เหตุเกิดจากการที่ผมมาอยู่ที่อเมริกา แล้วพยายามจะใช้บัตรเดบิตของกสิกรในการใช้จ่ายประจำวัน ทั้งในเรื่องค่าหอพัก ค่าอาหาร ค่าอะไรต่าง ๆ เนื่องจากอยากจะเก็บเงินสดไว้เพราะการกดเอทีเอ็มที่โน่นค่อนข้างแพง แต่ปรากฏว่า จากประมาณสิบกว่าร้านที่ไปมา มีแค่วอลมาร์ทที่เดียวที่ใช้บัตรได้ นอกนั้นเจอปรากฏการณ์บัตร not authorized หรือ declined หรือ not successful
โทรไปติดต่อเจ้าหน้าที่มาประมาณ 3 รอบ แต่ละรอบให้คำตอบไม่เหมือนกันเลย แถมครั้งสุดท้ายโทรไปเป็นชั่วโมงจนยอด skype ที่เติมไว้หมดจนสายตัดแล้วก็ยังไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรเลย ไม่เพียงแค่นั้น มีประโยคนึงที่ทำให้ผมโกรธมาก ๆ คือ "ลองคิดดูสิคะว่าถ้าบัตรใช้ที่วอลมาร์ท อเมซอน และskype ได้ ทำไมร้านเหล่านั้นถึงใช้ไม่ได้" ขอถามกลับว่า ผมใช้กับร้านสิบกว่าร้าน เป็นร้านค้าทั่วไปอย่างเดียว มีแค่วอลมาร์ทที่ใช้ได้ บวกกับในอินเตอร์เน็ตก็ประมาณยี่สิบกว่าร้าน 70% ของร้านในอเมริกาใช้บัตรเดบิตของที่นี่ไม่ได้ นี่มันหมายความว่าอย่างไรครับ?
ร้านสามร้านดังกล่าวเป็นร้านใหญ่มาก ๆ ซึ่งมัน "ไม่ควร" จะมีปัญหาอยู่แล้วมันเลยไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณทำบัตรให้คนไปใช้ในต่างประเทศได้ มันไม่ควรจะใช้ได้ทุกที่จริง ๆ เหรอ? ไม่เพียงเท่านั้น บัตรของเพื่อนที่เป็นวีซ่าเหมือนกัน เดบิตเหมือนกัน แต่ไม่ใช่กสิกร กลับใช้งานได้ตามปกติ ที่เครื่องรูดเดียวกัน อย่างนี้หมายความว่าความสามารถของบัตรวีซ่าเดบิตกสิกรมันเป็นอย่างไรกันแน่
ถ้าใช้ที่อเมริกาไม่ได้ (ใช้ได้ไม่ถึง 30% มันควรนับว่าเป็นการ "ใช้ได้" ไหม?) ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกที่ถามไป ตอนสมัครผมถามว่าจะใช้จ่ายค่าหอนะ จะใช้ซื้อของนะ ไม่มีเงื่อนไขนะ บอกว่าใช้ได้หมด พอตอนนี้มันไม่เห็นตรงกับที่บอกเลยล่ะครับ?
นี่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวนะ รุ่นพี่ที่รู้จักกัน พอไปรูดแล้วรูดไม่ได้บอกเป็นเครื่องที่ร้าน พอตำหนิไปก็โดนย้อนถามว่าทำบัตรใหม่ไหมคะ? อันนี้นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาอย่างไรกันครับ?
หน้าที่ของลูกค้าบัตรเดบิตคือการหาเงินมาใส่ในบัญชีให้พอ ส่วนหน้าที่ของผู้บริการบัตรไม่ใช่การทำให้บัตรมันใช้ได้ตามที่บอกหรือไง? หรือว่าค่าบริการที่จ่ายให้เป็นรายปีมันไม่ใช่เพื่อการนั้นด้วย?
ประสบการณ์ที่แย่มาก ๆ กับบัตรเดบิตกสิกรไทย
โทรไปติดต่อเจ้าหน้าที่มาประมาณ 3 รอบ แต่ละรอบให้คำตอบไม่เหมือนกันเลย แถมครั้งสุดท้ายโทรไปเป็นชั่วโมงจนยอด skype ที่เติมไว้หมดจนสายตัดแล้วก็ยังไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรเลย ไม่เพียงแค่นั้น มีประโยคนึงที่ทำให้ผมโกรธมาก ๆ คือ "ลองคิดดูสิคะว่าถ้าบัตรใช้ที่วอลมาร์ท อเมซอน และskype ได้ ทำไมร้านเหล่านั้นถึงใช้ไม่ได้" ขอถามกลับว่า ผมใช้กับร้านสิบกว่าร้าน เป็นร้านค้าทั่วไปอย่างเดียว มีแค่วอลมาร์ทที่ใช้ได้ บวกกับในอินเตอร์เน็ตก็ประมาณยี่สิบกว่าร้าน 70% ของร้านในอเมริกาใช้บัตรเดบิตของที่นี่ไม่ได้ นี่มันหมายความว่าอย่างไรครับ?
ร้านสามร้านดังกล่าวเป็นร้านใหญ่มาก ๆ ซึ่งมัน "ไม่ควร" จะมีปัญหาอยู่แล้วมันเลยไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณทำบัตรให้คนไปใช้ในต่างประเทศได้ มันไม่ควรจะใช้ได้ทุกที่จริง ๆ เหรอ? ไม่เพียงเท่านั้น บัตรของเพื่อนที่เป็นวีซ่าเหมือนกัน เดบิตเหมือนกัน แต่ไม่ใช่กสิกร กลับใช้งานได้ตามปกติ ที่เครื่องรูดเดียวกัน อย่างนี้หมายความว่าความสามารถของบัตรวีซ่าเดบิตกสิกรมันเป็นอย่างไรกันแน่
ถ้าใช้ที่อเมริกาไม่ได้ (ใช้ได้ไม่ถึง 30% มันควรนับว่าเป็นการ "ใช้ได้" ไหม?) ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกที่ถามไป ตอนสมัครผมถามว่าจะใช้จ่ายค่าหอนะ จะใช้ซื้อของนะ ไม่มีเงื่อนไขนะ บอกว่าใช้ได้หมด พอตอนนี้มันไม่เห็นตรงกับที่บอกเลยล่ะครับ?
นี่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวนะ รุ่นพี่ที่รู้จักกัน พอไปรูดแล้วรูดไม่ได้บอกเป็นเครื่องที่ร้าน พอตำหนิไปก็โดนย้อนถามว่าทำบัตรใหม่ไหมคะ? อันนี้นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาอย่างไรกันครับ?
หน้าที่ของลูกค้าบัตรเดบิตคือการหาเงินมาใส่ในบัญชีให้พอ ส่วนหน้าที่ของผู้บริการบัตรไม่ใช่การทำให้บัตรมันใช้ได้ตามที่บอกหรือไง? หรือว่าค่าบริการที่จ่ายให้เป็นรายปีมันไม่ใช่เพื่อการนั้นด้วย?