รถหนอรถคันแรกอยู่ไหน เฮาจะตามไปยึดคืนมีการประเมินกันออกมาจากภาคธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ว่าปลายปีนี้จะเริ่มเกิดมหกรรมยึุดคืนรถคันแรกเพราะผ่อนกันไม่ไหว ก็จะผ่อนไหวได้ยังไงล่ะครับ(ตามภาพ)
ตามรายงานข่าวคือช่วงนโยบายนี้เต๊นรถมือสองยอดขายหดตัวอย่างรุนแรง แต่ว่าเจ้าของเต๊นรถรอรถหลุดจากโครงการนี้มาขายต่อในส่วนรถมือสอง และประเมินกันหลายฝ่ายว่าปลายปีนี้จะเริ่มเห็นรถหลุดเยอะ ไอ้ตรงรถหลุดนี่แหละมันหลุดจากการนำยึดและนำขายของไฟแนน ปัญหาที่ต้องมาเขียนในบทความเชิงวิเคราะห์แบบขัดใจ ใครหลายคน
กระบวนการปล้นผู้บริโภคของไฟแนน แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้น 1
การติดตามทางถามหนี้ในกรณีเราขาดการส่งค่างวดรถ ในส่วนนี้ให้สังเกตุดีๆจะมีการบวกเพิ่มค่าส่งหนังสือ(กระดาษแผ่นเดียว) แล้วบอกค่าทวงถาม 500 บาทให้จ่ายเพิ่มในการชำระครั้งต่อๆไปด้วยนะ เจ้าคนซื้อรถหน้าโง่ เพราะค่าทวงหนี้กฎหมายไม่มีให้นะครับ แม้ตกลงกันไว้ในสัญญาก็อาจจะถือได้ว่าเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม(ที่เห็นในการฟ้องคดีต่อศาลเงินในส่วนนี้ศาลไม่ให้นะครับเพราะถือว่าเอาเปรียบคู่สัญญาเกินควร)แถมเวลาเราผ่อนไปในยอดค่าชำระเท่าเดิมไม่เพิ่มค่าทวงหนี้ให้เขา เขาหักค่าทวงหนี้ก่อนเอาไปจ่ายค่างวดรถให้เราอีกนะบ้างบริษัท หรือบ้างบริษัทให้เราจ่ายค่าทวงหนี้ก่อนถึงจะให้ผ่อนค่างวดรถได้โดยอ้างการยึดรถยนต์มาขู่
ขั้น 2
เอาล่ะถึงช่วงสำคัญแล้วเจ้าหน้าที่ถือกุญแจจะมายึดรถทำไงต่อดีหว่าาาา รถแสนรักขับอวดชาวบ้านอยู่ทุกวันกำลังจะถูกเจ้าหน้าที่ไฟแนนยึด จุดนี้สำคัญมากขอดูเอกสารทุกอย่างก่อนนะครับ เรามีสิทธิไม่ให้รถยนต์ได้นะโดยอ้างว่า "ไม่รู้ใช่เจ้าหน้าที่ของบริษัทจริงๆหรือเปล่า" อ้าวหัวหมออีกนิ ทนายนี่ ก็มันทำได้จริงๆโดยบังคับให้เขาไปเรียกตำรวจมาและไปลงบันทึกประจำวันก่อนและตอนมายึดรถให้มาพร้อมตำรวจด้วย เราถึงเชื่อจนปล่อยรถไป จุดนี้หลายคนไม่รู้ แต่สำคัญมากเกิดเจ้าหน้าที่ๆมาแอบอ้างล่ะ รถคุณหายเลยนะ ผมเลยแนะนำว่า 1)บอกไปให้ลงบันทึกประจำวันก่อนว่าจะมายึดรถยนต์คันนี้ พร้อมแสดงเอกสารตัวแทนของบริษัทอย่างละเอียดตามกฎหมาย(หนังสือรับรองบริษัท ตลอดจนหนังสือมอบอำนาจให้กระทำการแทนบริษัทได้ พร้อมบัตรพนักงาน)ถ้าทำครบสามข้อแล้วค่อยปล่อยรถให้มันยึดไป แต่ขอเตือนไฟแนนซ์นี่ทำตัวอย่างโจร คนทวงรถบางคนพกปืนมาขู่เราอีก ถ้าเจอแบบนี้แจงความคดีอาญาจับพนักงานกับบริษัทไฟแนนซ์เลย เพราะไม่มีกฎหมายให้เอาปืนมาขู่เราได้ หรือถ้าจะทำร้างร่างกายเราก็ผิดอาญา(รถแสนรักยอมโดนตบเพื่อเธอ) กรณีอยู่ๆตื่นมาแล้วรถยนต์หายนี่เรื่องใหญ่นะ หายที่ว่าคือกรณีไฟแนนซ์ยึดรถยนต์เราไปแล้วนะโดยไม่แจ้งด้วยอยู่ๆมาขับไป ถามว่าเขามีสิทธิทำได้ตามกฎหมายไหม คำตอบคือไม่มีนะแต่เพราะผลของสัญญาที่เราเขียนไปตอนซื้อรถทำให้เขาทำอย่างนั้นได้เท่านั้นเอง แต่ทำได้ระดับหนึ่งคือถ้ารถแสนรักจอดอยู่ในบ้านเจ้าหน้าที่ทวงรถยนต์ไม่มีสิทธิ์บุกเข้ามายึดรถเราไปนะครับ ถ้าเข้ามามากกว่าสองคนก็ถือว่าร่วมกันบุกรุกในเคหสถานโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี เพราะฉะนั้นท่านที่กำลังหาช่องไม่ให้โดยยึดรถแสนรักอยู่อีกวิธีหนึ่งคือจอดรถในบริเวณมีรั้วเปิดปิดได้จะดีที่สุด อย่างน้อยก็สร้างภาระให้เขาเอารถเราออกไปได้ยากกว่าจอดตามหอพักหรือริมถนน เพราะที่จอดรถหอพักบ้างที่ก็เป็นที่สาธารณะบุกรุกเข้ามาได้ไม่ผิดกฎหมายแต่บางที่ก็ผิดแต่คนเอาผิดได้คือเ้จ้าของหอพักไม่ใช่เรา
ขั้น 3
รถที่ได้ไฟแนนซ์เขาเอาไปทำไรหว่า
เขาก็เอาขายดิครับ ถามได้ เขาจะเอามาขับเองก็ไม่ได้ทำให้เงินต้นที่ปล่อยกู้ลูกค้าคืนไปได้คืนมาแต่อย่างใด จะเอาไปทำธุรกิจให้เช่ารถยนต์ก็ไม่ได้เพราะไม่มีที่จอด(นี่เรื่องจริง)
เขาจะมีการจัดประมูลราคารถยนต์พวกนี้อยู่ในสถานที่ใดซักที่หนึ่ง ซึ่งเจ้าของรถไม่สามารถไปรับรู้ได้นอกจากจะติดตามรถแสนรักอย่างสุดใจ ประหนึ่งเมียหนีแล้วออกตามหา ประเด็นมันอยู่ตรงราคาครับ คุณคิดว่าราคารถที่ยึดไปจะเอาไปขายได้เท่าไร ตรงนี้สำคัญนะเราจะเคยได้ยินว่ามีคนวงในไฟแนนซ์รับซื้อรถหลุดพวกนี้ไว้เองเพราะจะเอามาประมูลขายราคาถูกกว่าท้องตลาด เนื่องจากระบบการประมูลรถไม่ได้เปิดเผยให้เจ้าของทราบนี่ว่าจะขายที่ไหน ราคาเริ่มต้นที่เท่าไร และขายเมื่อไร ตลอดจนสำคัญที่สุดไม่แจ้งให้ทราบว่าราคาประมูลหากขาดเท่าไรจะดำเนินการฟ้องเอากับคนเช่าซื้อและคนค้ำประกันต่อ แต่ผมยังไม่เคยเห็นกรณีขายราคาดีเกินจนคนเช่าซื้อได้เงินคืนจากไฟแนนซ์นะ(หรืออาจจะะมีแต่ผมไม่รู้)
ผมไม่แน่ใจว่าภาษีรถคันแรกเรียกคืนตรงนี้เลยหรือเปล่าเพราะยังไม่เห็นประกาศชัดๆ แต่ตามข่าวคิดว่าขายได้เท่าไรหักคืนภาษีก่อนเลยขั้น 4
ฟ้องคดีต่อศาล เรียกค่านั้นค่านี่ สารพัด โดยคิดบนฐานว่ายอดจัดไฟแนนซ์เท่าไร ผ่อนมาเท่าไร เริ่มเบี้ยวค่างวดตั้งแต่เมื่อไร(ระยะเวลาดอกเบี้ยนี่ผมไม่ชัวร์แต่ละบริษัทเริ่มนับวันไหนกันเพราะขึ้นอยู่กับนโยบายด้วยแต่ปกติจะหลังขายรถไปแล้ว) รถยนต์ขายได้เท่าไร ค่าติดตามทวงถามกี่ครั้งๆล่ะกี่บาท ค่าทนายความ ค่าขึ้นศาล ค่าขาดโอกาศทางธุรกิจ
ถ้ายอดไฟแนนซ์ 6 แสน ผ่อนไปสองแสนรถขายได้สามแสน หักภาษีรถคันแรกไป 1 แสน เหลือ 2 แสน เท่ากับต้องจ่ายคืนไฟแนนซ์เปล่าๆ 2 แสนบาทไม่รวมค่าขาดโอกาศและค่าอื่นๆพร้อมดอกเบี้ยชั้นศาลถ้ามาถึงขั้นนี้สู้ได้ไม่กี่ประเด็น คือ
ไปดูว่าราคาตอนขายรถไปขายตามราคาตลาดจริงๆหรือเปล่า สำคัญนะรถสี่แสน มันไปขายสามแสนไม่ได้เพราะส่วนต่างนี้เขามาฟ้องเราอีก
ที่สำคัญดูด้วยว่าค่าอย่างอื่นที่เรียกว่าเป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นธรรมอยู่แ้ล้วเพราะเป็นสัญญาฝ่ายเดียว ค่านั้นค่านี่ที่ฟ้องมานะศาลไม่ค่อยให้หรอกเพราะศาลสงสารประชาชนผู้บริโภค จะให้ก็ให้ส่วนของดอกเบี้ย ส่วนค่าอย่างอื่นต้องมาพิสูจน์กันว่าเสียหายจริงไหมคนซื้อและคนค้ำประกันโดนกันทั่วหน้า เพราะถือว่าเป็นลูกหนี้ร่วม ตามกฎหมายคนค้ำประกันก็เหมือนคนซื้อเอง ถ้าคนซื้อไม่จ่ายคนค้ำก็ต้องจ่ายแทน ที่สำคัญถ้ามีหมายศาลมาอย่าลืมหาทนายไปศาลเพื่อให้ช่วยดูนั้นดูนี่ให้ หมอกับเหมือนทนายความ มีปัญหาก็ต้องเสียเงินให้ไปดูให้เพียงแต่มันไม่มีทนายความ 30 บาทเท่านั้นแหละครับ
copyมาจากเฟสของ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์
เปิดกระบวนการปล้นผู้บริโภคของ สินเชื่อรถยนต์(ไฟแนนซ์) รู้ก่อนโดนยึด
ตามรายงานข่าวคือช่วงนโยบายนี้เต๊นรถมือสองยอดขายหดตัวอย่างรุนแรง แต่ว่าเจ้าของเต๊นรถรอรถหลุดจากโครงการนี้มาขายต่อในส่วนรถมือสอง และประเมินกันหลายฝ่ายว่าปลายปีนี้จะเริ่มเห็นรถหลุดเยอะ ไอ้ตรงรถหลุดนี่แหละมันหลุดจากการนำยึดและนำขายของไฟแนน ปัญหาที่ต้องมาเขียนในบทความเชิงวิเคราะห์แบบขัดใจ ใครหลายคน
กระบวนการปล้นผู้บริโภคของไฟแนน แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้น 1
การติดตามทางถามหนี้ในกรณีเราขาดการส่งค่างวดรถ ในส่วนนี้ให้สังเกตุดีๆจะมีการบวกเพิ่มค่าส่งหนังสือ(กระดาษแผ่นเดียว) แล้วบอกค่าทวงถาม 500 บาทให้จ่ายเพิ่มในการชำระครั้งต่อๆไปด้วยนะ เจ้าคนซื้อรถหน้าโง่ เพราะค่าทวงหนี้กฎหมายไม่มีให้นะครับ แม้ตกลงกันไว้ในสัญญาก็อาจจะถือได้ว่าเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม(ที่เห็นในการฟ้องคดีต่อศาลเงินในส่วนนี้ศาลไม่ให้นะครับเพราะถือว่าเอาเปรียบคู่สัญญาเกินควร)แถมเวลาเราผ่อนไปในยอดค่าชำระเท่าเดิมไม่เพิ่มค่าทวงหนี้ให้เขา เขาหักค่าทวงหนี้ก่อนเอาไปจ่ายค่างวดรถให้เราอีกนะบ้างบริษัท หรือบ้างบริษัทให้เราจ่ายค่าทวงหนี้ก่อนถึงจะให้ผ่อนค่างวดรถได้โดยอ้างการยึดรถยนต์มาขู่
ขั้น 2
เอาล่ะถึงช่วงสำคัญแล้วเจ้าหน้าที่ถือกุญแจจะมายึดรถทำไงต่อดีหว่าาาา รถแสนรักขับอวดชาวบ้านอยู่ทุกวันกำลังจะถูกเจ้าหน้าที่ไฟแนนยึด จุดนี้สำคัญมากขอดูเอกสารทุกอย่างก่อนนะครับ เรามีสิทธิไม่ให้รถยนต์ได้นะโดยอ้างว่า "ไม่รู้ใช่เจ้าหน้าที่ของบริษัทจริงๆหรือเปล่า" อ้าวหัวหมออีกนิ ทนายนี่ ก็มันทำได้จริงๆโดยบังคับให้เขาไปเรียกตำรวจมาและไปลงบันทึกประจำวันก่อนและตอนมายึดรถให้มาพร้อมตำรวจด้วย เราถึงเชื่อจนปล่อยรถไป จุดนี้หลายคนไม่รู้ แต่สำคัญมากเกิดเจ้าหน้าที่ๆมาแอบอ้างล่ะ รถคุณหายเลยนะ ผมเลยแนะนำว่า 1)บอกไปให้ลงบันทึกประจำวันก่อนว่าจะมายึดรถยนต์คันนี้ พร้อมแสดงเอกสารตัวแทนของบริษัทอย่างละเอียดตามกฎหมาย(หนังสือรับรองบริษัท ตลอดจนหนังสือมอบอำนาจให้กระทำการแทนบริษัทได้ พร้อมบัตรพนักงาน)ถ้าทำครบสามข้อแล้วค่อยปล่อยรถให้มันยึดไป แต่ขอเตือนไฟแนนซ์นี่ทำตัวอย่างโจร คนทวงรถบางคนพกปืนมาขู่เราอีก ถ้าเจอแบบนี้แจงความคดีอาญาจับพนักงานกับบริษัทไฟแนนซ์เลย เพราะไม่มีกฎหมายให้เอาปืนมาขู่เราได้ หรือถ้าจะทำร้างร่างกายเราก็ผิดอาญา(รถแสนรักยอมโดนตบเพื่อเธอ) กรณีอยู่ๆตื่นมาแล้วรถยนต์หายนี่เรื่องใหญ่นะ หายที่ว่าคือกรณีไฟแนนซ์ยึดรถยนต์เราไปแล้วนะโดยไม่แจ้งด้วยอยู่ๆมาขับไป ถามว่าเขามีสิทธิทำได้ตามกฎหมายไหม คำตอบคือไม่มีนะแต่เพราะผลของสัญญาที่เราเขียนไปตอนซื้อรถทำให้เขาทำอย่างนั้นได้เท่านั้นเอง แต่ทำได้ระดับหนึ่งคือถ้ารถแสนรักจอดอยู่ในบ้านเจ้าหน้าที่ทวงรถยนต์ไม่มีสิทธิ์บุกเข้ามายึดรถเราไปนะครับ ถ้าเข้ามามากกว่าสองคนก็ถือว่าร่วมกันบุกรุกในเคหสถานโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี เพราะฉะนั้นท่านที่กำลังหาช่องไม่ให้โดยยึดรถแสนรักอยู่อีกวิธีหนึ่งคือจอดรถในบริเวณมีรั้วเปิดปิดได้จะดีที่สุด อย่างน้อยก็สร้างภาระให้เขาเอารถเราออกไปได้ยากกว่าจอดตามหอพักหรือริมถนน เพราะที่จอดรถหอพักบ้างที่ก็เป็นที่สาธารณะบุกรุกเข้ามาได้ไม่ผิดกฎหมายแต่บางที่ก็ผิดแต่คนเอาผิดได้คือเ้จ้าของหอพักไม่ใช่เรา
ขั้น 3
รถที่ได้ไฟแนนซ์เขาเอาไปทำไรหว่า
เขาก็เอาขายดิครับ ถามได้ เขาจะเอามาขับเองก็ไม่ได้ทำให้เงินต้นที่ปล่อยกู้ลูกค้าคืนไปได้คืนมาแต่อย่างใด จะเอาไปทำธุรกิจให้เช่ารถยนต์ก็ไม่ได้เพราะไม่มีที่จอด(นี่เรื่องจริง)
เขาจะมีการจัดประมูลราคารถยนต์พวกนี้อยู่ในสถานที่ใดซักที่หนึ่ง ซึ่งเจ้าของรถไม่สามารถไปรับรู้ได้นอกจากจะติดตามรถแสนรักอย่างสุดใจ ประหนึ่งเมียหนีแล้วออกตามหา ประเด็นมันอยู่ตรงราคาครับ คุณคิดว่าราคารถที่ยึดไปจะเอาไปขายได้เท่าไร ตรงนี้สำคัญนะเราจะเคยได้ยินว่ามีคนวงในไฟแนนซ์รับซื้อรถหลุดพวกนี้ไว้เองเพราะจะเอามาประมูลขายราคาถูกกว่าท้องตลาด เนื่องจากระบบการประมูลรถไม่ได้เปิดเผยให้เจ้าของทราบนี่ว่าจะขายที่ไหน ราคาเริ่มต้นที่เท่าไร และขายเมื่อไร ตลอดจนสำคัญที่สุดไม่แจ้งให้ทราบว่าราคาประมูลหากขาดเท่าไรจะดำเนินการฟ้องเอากับคนเช่าซื้อและคนค้ำประกันต่อ แต่ผมยังไม่เคยเห็นกรณีขายราคาดีเกินจนคนเช่าซื้อได้เงินคืนจากไฟแนนซ์นะ(หรืออาจจะะมีแต่ผมไม่รู้)
ผมไม่แน่ใจว่าภาษีรถคันแรกเรียกคืนตรงนี้เลยหรือเปล่าเพราะยังไม่เห็นประกาศชัดๆ แต่ตามข่าวคิดว่าขายได้เท่าไรหักคืนภาษีก่อนเลยขั้น 4
ฟ้องคดีต่อศาล เรียกค่านั้นค่านี่ สารพัด โดยคิดบนฐานว่ายอดจัดไฟแนนซ์เท่าไร ผ่อนมาเท่าไร เริ่มเบี้ยวค่างวดตั้งแต่เมื่อไร(ระยะเวลาดอกเบี้ยนี่ผมไม่ชัวร์แต่ละบริษัทเริ่มนับวันไหนกันเพราะขึ้นอยู่กับนโยบายด้วยแต่ปกติจะหลังขายรถไปแล้ว) รถยนต์ขายได้เท่าไร ค่าติดตามทวงถามกี่ครั้งๆล่ะกี่บาท ค่าทนายความ ค่าขึ้นศาล ค่าขาดโอกาศทางธุรกิจ
ถ้ายอดไฟแนนซ์ 6 แสน ผ่อนไปสองแสนรถขายได้สามแสน หักภาษีรถคันแรกไป 1 แสน เหลือ 2 แสน เท่ากับต้องจ่ายคืนไฟแนนซ์เปล่าๆ 2 แสนบาทไม่รวมค่าขาดโอกาศและค่าอื่นๆพร้อมดอกเบี้ยชั้นศาลถ้ามาถึงขั้นนี้สู้ได้ไม่กี่ประเด็น คือ
ไปดูว่าราคาตอนขายรถไปขายตามราคาตลาดจริงๆหรือเปล่า สำคัญนะรถสี่แสน มันไปขายสามแสนไม่ได้เพราะส่วนต่างนี้เขามาฟ้องเราอีก
ที่สำคัญดูด้วยว่าค่าอย่างอื่นที่เรียกว่าเป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นธรรมอยู่แ้ล้วเพราะเป็นสัญญาฝ่ายเดียว ค่านั้นค่านี่ที่ฟ้องมานะศาลไม่ค่อยให้หรอกเพราะศาลสงสารประชาชนผู้บริโภค จะให้ก็ให้ส่วนของดอกเบี้ย ส่วนค่าอย่างอื่นต้องมาพิสูจน์กันว่าเสียหายจริงไหมคนซื้อและคนค้ำประกันโดนกันทั่วหน้า เพราะถือว่าเป็นลูกหนี้ร่วม ตามกฎหมายคนค้ำประกันก็เหมือนคนซื้อเอง ถ้าคนซื้อไม่จ่ายคนค้ำก็ต้องจ่ายแทน ที่สำคัญถ้ามีหมายศาลมาอย่าลืมหาทนายไปศาลเพื่อให้ช่วยดูนั้นดูนี่ให้ หมอกับเหมือนทนายความ มีปัญหาก็ต้องเสียเงินให้ไปดูให้เพียงแต่มันไม่มีทนายความ 30 บาทเท่านั้นแหละครับ
copyมาจากเฟสของ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์