เรื่องมีอยู่ว่า เราได้ประกาศขายดาวน์รถกระบะ แล้วมีคนติดต่อ (อ้างตัวว่าเป็นเต็นท์รถ) บอกว่ามีคนต้องการรถเรา เดี๋ยวเค้าจะจ่ายเงินส่วนที่เราขายดาวน์ให้ แล้วจะเอารถไปให้ลูกค้าดู โดยทำสัญญาซื้อขายกันถูกต้องพร้อมทั้งให้บัตรประชาชนมา โดยบอกว่าวันรุ่งขึ้นจะนัดเรื่องโอนถ้าลูกค้าสนใจ แต่ถ้าลูกค้าไม่สนใจเค้าจะเอาไว้ใช้เอง โดยจะเป็นคนปิดบัญชีให้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า เราเคยขายลักษณะแบบนี้มาแล้วครั้งนึง ไม่มีปัญหาอะไร เต้นท์ไปจัดการปิดบัญชีให้ภายใน 2 วัน แต่ครั้งนี้ไม่เป็นอย่างนั้น พอเค้าได้รถไปวันที่ 15 ม.ค. วันที่ 16 ตอนเที่ยงเราโทรหาเค้าไม่ติดแล้ว เค้าปิดเครื่องไปเลย เราพยายามโทรจนถึงตี 3 ของเช้าวันที่ 17 ม.ค.ก็ยังติดต่อไม่ได้ พอตี 4 เราเลยจะไปแจ้งความ พอไปถึงสน. เรากลับได้รับคำตอบจากร้อยเวรว่า เราไม่สามารถแจ้งความได้ เพราะเราไม่ใช่ผู้ถือกรรมสิทธิ์   ต้องให้ไฟแนนซ์มาแจ้งความเอง แต่ถ้าไฟแนนซ์รู้เรื่อง เราจะโดนข้อหายักยอกทรัพย์ เราก็เลยงงว่า แล้วยังงี้เราจะทำอะไรได้บ้าง จะแจ้งความว่ารถหายเพื่อให้เค้าอายัติรถก็ไม่ได้เพราะมีสัญญาซื้อขาย  เดี๋ยวตอนเที่ยงให้มาเช็คว่าบัตรประชาชนเป็นของจริงมั๊ย

พอเที่ยงขอวันที่ 17 ม.ค.เราก็ไปเช็คที่สน. ปรากฎว่าเป็นบัตรจริง เราก็ถามตำรวจ(อีกคน ไม่ใช่ร้อยเวรที่รับเรื่องตอนตี 4) ว่าเราจำทำยังไงต่อได้บ้าง เค้าก็บอกว่าเราทำอะไรไม่ได้ เพราะเราทำผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น กฎหมายเค้าไม่อนุญาตให้ซื้อขายกันถ้ายังผ่อนไม่หมด ประมาณบ่าย 4 โมงเราติดต่อคนที่ซื้อ (ที่อ้างตัวว่าเป็นเต้นท์) ได้ เราออกอุบายว่า เราต้องการพระในรถคืน เราขอเข้าไปเอาได้มั๊ย เค้าบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ ( ก็คือวันที่ 18 ม.ค.) จะเอามาให้เอง เราก็เข้ามาบอกร้อยเวรที่รับเรื่องว่าเราไม่ไว้ใจ เราจะขอยกเลิกสัญญา เราจะคืนเงินพร้อมค่าเสียหายให้ ขอให้ตำรวจมากับเราได้มั๊ย ตำรวจบอกว่า ไม่ได้ เราต้องเอาเค้ามาที่สน.เอง

วันที่ 18 ม.ค. ตอนเช้าเราโทรไป เค้าปิดเครื่อง มาติดต่อได้ตอนบ่ายโมง ถามเค้าว่าจะมากี่โมง เค้าบอกว่าเดี๋ยวใกล้ถึงแล้วจะโทรบอก แต่ไม่เกิน 5 โมงเย็น เราก็โทรไปหาร้อยเวรที่รับเรื่องว่าเค้าบอกมาแบบนี้ พอบ่าย 3 เราก็โทรไปอีกรอบว่าอย่าลืมเอาพระมาให้เราด้วยนะ เค้าบอกวาไมลืมหรอก ถามว่าอยู่ไหนแล้ว เค้าไม่ยอมบอก บอกแค่ว่าใกล้ๆจะโทรหา 4 โมงเย็นโทรไปอีกที เค้าตัดสายเราทิ้ง แล้วปิดเครื่องไปเลย แบบนี้มันเจตนาจะโกงเราชัดๆ ตำรวจก็บอกว่า มันไม่น่าไว้ใจแล้วหล่ะ แต่เค้าก็ไม่ยอมรับแจ้งความอีก .... แล้วเราจะทำยังไงดี

ใครมีข้อชี้แนะ หนูรบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ