี ปรเมศ ได้แรงบันดาลใจมาจากนายอภิสิทธิหรือเปล่า
ถึงได้กล้าบอกว่า มันเกิดจากการแย่งปืน มันเป็นอุบัติเหตุ..........
เพราะการตายเกือบ 100 ศพ อดีตผู้นำประเทศยังกล้า พูดกับคนทั้งโลกว่า มันเป็นอุบัติเหตุ
ไม่ได้สลาย
ไม่ได้เข้าใกล้ แค่ตั้งด่าน และด่านถูกโจมตีเท่านั้น
ทั้ง ๆ ที่การฆาตกรรม กลางเมืองหนนี้มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
และที่ศาลชี้ว่าตายด้วยกระสุนของทหารนั้น มิได้มีศพใดเลย ที่เสียชีวิต ขณะเข้าโจมตีด่านสกัด
ตอนนี้ พี กับ มาร์ค
จะเหมือนกัน ตรงที่ ทั้งคู่ เป็นบุคคลสาธารณะ และทั้งคู่ก็พยายาม โกหก และพยายามวิ่งหนีความจริง อย่างสุดชีวิต
สุดแต่ว่า ใครจะโดนผลกรรมตอบสนองก่อนกัน
จะต่างกันก็ตรง พีไม่มีเส้น
แต่มาร์คนั้น เชื่อได้ว่า เส้นระดับปึ๊กส์
สุดท้ายนี้ อยากบอกตามตรงว่า ผมไม่เคยหวังอะไรกับกระบวนการยุติธรรม ใน พ.ศ. นี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ในระบอบประชาธิปไตยแบบไทย ๆ
ไม่เคยมี...ประเพณีปฏิบัติครั้งไหน
ที่ กองทัพ หรือผู้มีอำนาจ เข่นฆ่าประชาชน แล้วต้องมีการรับผิดชอบ
ฉะนั้น แม้น พี ปรเมศ จะ ฆ่าไปแต่คนเดียว
แต่ผลกรรมนั้น จะได้รับมากกว่า มาร์ค มากมายมหาศาลนัก
เพราะที่นี่คือ ประเทศไทย