*** เปิดโผ 65 หุ้น พี/อี สูงเกิน 40 เท่า ***

กระทู้สนทนา
ตลท.ดับหุ้นร้อน สั่งบล.คุ้มเข้มการซื้อขาย

                   ตลท.ขอความร่วมมือโบรกเกอร์ดูแลการซื้อขายหุ้นเก็งกำไรใกล้ชิด ด้าน "จรัมพร" เปิดโผ 61 บจ. พี/อี สูงเกิน 40 เท่า พร้อมสั่ง BMCL-TWZ -SLC ชี้แจงข้อมูล ขณะที่นักวิเคราะห์เต็มใจให้ความร่วมมือเบรคความร้อนแรงแถมแนะนลท.ใช้ดุลยพินิจก่อนลุย ฟาก BMCL-CGD-SIM -EE-BTC-TVD บวกทั่วหน้า



***ตลท.ขอความร่วมมือโบรกเกอร์ดูแลการซื้อขายหุ้นเก็งกำไรใกล้ชิด

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ได้ทำหนังสือถึงบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทุกแห่ง เพื่อขอความร่วมมือในการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการเก็งกำไรสูง รวมทั้งทบทวนความเข้าใจในหลักการของการซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยบัญชีเงินสด (แคช บาลานซ์) โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า จากการติดตามการซื้อขายในช่วงที่ผ่านมาพบการซื้อขายในลักษณะเก็งกำไรสูงในหลายหลักทรัพย์ โดยราคาและปริมาณปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากจากช่วงก่อนหน้า และพบว่าหลายหลักทรัพย์ดังกล่าวเคลื่อนไหวผิดปกติจนเข้าข่ายที่ต้องให้ลูกค้าซื้อขายผ่านบัญชีแคชบาลานซ์ และตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องดำเนินการให้บริษัทชี้แจงข้อมูล (Trading Alert List) ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้บล.เพิ่มความระมัดระวังในการกำกับดูแลการซื้อขายของลูกค้า โดยเฉพาะในหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายเก็งกำไรสูงและไม่มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน รวมทั้งขอทำความเข้าใจในหลักการของการซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ ว่าต้องเป็นบัญชีที่ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนกับ บล.ก่อนการซื้อหลักทรัพย์ ไม่สามารถใช้หลักประกันอื่นใดนอกจากเงินสดมาวางแทนได้

***"จรัมพร" ระบุมีหุ้น 61 ตัว พี/อี สูงเกิน 40 เท่า

          นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่าสาเหตุที่ ตลท.ต้องทำหนังสือถึงบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทุกแห่ง เพื่อขอความร่วมมือในการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการเก็งกำไรสูงว่าในช่วงที่ผ่านมา จากการตรวจสอบ พบว่า มีหุ้นที่มีอัตราราคาต่อกำไรต่อหุ้น(พี/อี) สูงเกิน 40 เท่า สูงถึง 61 ตัว ซึ่งรวมทั้งหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กและส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ไม่มีพื้นฐานที่ดีรองรับ
        " มีที่ไหน หุ้น 61 ตัวพี/อี สูงเกิน 40 เท่า มันไม่สมเหตุสมผล เราจึงต้องเตือนโบรกเกอร์ให้ดูแลนักลงทุนดีๆว่า พี/อี สูงขนาดนี้บริษัทมีพื้นฐานรองรับที่ดีพอหรือไม่ เพราะการที่พี/อี สูง หมายความว่ากำไรของบริษัทต้องเติบโตขึ้นในทิศทางที่ดี แล้วหุ้นที่พี/อี สูงเกิน 40 เท่า มันมีกำไรที่ดีหรือไม่ ถ้าไม่มีกำไร ไม่มีพื้นฐานที่ดี ก็ไม่ควรไปลงทุน"นายจรัมพร กล่าว
        ทั้งนี้ ตลท. มีมาตรการตรวจสอบและดูแลความเคลื่อนไหวราคาหุ้นตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งหากการขอความร่วมมือจากโบรกเกอร์ครั้งนี้ ไม่ทำให้ความร้อนแรงของราคาหุ้นลดลง ตลท.ยังมีมาตรการคุมเข้มอื่นๆ รองรับนอกเหนือจากมาตรการเบื้องต้น คือ การให้ลูกค้าซื้อขายผ่านบัญชีแคชบาลานซ์ และให้บริษัทชี้แจงข้อมูล(Trading Alert List) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทุกคนควรใช้สติในการลงทุน โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจบริษัทฯ เป็นหลัก และควรใช้เงินสดในการลงทุน ไม่ควรกู้ยืมเงินมาลงทุน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาภายหลัง

***ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่ง BMCL-TWZ -SLC ชี้แจงข้อมูล

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2556 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์ที่มีระดับราคาและปริมาณการซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปมากจากช่วงก่อนหน้า และให้บริษัทเหล่านั้นชี้แจงข้อมูล (Trading Alert List)เข้ามา ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 3 หลักทรัพย์ ได้แก่ BMCL,TWZ และ SLC ก่อนหน้านั้น 1 วันก็มี CGD และ PAE ที่ต้องชี้แจงข้อมูล ส่วนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหุ้นหลายบริษัทที่ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งให้ซื้อขายด้วยเงินสด (Cash Balance) ได้แก่ AIM,AJ,CEN,GEN,SIM,SLC-W1,SOLAR,SYNTEC,TH และ TSF มีผลระหว่างวันที่ 14 มกราคม ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2556
         ขณะที่ บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน)หรือ EE ราคาหุ้นปรับขึ้นอย่างโดดเด่น แม้ยังติดบัญชีแคชบาลานซ์ ระหว่างวันที่ 7-25 มกราคม 2556 เช่นเดียวกับ บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX ,บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ที่มีการซื้อขายคึกคัก ทั้งที่หุ้นของทั้ง 2 บริษัทยังถูกสั่งให้ซื้อขายด้วยบัญชีเงินสดไปจนถึง 25 มกราคม 2556 เช่นเดียวกับ EE

***บล.เคทีบี พร้อมให้ความร่วมมือ ตลท. เบรคหุ้นปั่น

         นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าจากกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ (ตลท.)ได้ทำหนังสือถึงบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทุกแห่ง เพื่อขอความร่วมมือในการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการเก็งกำไรสูง รวมทั้งทบทวนความเข้าใจในหลักการของการซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยบัญชีเงินสดหรือแคชบาลานซ์นั้น ประเมินว่าการขอความร่วมมือกับโบรกเกอร์ของตลาดหลักทรัพย์เป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยให้นักเก็งกำไรมีความกังวลมากขึ้นในการเข้าไปปั่นหุ้นหรือทำราคาหุ้นให้สูงขึ้นผิดปกติ และประเด็นดังกล่าวจะก่อให้เกิดความมีเสถียรภาพของตลาดหุ้นไทย
        โดยที่ผ่านมามีหุ้นขนาดเล็กที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินความเป็นจริงจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักเก็งกำไรเข้าไปปั่นราคา ซึ่งเดิมทีก็มีการเข้าไปเก็งกำไรในลักษณะนี้ในตลาดหุ้นไทยอยู่บ้างเป็นปกติ แต่ในระยะเวลาช่วงหลังเริ่มมีหุ้นขนาดเล็กหลายตัวปรับตัวขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ ทั้งที่ไม่มีปัจจัยบวกที่ดีในแง่ของผลประกอบการและพัฒนาการใหม่ๆ โดยหุ้นบางบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินราคาที่เป็นจริง ซึ่งคาดว่าเป็นการเก็งกำไรของนักปั่นราคา โดยอาศัยภาพรวมของตลาดหุ้นไทยที่สดใส
        " การออกหนังสือของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นเรื่องที่ดี บล.เคทีบี ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือและปฎิบัติตาม เป็นปกติของโบรกเกอร์อยู่แล้วที่จะแนะนำให้นักลงทุนเล่นในหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต"นายปริญทร์ กล่าว
         ส่วนคำแนะนำการลงทุนในช่วงนี้ นักลงทุนควรเลือกเล่นหุ้นพื้นฐานดี และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต แต่ปกติบริษัทไม่แนะนำหุ้นที่ราคาปรับขึ้นโดยไม่มีพื้นฐานอยู่แล้ว ซึ่งเตือนนักลงทุนที่ไม่มีความรู้ต้องระมัดระวังไม่ควรเข้าไปเก็งกำไรในหุ้นดังกล่าว

***บล.โกลเบล็ก แนะ นลท.ใช้ดุลยพินิจก่อนลุยหุ้นร้อน

         นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยถึงกรณีที่ตลท.ขอความร่วมมือโบรกเกอร์ดูแลการซื้อขายหุ้นเก็งกำไรใกล้ชิดว่า เป็นไปได้ต้องการให้ออกกฎสั่งห้ามนักลงทุนเข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์ แม้ว่าหลักทรัพย์ดังกล่าวจะเป็นหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูง เนื่องจากการซื้อขายถือเป็นดุลยพินิจของนักลงทุนแต่ละราย ซึ่งในส่วนของบทวิเคราะห์ที่ออกมาเป็นเพียงการให้คำแนะนำและแนวโน้มเท่านั้น
         " หุ้นก็ขึ้นมาหมด ห้ามไม่ได้ ก็นักลงทุนจะเล่น ต่อให้ออกกฎหมายก็จะมีการพลิกแพลง จะติดเทรดเงินสดก็ติดไป พอผ่านก็วิ่งขึ้นไปอีก นี่คือการใช้กลวิธี เลี่ยง POP Trade ให้เล่นได้แค่บางกลุ่ม ที่หุ้นขึ้นมาก็มีเหตุผลคือตามใจคนเล่น เก็งกำไรปกติ แต่อาจตอบได้ยากว่าเป็นเรื่องอะไรที่พิเศษ นักลงทุนจะมีลักษณะที่เล่นแบบหนึ่ง บางกลุ่มติดหุ้นเป็นปี พอคราวนี้หุ้นขึ้นมาก็ขาย แล้วก็ไล่ราคาต่อ" นักวิเคราะห์ กล่าว
         อย่างไรก็ดี ข้อแนะนำในการลงทุนในภาวะแบบนี้ นักลงทุนควรมีวิจารณญาณในการพิจารณาเลือกหุ้นและประเมินความทันต่อสถานการณ์การลงทุนของตนเองเป็นหลัก โดยเฉพาะในกรณีที่ราคาหุ้นที่ไล่ราคาขึ้นไปสูงแล้วนั้น จะมีความสามารถในการขายออกในเวลาที่ตลาดฯ เกิดการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่

***เปิดโผ 65 หุ้น พี/อี สูงเกิน 40 เท่า

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ออกมาเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของ ตลท. พบว่า มีหุ้นที่มีอัตราราคาต่อกำไรต่อหุ้น(พี/อี) สูงเกิน 40 เท่า นั้น ทางทีมงาน eFinanceThai.com ได้ตรวจสอบข้อมูล ณ วันที่ 16 มกราคม 2556 พบว่า มีทั้งสิ้น 65 หลักทรัพย์ที่มีพี/อี สูงเกิน 40 เท่า ดังนี้

หลักทรัพย์       พี/อี
A                    42.02
AJ                   40.61
AQUA          89.82
ARIP             41.73
BEAUTY    45.44
BJC              45.4
BLAND         60.7
BROCK        76.37
BSM             75.61
BTNC          52.23
BTS            46.59
CEN            66.34
CENTEL    40.88
CK              1042.54
COLOR     78.43
CPALL       40.84
CSP             41.57
EE              917.97
EMC          43.16
FORTH     71.15
GBX          43.27
GFPT          68.19
GLOBAL     70.69
GRAMMY   43.61
IVL                 42.57
JTS              55.02
KC                  73.49
KKC              46.5
MILL            44.21
NEW          54.53
OFM          400.73
OHTL        44.99
OISHI        50.85
POST     139.04
PPC          48.3
PPS          45.66
PSL            86.18
ROBINS   43.65
ROJNA    126.05
SABINA    113.99
SAMCO     186.64
SEAFCO     59.82
SIM                181.18
SOLAR         47.12
SPCG            271.85
SSC              111.89
SST                45.28
STA                244.66
STPI              42.58
TCC                45.59
TFD                49.45
TH                  250.01
TICON          47.12
TOG             2148.87
TVD             44.23
TWZ            51.66
US                387
UV              164.9
UWC          59.99
VGI             52.29
VIH              49.37
VTE            148.51
WAVE        255.46
WHA          80.89
WIN             43.48

***หุ้นร้อนบวกทั่วหน้า

         ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น BMCL วานนี้ (17 ม.ค.56) พบว่าราคาหุ้นปิดที่ 0.99 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 6.45% มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 1,253.23 ล้านบาท
         CGD ราคาหุ้นปิดที่ 0.77 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท หรือ 4.05% มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 242.74 ล้านบาท
        SIM ราคาหุ้นปิดที่ 2.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 0.81% มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 36.31 ล้านบาท
        EE ราคาหุ้นปิดที่ 1.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 0.83% มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 44.58 ล้านบาท
        BTC ราคาหุ้นปิดที่ 0.93 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 19.23% มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 780.88 ล้านบาท
       TVD ราคาหุ้นปิดที่ 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 8.70% มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 180.56 ล้านบาท

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  หุ้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่