พอดีวันนี้ว่างๆเปิดคอมไปเรื่อยไปเจอบล๊อคคุณรุ้ง เขียนถึงหนังสือเรื่องเคหาสน์ดาว ทำให้นึกถึงละครเรื่องนี้ขึ้นมา
อยากให้เอาละครเรื่องนี้มาปัดฝุ่นรีเมคจัง แต่อยากให้ผู้จัดทำการบ้านเยอะๆ ทั้งแคสนักแสดงต้องเป๊ะมากๆ เพราะ
ความสนุกสนานของละครเรื่องนี้มาจากผู้เล่นที่ต้องธรรมชาติมากๆ กับบทที่ต้องน่ารักมากๆ อยากเห็นละครแนวนี้อีกจัง
feel good มากๆ ให้แง่คิด ทั้งการทำงาน ความรัก ศักดิ์ศรี คุณบอยจะรีเมคมั้ยน๊า
เคหาสน์ดาว by วาณิชจรุงกิจอนันต์ ตัวละครกลมๆ ที่มองโลกแบนๆ
เพื่อนแนะนำให้ดูละครเรื่องนี้ บอกว่าสนุกมากๆ (ที่นุสบาเล่นกะแท่ง) รุ้งก็ไม่เคยดู แต่ว่าคิดว่าอ่านน่าจะง่ายกว่านะ ^^" เล่มเล็กๆ แป๊ปเดียวก็จบ
แต่ที่ไม่ได้คาดหวังคือ เรื่องนี้จะน่ารักๆ อย่างที่เพื่อนแนะนำจริงๆ เพราะว่าเคยอ่านหลายเรื่องของนักเขียนท่านนี้ คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะเบาสบายขนาดนี้ (ยังตะลึงตึงตึ๊งอยู่)
เอาเรื่องย่อไปก่อนละกัน เพราะหลังปกเหมือนว่าจะเป็นคำชื่นชมจากดอกไม้สด
เรื่องย่อ
เขียว (พระเอก) เป็นข้าราชการ ทำงานเป็นสถาปนิกประจำคณะ ได้รับคำไหว้วานจากเพื่อนสนิทให้เขียนแบบบ้านให้ จ๋อม (นางเอก) เป็นเพื่อนของภรรยาของเพื่อนพระเอก (ความสัมพันธ์ดูซับซ้อนดีเหมือนกัน) เป็นอาจารย์สอนที่มหาลัย จ๋อมต้องการปลูกบ้านเพราะว่ามีที่อยู่เล็กๆ แล้วบ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้กำลังโดนไล่ที่ และสภาพแวดล้อมก็ไม่ดีด้วย เขียวมีแฟนแล้ว แต่ว่าอ่านๆ ไปมันก็เหมือนไม่ใช่แฟน ความสัมพันธ์มันประหลาดๆ เขียวกับแฟนก็รู้กันทั้งคู่ถึงความแปร่งๆ ในความสัมพันธ์ แต่เนื่องจากทั้งคู่มองโลกด้วยความแบนๆ ทั้งคู่ เลยไม่คิดอะไรมากถ้าไม่มีตัวแปรมากำหนด แล้วพระเอกจะได้ลงเอยกะนางเอกหรือไม่ แล้วคนกลมๆ แบนๆ แบบพระเอกจะมีพัฒนาการไปอย่างไร เรื่องจะน่ารักขนาดไหน ลองอ่านเอานะจ๊ะ
element of plot ก็เป็นการเล่าเรื่องตามเวลาทั่วๆ ไป แค่เอา climax เป็นตอนจบแล้วตัดช่วง resolution กับ ending ออกไป เป็น pattern ที่ไม่ค่อยเจอในเมืองไทยซักเท่าไหร่ แล้ว ending ของเรื่องนี้ก็เป็นแบบ ให้เอาไปคิดต่อ (ขออธิบาย ending นี๊สนึง ว่ามีน่าจะ 4 แบบ ถ้าจำไม่ผิด คือ happy ending, sad ending, จบแบบเอาไปคิดต่อ,และสุดท้ายคือจบแบบขัดใจคนอ่าน หมายถึงว่า มันไม่ควรจะจบแบบนี้อะไรประมาณนี้ แต่จำศัพท์เทคนิคไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร) การจบแบบนี้ก็ไม่ค่อยเจออีกเช่นกัน รุ้งว่ามันก็กึ่งๆ แฮปปี้ กึ่งๆ เอาไปคิดต่อนะ แต่เนื่องจากมันไม่มีช่วง ending ใน element มันก็เลยมีสภาพเป็นเอาไปคิดต่อโดยคนเขียนให้ clue อันใหญ่มากๆ มาให้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นไงต่อ
point of view เป็นแบบ first person โดยเขียวเป็นคนเล่าเรื่องโดยใช้สรรพนาม "ผม" การใช้ viewpoint แบบนี้ คนเขียนส่วนใหญ่ต้องการจะหลอกคนอ่าน คือให้คนอ่านรู้เท่าที่ควรรู้ คนอ่านต้องสังเกตเอาว่า "ความจริง" กับสิ่งที่ตัวละครเห็น มันก็จะต่างกัน ในที่นี้เราจะโฟกัสไปที่ตัวละคร คาแรกเตอร์ของเขียวเป็นสิ่งที่เรารู้เพราะเรามองผ่านสายตาของเขียว สิ่งที่เรารู้แน่ๆ ก็คือ เขียวเป็นคนมองโลกได้แบนมาก อ่านไปแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองถูกกักอยู่ในที่แคบๆ ไปพร้อมกับเขียวไปด้วย -_-' ยิ่งอ่านยิ่งแบน เขียวไม่มีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เป็นคนที่เหมือนกับถูกสตั๊ฟ ไปพร้อมๆ กับงานข้าราชการที่ทำ ไม่มีการพัฒนาใดใด ทำงานส่วนตัวก็ไม่เหมาะ จะขาดทุนร่ำไป แม้แต่ความรัก เขียวก็พอใจกับสิ่งที่เป็น ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องพัฒนา พอดีได้แฟนแบบเดียวกันก็เลยเสียเวลากันนานกับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือขนาดนี้
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเราดึงตัวเองออกมาจากสายตาของเขียว เราจะค้นพบศักยภาพของเขา เขียวเป็นคนที่มีกัลยาณมิตรมากมายมหาศาล เยอะจริงๆ แล้วเป็นเพื่อนที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเขียวเป็นคนที่จริงใจกับคน และก็มีใจที่พร้อมจะช่วยเหลือคน คนก็พร้อมจะช่วยเหลือเขียว อยากให้ลองสังเกตดูว่าพอเขียวได้ลาออกจากงานราชการ โลกแบนๆ ของเขียวก็ค่อยๆ พองขึ้นมาในบัดดล ความอืดอัดที่ผ่านๆ มา (มันก็ต้องรู้สึกบ้างนิดๆ หน่อยๆ แหละ) มันหายไปหมด ความรู้สึกของรุ้งที่มีต่อเขียวเปลี่ยนไป (คิดว่าคนเขียนคงอยากจะกัดกระบวนการทำงานของราชการที่ทำให้คนความคิดแคบลงๆ ไปเรื่อยๆ จนไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย)
จ๋อม (ในทางตรงกันข้าม) เป็นคนที่รู้จักตัวเองดีอย่างยิ่ง จ๋อมเป็นคนสวย มีคนมาจีบเยอะแยะ แต่ว่าเท่าที่อ่านๆ ก็พอดูออกนะว่าจ๋อมชอบเขียว อาจจะเพราะความเอื้ออารี อาจจะเพราะความจริงใจ แต่เขียวมันโง่ -_-' (ขอด่าหน่อยเถอะ) ไม่รู้เหนือรู้ใต้เลย ดูจากที่เราอ่านได้เลย เราอ่านแล้วไม่เห็น sign ใดใดที่มาจากเขียวเลย มีแต่เพื่อนมาช่วยแย็ปๆ ให้ตลอด อ่านแล้ว รู้สึกว่านางเอกเนี่ยเป็นสไตล์เดียวกับนางเอกการ์ตูนเรื่องคัทซึ (และเรื่องอื่นๆ ที่คนเขียนคนนี้เขียน) คือนางเอกจะ mature มากๆ รู้ดีเลยว่าตัวเองต้องการอะไร (แตกต่างจากพระเอกสุดๆ)
ในเรื่องนี้ จะเห็นพัฒนาการของพระเอก จะว่าไป ก็เหมือนมรสุมเข้าในช่วงเวลาเดียวกัน ในด้านความรักที่เคยมี ก็ต้องตัดสินใจเลือก พระเอกก็รู้นะว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะงั้น พอต้องเลือกจริงๆ พระเอกก็เลือกที่จะถอย การถอยก็ต้องใช้ความกล้าอย่างมากเหมือนกัน ในด้านการงาน พระเอกก็มาถึงจุดที่ต้องเลือก การทำแฟลตอาจารย์ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ดึงพระเอกไว้ แล้วมันก็หลุดจนได้ เวลาเราอ่านๆ ไปก็เหมือนกับว่า ก็ไม่เห็นจะมีอะไร แค่เปลี่ยน แต่กับพระเอก คำว่า "เปลี่ยน" เป็นอะไรที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานนับ 10 ปี เพราะงั้น มันยากจริงๆ สำหรับพระเอกทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก
สรุปว่า ชอบเรื่องนี้ เรื่องนี้น่ารักแบบนิ่งๆ ไม่ต้องมีพระเอกหล่อ รวย ไฮโซ รั๊กๆๆๆ นางเอกประมาณผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ไม่ต้องมีนางเอกพ่อแง่
อน ทำตัวน่ารักกระเง้ากระงอด ไม่ต้องมีตัวร้ายมากรี๊ดๆ ตบนางเอก ไม่ต้องมีพระรองอดทน no. 1-5 แต่เป็นเรื่องธรรมดาๆ ของคนที่แสนจะธรรมดา 2 คน มาเจ๊อะกัน รักกัน แค่นี้ก็พอแล้วเนอะ ^^
ปล ยังคิดไม่ออกว่าทำไมเรื่องนี้ชื่อว่า เคหาสน์ดาว นอนคิดมาหลายตลบแล้วเนี่ย
คิดถึง........เคหาสน์ดาว
อยากให้เอาละครเรื่องนี้มาปัดฝุ่นรีเมคจัง แต่อยากให้ผู้จัดทำการบ้านเยอะๆ ทั้งแคสนักแสดงต้องเป๊ะมากๆ เพราะ
ความสนุกสนานของละครเรื่องนี้มาจากผู้เล่นที่ต้องธรรมชาติมากๆ กับบทที่ต้องน่ารักมากๆ อยากเห็นละครแนวนี้อีกจัง
feel good มากๆ ให้แง่คิด ทั้งการทำงาน ความรัก ศักดิ์ศรี คุณบอยจะรีเมคมั้ยน๊า
เคหาสน์ดาว by วาณิชจรุงกิจอนันต์ ตัวละครกลมๆ ที่มองโลกแบนๆ
เพื่อนแนะนำให้ดูละครเรื่องนี้ บอกว่าสนุกมากๆ (ที่นุสบาเล่นกะแท่ง) รุ้งก็ไม่เคยดู แต่ว่าคิดว่าอ่านน่าจะง่ายกว่านะ ^^" เล่มเล็กๆ แป๊ปเดียวก็จบ
แต่ที่ไม่ได้คาดหวังคือ เรื่องนี้จะน่ารักๆ อย่างที่เพื่อนแนะนำจริงๆ เพราะว่าเคยอ่านหลายเรื่องของนักเขียนท่านนี้ คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะเบาสบายขนาดนี้ (ยังตะลึงตึงตึ๊งอยู่)
เอาเรื่องย่อไปก่อนละกัน เพราะหลังปกเหมือนว่าจะเป็นคำชื่นชมจากดอกไม้สด
เรื่องย่อ
เขียว (พระเอก) เป็นข้าราชการ ทำงานเป็นสถาปนิกประจำคณะ ได้รับคำไหว้วานจากเพื่อนสนิทให้เขียนแบบบ้านให้ จ๋อม (นางเอก) เป็นเพื่อนของภรรยาของเพื่อนพระเอก (ความสัมพันธ์ดูซับซ้อนดีเหมือนกัน) เป็นอาจารย์สอนที่มหาลัย จ๋อมต้องการปลูกบ้านเพราะว่ามีที่อยู่เล็กๆ แล้วบ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้กำลังโดนไล่ที่ และสภาพแวดล้อมก็ไม่ดีด้วย เขียวมีแฟนแล้ว แต่ว่าอ่านๆ ไปมันก็เหมือนไม่ใช่แฟน ความสัมพันธ์มันประหลาดๆ เขียวกับแฟนก็รู้กันทั้งคู่ถึงความแปร่งๆ ในความสัมพันธ์ แต่เนื่องจากทั้งคู่มองโลกด้วยความแบนๆ ทั้งคู่ เลยไม่คิดอะไรมากถ้าไม่มีตัวแปรมากำหนด แล้วพระเอกจะได้ลงเอยกะนางเอกหรือไม่ แล้วคนกลมๆ แบนๆ แบบพระเอกจะมีพัฒนาการไปอย่างไร เรื่องจะน่ารักขนาดไหน ลองอ่านเอานะจ๊ะ
element of plot ก็เป็นการเล่าเรื่องตามเวลาทั่วๆ ไป แค่เอา climax เป็นตอนจบแล้วตัดช่วง resolution กับ ending ออกไป เป็น pattern ที่ไม่ค่อยเจอในเมืองไทยซักเท่าไหร่ แล้ว ending ของเรื่องนี้ก็เป็นแบบ ให้เอาไปคิดต่อ (ขออธิบาย ending นี๊สนึง ว่ามีน่าจะ 4 แบบ ถ้าจำไม่ผิด คือ happy ending, sad ending, จบแบบเอาไปคิดต่อ,และสุดท้ายคือจบแบบขัดใจคนอ่าน หมายถึงว่า มันไม่ควรจะจบแบบนี้อะไรประมาณนี้ แต่จำศัพท์เทคนิคไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร) การจบแบบนี้ก็ไม่ค่อยเจออีกเช่นกัน รุ้งว่ามันก็กึ่งๆ แฮปปี้ กึ่งๆ เอาไปคิดต่อนะ แต่เนื่องจากมันไม่มีช่วง ending ใน element มันก็เลยมีสภาพเป็นเอาไปคิดต่อโดยคนเขียนให้ clue อันใหญ่มากๆ มาให้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นไงต่อ
point of view เป็นแบบ first person โดยเขียวเป็นคนเล่าเรื่องโดยใช้สรรพนาม "ผม" การใช้ viewpoint แบบนี้ คนเขียนส่วนใหญ่ต้องการจะหลอกคนอ่าน คือให้คนอ่านรู้เท่าที่ควรรู้ คนอ่านต้องสังเกตเอาว่า "ความจริง" กับสิ่งที่ตัวละครเห็น มันก็จะต่างกัน ในที่นี้เราจะโฟกัสไปที่ตัวละคร คาแรกเตอร์ของเขียวเป็นสิ่งที่เรารู้เพราะเรามองผ่านสายตาของเขียว สิ่งที่เรารู้แน่ๆ ก็คือ เขียวเป็นคนมองโลกได้แบนมาก อ่านไปแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองถูกกักอยู่ในที่แคบๆ ไปพร้อมกับเขียวไปด้วย -_-' ยิ่งอ่านยิ่งแบน เขียวไม่มีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เป็นคนที่เหมือนกับถูกสตั๊ฟ ไปพร้อมๆ กับงานข้าราชการที่ทำ ไม่มีการพัฒนาใดใด ทำงานส่วนตัวก็ไม่เหมาะ จะขาดทุนร่ำไป แม้แต่ความรัก เขียวก็พอใจกับสิ่งที่เป็น ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องพัฒนา พอดีได้แฟนแบบเดียวกันก็เลยเสียเวลากันนานกับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือขนาดนี้
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเราดึงตัวเองออกมาจากสายตาของเขียว เราจะค้นพบศักยภาพของเขา เขียวเป็นคนที่มีกัลยาณมิตรมากมายมหาศาล เยอะจริงๆ แล้วเป็นเพื่อนที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเขียวเป็นคนที่จริงใจกับคน และก็มีใจที่พร้อมจะช่วยเหลือคน คนก็พร้อมจะช่วยเหลือเขียว อยากให้ลองสังเกตดูว่าพอเขียวได้ลาออกจากงานราชการ โลกแบนๆ ของเขียวก็ค่อยๆ พองขึ้นมาในบัดดล ความอืดอัดที่ผ่านๆ มา (มันก็ต้องรู้สึกบ้างนิดๆ หน่อยๆ แหละ) มันหายไปหมด ความรู้สึกของรุ้งที่มีต่อเขียวเปลี่ยนไป (คิดว่าคนเขียนคงอยากจะกัดกระบวนการทำงานของราชการที่ทำให้คนความคิดแคบลงๆ ไปเรื่อยๆ จนไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย)
จ๋อม (ในทางตรงกันข้าม) เป็นคนที่รู้จักตัวเองดีอย่างยิ่ง จ๋อมเป็นคนสวย มีคนมาจีบเยอะแยะ แต่ว่าเท่าที่อ่านๆ ก็พอดูออกนะว่าจ๋อมชอบเขียว อาจจะเพราะความเอื้ออารี อาจจะเพราะความจริงใจ แต่เขียวมันโง่ -_-' (ขอด่าหน่อยเถอะ) ไม่รู้เหนือรู้ใต้เลย ดูจากที่เราอ่านได้เลย เราอ่านแล้วไม่เห็น sign ใดใดที่มาจากเขียวเลย มีแต่เพื่อนมาช่วยแย็ปๆ ให้ตลอด อ่านแล้ว รู้สึกว่านางเอกเนี่ยเป็นสไตล์เดียวกับนางเอกการ์ตูนเรื่องคัทซึ (และเรื่องอื่นๆ ที่คนเขียนคนนี้เขียน) คือนางเอกจะ mature มากๆ รู้ดีเลยว่าตัวเองต้องการอะไร (แตกต่างจากพระเอกสุดๆ)
ในเรื่องนี้ จะเห็นพัฒนาการของพระเอก จะว่าไป ก็เหมือนมรสุมเข้าในช่วงเวลาเดียวกัน ในด้านความรักที่เคยมี ก็ต้องตัดสินใจเลือก พระเอกก็รู้นะว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะงั้น พอต้องเลือกจริงๆ พระเอกก็เลือกที่จะถอย การถอยก็ต้องใช้ความกล้าอย่างมากเหมือนกัน ในด้านการงาน พระเอกก็มาถึงจุดที่ต้องเลือก การทำแฟลตอาจารย์ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ดึงพระเอกไว้ แล้วมันก็หลุดจนได้ เวลาเราอ่านๆ ไปก็เหมือนกับว่า ก็ไม่เห็นจะมีอะไร แค่เปลี่ยน แต่กับพระเอก คำว่า "เปลี่ยน" เป็นอะไรที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานนับ 10 ปี เพราะงั้น มันยากจริงๆ สำหรับพระเอกทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก
สรุปว่า ชอบเรื่องนี้ เรื่องนี้น่ารักแบบนิ่งๆ ไม่ต้องมีพระเอกหล่อ รวย ไฮโซ รั๊กๆๆๆ นางเอกประมาณผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ไม่ต้องมีนางเอกพ่อแง่อน ทำตัวน่ารักกระเง้ากระงอด ไม่ต้องมีตัวร้ายมากรี๊ดๆ ตบนางเอก ไม่ต้องมีพระรองอดทน no. 1-5 แต่เป็นเรื่องธรรมดาๆ ของคนที่แสนจะธรรมดา 2 คน มาเจ๊อะกัน รักกัน แค่นี้ก็พอแล้วเนอะ ^^
ปล ยังคิดไม่ออกว่าทำไมเรื่องนี้ชื่อว่า เคหาสน์ดาว นอนคิดมาหลายตลบแล้วเนี่ย