ปกติตอนเย็นผมจะออกปั่นคนเดียว โดยแต่งตัวกางเกงขาสั้นเสื้อยืดหมวกแก็บเหมือนๆชาวบ้านทั่่วไปเพื่อให้กลมกลืน แต่ขี่รถเสือหมอบซึ่งก็จะแตกต่างจากชาวบ้านทั่วไปอยู่นิดหน่อย
วันนี้เลิกมืดหน่อยปั่นกลับมาใช้ทางลัดในซอย เจอด่านเล็กๆมีตำรวจสามสี่คนคงจะมาดักตรวจพวกวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ ผมปั่นผ่านไปก็นึกว่าไม่มีอะไรเพราะปกติเจ้าหน้าที่ไม่ค่อยสนใจคนขี่จักรยานอยู่แล้ว ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่คนนึงเรียกบอกมาทางนี้หน่อยจอดขอดูรถหน่อย ผมก็นึกถึงกระทู้ที่เคยอ่านว่าตำรวจเรียกตรวจแล้วถามว่าขอดูรถสวยซื้อที่ไหนราคาเท่าไหร่อะไรแบบนัั้น ผมยังถามขำๆกลับไปเลยว่าจะตรวจจริงหรือครับ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทำท่าขำด้วย เข้ามารุมสองคน บอกให้จอดตั้งรถแล้วให้ยกมือเปิดเอวขอค้นในกระเป๋ากางเกงอย่างละเอียดเลย ถามนั่นถามนี่แบบจริงจัง จะขอดูกระเป๋าใต้อานอีก ผมก็บอกว่าเปิดดูได้ครับมีแต่อะไหล่ยางในซ่อมรถ จนเจ้าหน้าที่ตรวจดูแล้วว่าผมคงไม่มีพิรุจใดๆก็เลยปล่อยมาพร้อมกับขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ แต่ตอนนั้นผมไม่่ค่อยขำแล้วขี่ออกมาแบบงงๆ อารมณ์เดียวกับตอนหนุ่มๆที่เคยขี่มอเตอร์ไซค์แล้วเจอด่านตรวจเลย ในใจก็คิดว่า่เดี๋ยวนี้โจรหรือคนร้ายมันหันมาขี่จักรยานให้เป็นที่น่าสงสัยของตำรวจแล้วหรือนี่
แต่โชคดีอยู่หน่อยครับ เจ้าหน้าที่ไม่ได้สนใจที่รถจักรยานเลย ไม่เหมือนตอนขี่มอเตอร์ไซค์ถ้าโดนเรียกตรวจนี่ต้องเตรียมใบขับขี่สำเนาทะเบียนรถ ต้องระแวงว่าป้ายวงกลมหมดอายุหรือเปล่า กระจกมองหลังมีครบหรือเปล่า ดัดแปลงสภาพรถตรงไหนหรือเปล่า ซึ่งเอาตามจริงจักรยานเกือบทุกคันบนถนนมันก็มีอุปกรณ์ไม่ครบตามกฏหมายอยู่แล้วละครับ เลยขอเอาประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง
วันนี้ปั่นจักรยานผ่านด่าน โดนตำรวจเรียกตรวจค้นครับ
วันนี้เลิกมืดหน่อยปั่นกลับมาใช้ทางลัดในซอย เจอด่านเล็กๆมีตำรวจสามสี่คนคงจะมาดักตรวจพวกวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ ผมปั่นผ่านไปก็นึกว่าไม่มีอะไรเพราะปกติเจ้าหน้าที่ไม่ค่อยสนใจคนขี่จักรยานอยู่แล้ว ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่คนนึงเรียกบอกมาทางนี้หน่อยจอดขอดูรถหน่อย ผมก็นึกถึงกระทู้ที่เคยอ่านว่าตำรวจเรียกตรวจแล้วถามว่าขอดูรถสวยซื้อที่ไหนราคาเท่าไหร่อะไรแบบนัั้น ผมยังถามขำๆกลับไปเลยว่าจะตรวจจริงหรือครับ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทำท่าขำด้วย เข้ามารุมสองคน บอกให้จอดตั้งรถแล้วให้ยกมือเปิดเอวขอค้นในกระเป๋ากางเกงอย่างละเอียดเลย ถามนั่นถามนี่แบบจริงจัง จะขอดูกระเป๋าใต้อานอีก ผมก็บอกว่าเปิดดูได้ครับมีแต่อะไหล่ยางในซ่อมรถ จนเจ้าหน้าที่ตรวจดูแล้วว่าผมคงไม่มีพิรุจใดๆก็เลยปล่อยมาพร้อมกับขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ แต่ตอนนั้นผมไม่่ค่อยขำแล้วขี่ออกมาแบบงงๆ อารมณ์เดียวกับตอนหนุ่มๆที่เคยขี่มอเตอร์ไซค์แล้วเจอด่านตรวจเลย ในใจก็คิดว่า่เดี๋ยวนี้โจรหรือคนร้ายมันหันมาขี่จักรยานให้เป็นที่น่าสงสัยของตำรวจแล้วหรือนี่
แต่โชคดีอยู่หน่อยครับ เจ้าหน้าที่ไม่ได้สนใจที่รถจักรยานเลย ไม่เหมือนตอนขี่มอเตอร์ไซค์ถ้าโดนเรียกตรวจนี่ต้องเตรียมใบขับขี่สำเนาทะเบียนรถ ต้องระแวงว่าป้ายวงกลมหมดอายุหรือเปล่า กระจกมองหลังมีครบหรือเปล่า ดัดแปลงสภาพรถตรงไหนหรือเปล่า ซึ่งเอาตามจริงจักรยานเกือบทุกคันบนถนนมันก็มีอุปกรณ์ไม่ครบตามกฏหมายอยู่แล้วละครับ เลยขอเอาประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง