สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ท่านจะสวดบทมงคลสูตรครับ แต่โดยความจริงแล้วมงคลสูตรไม่เชิงเกี่ยวกับการทำน้ำพระพุทธมนต์เท่าไหร่ บทที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งมีที่มาในครั้งพุทธกาล ตามเรื่องในอรรถกถา) คือบทรัตนสูตร พระท่านจะสวดหลังจากจบมงคลสูตร ซึงบทนี้จะเริ่มด้วยคำว่า ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา เป็นต้น (ความจริงรัตนสูตรเริ่มด้วยคำว่า ยานีธะ ภูตานิ.... แต่ปกติพระท่านจะสวดย่อความ เพราะถ้าสวดเต็มทั้งบทจะใช้เวลานาน)
หลังจากนั้นท่านก็จะสวดรัตนสูตรไปเรื่อย ๆ และท่านจะไปดับเทียนเมื่อขึ้นคำว่า "เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา นิพพันติ ธีรา ยะถา ยัมปะทีโป อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ"
ซึ่งสาเหตุที่พระท่านดับเทียนทำน้ำพระพุทธมนต์ในบทรัตนสูตรท่อนนี้ เพราะมีความหมายว่า พระอรหันต์ผู้มีตัณหาสิ้นไปแล้ว ย่อมปรินิพพาน "ประดุจเปลวเทียนที่ดับไป" ตรงคำนี้พระท่านก็เลยเอานัยมาเป็นการดับเทียนทำน้ำพระพุทธมนต์
ขออภัยที่ตอบเกินคำถามของจขกท. แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์
หลังจากนั้นท่านก็จะสวดรัตนสูตรไปเรื่อย ๆ และท่านจะไปดับเทียนเมื่อขึ้นคำว่า "เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา นิพพันติ ธีรา ยะถา ยัมปะทีโป อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ"
ซึ่งสาเหตุที่พระท่านดับเทียนทำน้ำพระพุทธมนต์ในบทรัตนสูตรท่อนนี้ เพราะมีความหมายว่า พระอรหันต์ผู้มีตัณหาสิ้นไปแล้ว ย่อมปรินิพพาน "ประดุจเปลวเทียนที่ดับไป" ตรงคำนี้พระท่านก็เลยเอานัยมาเป็นการดับเทียนทำน้ำพระพุทธมนต์
ขออภัยที่ตอบเกินคำถามของจขกท. แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์
แสดงความคิดเห็น
ก่อนพระจะสวดมนต์บทหนึ่ง ท่านให้จุดน้ำมนต์เที่ยนเพื่ออะไรหรือครับ