พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่า เป็นคุณของรูปทั้งหลาย?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า นางสาวเผ่ากษัตริย์ เผ่าพราหมณ์ หรือเผ่าคฤหบดีมีอายุระบุได้ว่า ๑๕ ปี หรือ๑๖ ปี ไม่สูงเกินไป ไม่ต่ำเกินไป ไม่ผอมเกินไป ไม่อ้วนเกินไป ไม่ดำเกินไป ไม่ขาวเกินไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในสมัยนั้นนางคนนั้น งดงามเปล่งปลั่งเป็นอย่างยิ่ง ใช่หรือไม่เล่า? พวกภิกษุ พากันกราบทูลว่าเป็นเช่นนั้นพระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความสุขความโสมนัสอันใดแล ที่บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความงามเปล่งปลั่ง นี้เป็นคุณของรูปทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลาย อาทีนว(โทษ)ของรูปเป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย บุคคล จะได้เห็นน้องหญิง ในกรณีนี้นั่นแหละโดยกาลต่อมา มีอายุได้ ๘๐ ปี ก็ตาม ๙๐ ปี ก็ตาม ๑๐๐ ปีก็ตาม ชราทรุดโทรมแล้ว มีหลังงอดุจไม้โคปาณสิแห่งหลังคามีกายคดไปคดมา มีไม้เท้ายันไปในเบื้องหน้าเดินตัวสั่นเทิ้ม กระสับกระส่าย ผ่านวัยอันแข็งแกร่งไปแล้วมีฟันหักแล้ว มีผมหงอกแล้ว มีผมตัดสั้นอย่างลวก ๆ มีผิวหนังหย่อนยาน และมีตัวเต็มไปด้วยจุด ภิกษุ ทั้งหลาย พวกเธอเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร? สีสันแห่งวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม ใด ๆ สีสันแห่งวรรณะอันงดงามนั้นย่อมอันตรธานหายไป โทษ ย่อมบังเกิดปรากฏ มิใช่หรือ ? “ข้อนั้นเป็นเช่นนั้น พระเจ้าข้า ” ภิกษุทั้งหลาย นี้แล เป็นอาทีนวของรูป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง บุคคลพึงเห็นนางสาวคนนั้นแหละมีอาพาธ มีทุกข์เจ็บหนัก นอนจมมูตรคูถของตน ต้องให้คนอื่นพยุงลุก ต้องให้คนอื่นคอยประคอง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอจะสำคัญข้อนั้นอย่างไร ความงดงาม ความเปล่งปลั่ง ที่มีในก่อนนั้นหายไปแล้ว
โทษปรากฏแล้วมิใช่หรือ?
ภิ. เป็นเช่นนั้น พระเจ้าข้า.
พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของรูปทั้งหลาย..........
น้องหญิง....?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่า เป็นคุณของรูปทั้งหลาย?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า นางสาวเผ่ากษัตริย์ เผ่าพราหมณ์ หรือเผ่าคฤหบดีมีอายุระบุได้ว่า ๑๕ ปี หรือ๑๖ ปี ไม่สูงเกินไป ไม่ต่ำเกินไป ไม่ผอมเกินไป ไม่อ้วนเกินไป ไม่ดำเกินไป ไม่ขาวเกินไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในสมัยนั้นนางคนนั้น งดงามเปล่งปลั่งเป็นอย่างยิ่ง ใช่หรือไม่เล่า? พวกภิกษุ พากันกราบทูลว่าเป็นเช่นนั้นพระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความสุขความโสมนัสอันใดแล ที่บังเกิดขึ้นเพราะอาศัยความงามเปล่งปลั่ง นี้เป็นคุณของรูปทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลาย อาทีนว(โทษ)ของรูปเป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย บุคคล จะได้เห็นน้องหญิง ในกรณีนี้นั่นแหละโดยกาลต่อมา มีอายุได้ ๘๐ ปี ก็ตาม ๙๐ ปี ก็ตาม ๑๐๐ ปีก็ตาม ชราทรุดโทรมแล้ว มีหลังงอดุจไม้โคปาณสิแห่งหลังคามีกายคดไปคดมา มีไม้เท้ายันไปในเบื้องหน้าเดินตัวสั่นเทิ้ม กระสับกระส่าย ผ่านวัยอันแข็งแกร่งไปแล้วมีฟันหักแล้ว มีผมหงอกแล้ว มีผมตัดสั้นอย่างลวก ๆ มีผิวหนังหย่อนยาน และมีตัวเต็มไปด้วยจุด ภิกษุ ทั้งหลาย พวกเธอเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร? สีสันแห่งวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม ใด ๆ สีสันแห่งวรรณะอันงดงามนั้นย่อมอันตรธานหายไป โทษ ย่อมบังเกิดปรากฏ มิใช่หรือ ? “ข้อนั้นเป็นเช่นนั้น พระเจ้าข้า ” ภิกษุทั้งหลาย นี้แล เป็นอาทีนวของรูป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง บุคคลพึงเห็นนางสาวคนนั้นแหละมีอาพาธ มีทุกข์เจ็บหนัก นอนจมมูตรคูถของตน ต้องให้คนอื่นพยุงลุก ต้องให้คนอื่นคอยประคอง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอจะสำคัญข้อนั้นอย่างไร ความงดงาม ความเปล่งปลั่ง ที่มีในก่อนนั้นหายไปแล้ว
โทษปรากฏแล้วมิใช่หรือ?
ภิ. เป็นเช่นนั้น พระเจ้าข้า.
พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของรูปทั้งหลาย..........