ถ้าคุณทำธุรกิจมาสักพัก แต่ยังไม่มีเว็บไซต์ แล้วมีคนเห็นแววเอาไปจดก่อน ด้วยชื่อธุรกิจของเรา ทำอย่างไร?

ผมไม่รู้ว่าในเมืองไทยคิดอย่างไรกับการดำเนินธุรกิจแบบนี้ จึงอยากระดมความคิดจากผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญจากแขนงวิชาชีพต่าง ๆ ครับ .. คือ ประเด็นมีอยู่ว่า ในวงการสอนพิเศษทุกวันนี้ มีคนกระโดดลงมาร่วมแบ่งเค้กกันเยอะมาก บางคนก็ทำด้วยใจ แม้จะหาเงินแต่ก็อยากให้เด็กได้ครูที่ดีที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็มีบางคนที่ใช้เงินทำเรื่องด่างพร้อยที่อาจเรียกได้ ปราศจากจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)

นั่นคือ มีผู้มีอำนาจเงินบางคน เนื่องด้วยมีทีมงานบริหารเว็บไซต์อยู่ และมีเงินลงทุนจำนวนมาก นอกจากตนเองจะเดินหน้าทำเว็บไซต์เดิมของตนแล้ว ก็ยังเสาะแสวงหาดูว่าผู้ลงทุนรายใหม่รายย่อยเปิดสถาบันใดขึ้นมาบ้าง จากนั้นก็จะรีบชิงจดทะเบียน Domain Name เป็นชื่อที่คล้ายคลึงกัน แต่ลงทุนทำเว็บที่สวยกว่า และสมบูรณ์แบบมากกว่า พร้อมลงทุนการโฆษณาทั้งทางสื่อหลักและสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อสกัดการเกิดอยู่ของธุรกิจใหม่

จำได้ว่า แม้แต่ในกรณีของบ้านเราขนาดกาแฟสตาร์บังยังโดนฟ้อง หรือกรณีหลายกรณีในสหรัฐอเมริกาอย่าง facebook ก็ตามไล่บี้เว็บที่เปิดลงท้ายด้วยคำว่า book อยู่บ่อย ๆ ... ในเมืองไทยมีกฎหมายตรงนี้รองรับไหมครับ ? หรือว่าต้องยอมให้ปลาใหญ่กินปลาเล็กอยู่ร่ำไป ? หรือถึงเวลาที่สถาบันรายย่อยจะต้องรวมตัวกัน จัดการอะไรบางอย่างเสียที ?
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
คุณจขกท. คะ ก่อนอื่นคุณต้องยอมรับความจริงในการทำธุรกิจให้ได้ก่อนว่า การ copy ไอเดียเป็นปกติของสังคมโลก
ดูอย่างง่ายๆ  คำว่า iphone นี่โดนทั่วโลก ใช่ไหมคะ? ถ้า apple มัวแต่ตามไปฟ้องร้องคงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
แม้แต่ logo ของ apple เองก็โดนเอามาดัดแปลงให้เกลื่อนบนอินเตอร์เนท

เอาเวลามาคิดว่าทำอย่างไรให้ลูกค้าจดจำเราได้ดีกว่า ว่าเรามีอะไรที่แตกต่างจากคนที่เลียนแบบ สินค้าเรามีคุณภาพ
มีแบบที่ไม่เหมือนใคร บริการเร็ว เป็นต้น เราอาจจะเล็กเงินทุนไม่มากเหมือนเจ้าใหญ่ๆ  แต่เราก็มีเอกลักษณ์ของเราที่ลูกค้าบางคน
สนใจมากกว่ารายใหญ่ ก็ได้

เป็นกำลังใจให้ จขกท นะคะ ธุรกิจก็แข่งกันแหลกอย่างนี้แหละ นวม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่