ที่มา: หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556
ชมรมการท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์เผย แก๊งล่าพะยูนออกอาละวาดทะเลตรังอีกครั้ง มีออเดอร์จากนอก เอาเฉพาะหัว ให้ราคา 1.5 หมื่นบาท เอาไปทำยาโด๊ป เชื่ออีกไม่กี่ปีสูญพันธุ์แน่
นายอิสมาแอน เบ็ญสะอาด แกนนำชมรมการท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ ชุมชนเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า ในปี 2555 ถือเป็นช่วงที่วิกฤติที่สุดของพะยูน สัตว์อนุรักษ์ที่มีชื่อเสียงของ จ.ตรัง เนื่องจากพบการตายไปมาถึง 17 ตัว ทั้งนี้พบซากแล้ว 11 ตัว สวนทางกับการพยายามจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พะยูน แต่กลับไม่สามารถปกปักรักษาสัตว์ทะเลชนิดนี้เอาไว้ได้อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ พะยูนที่ตายมีอายุเฉลี่ย 1-20 ปี สาเหตุมาจากปัญหาเดิมๆ คือ เครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย เช่น อวนปลากระเบน หรือเบ็ดราวไว ที่ยังคงพบเห็นได้ในบางพื้นที่ของ อ.กันตัง และ อ.หาดสำราญ โดยเจ้าหน้าที่มีข้อมูลชัดเจน แต่ไม่มีอำนาจดำเนินการอะไร เนื่องจากปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนกันของหลายหน่วยงาน ประกอบกับความไม่จริงใจ หรือการใส่เกียร์ว่าง รวมทั้งอาจจะมีเรื่องของประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
"ตอนนี้ขบวนการล่าพะยูนกำลังเริ่มรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากมีออเดอร์จากต่างประเทศเข้ามา แถมนายทุนยังให้ราคาสูง เฉพาะส่วนหัวของพะยูนมีราคาในตลาดมืดสูงถึง 1.5 หมื่นบาท เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมของยาชูกำลัง นอกจากนั้นยังมีการนำซากแอบไปฝังดินให้เปื่อยยุ่ย แล้วรอวันขุดกระดูกขึ้นมา เพื่อส่งขายไปยังต่างประเทศ เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมของยาโด๊ปอีกเช่นกัน ซึ่งจากการคาดการณ์ มีพะยูนเหลืออยู่ในทะเลตรังประมาณ 150 ตัว ตายไปปีละ 15-17 ตัว หากยังปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีพะยูนจะสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย แม้จะมีหน่วยงานด้านอนุรักษ์และมีกฎหมายมากมายเพียงใด แต่หากไม่มีแกนนำหลักหรือมีแผนงานที่กำหนดมาตรการในระยะยาวอย่างชัดเจน ทั้งพะยูนและทรัยพากรทางทะเลต่างๆ ก็จะถูกทำลายจนหมดไป" นายอิสมาแอนกล่าว
นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กล่าวถึงสถานการณ์พะยูนในปัจจุบันว่า มีแนวโน้มที่ค่อนข้างจะวิกฤติ โดยในปี 2555 พบพะยูนตายไปแล้ว 11 ตัว โดยเป็นพะยูนใน จ.ตรัง 10 ตัว และ จ.ภูเก็ต 1 ตัว สาเหตุสำคัญมาจากการใช้เครื่องมือการทำประมงประเภทอวน ที่ทำให้พะยูนว่ายน้ำเข้าไปติด และไม่สามารถออกมาได้ เมื่อไม่มีอากาศหายใจก็จะตายในที่สุด
แก๊งล่า 'พะยูน' ออกอาละวาด นักอนุรักษ์เชื่อสูญพันธุ์แน่
ชมรมการท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์เผย แก๊งล่าพะยูนออกอาละวาดทะเลตรังอีกครั้ง มีออเดอร์จากนอก เอาเฉพาะหัว ให้ราคา 1.5 หมื่นบาท เอาไปทำยาโด๊ป เชื่ออีกไม่กี่ปีสูญพันธุ์แน่
นายอิสมาแอน เบ็ญสะอาด แกนนำชมรมการท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ ชุมชนเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า ในปี 2555 ถือเป็นช่วงที่วิกฤติที่สุดของพะยูน สัตว์อนุรักษ์ที่มีชื่อเสียงของ จ.ตรัง เนื่องจากพบการตายไปมาถึง 17 ตัว ทั้งนี้พบซากแล้ว 11 ตัว สวนทางกับการพยายามจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พะยูน แต่กลับไม่สามารถปกปักรักษาสัตว์ทะเลชนิดนี้เอาไว้ได้อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ พะยูนที่ตายมีอายุเฉลี่ย 1-20 ปี สาเหตุมาจากปัญหาเดิมๆ คือ เครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย เช่น อวนปลากระเบน หรือเบ็ดราวไว ที่ยังคงพบเห็นได้ในบางพื้นที่ของ อ.กันตัง และ อ.หาดสำราญ โดยเจ้าหน้าที่มีข้อมูลชัดเจน แต่ไม่มีอำนาจดำเนินการอะไร เนื่องจากปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนกันของหลายหน่วยงาน ประกอบกับความไม่จริงใจ หรือการใส่เกียร์ว่าง รวมทั้งอาจจะมีเรื่องของประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
"ตอนนี้ขบวนการล่าพะยูนกำลังเริ่มรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากมีออเดอร์จากต่างประเทศเข้ามา แถมนายทุนยังให้ราคาสูง เฉพาะส่วนหัวของพะยูนมีราคาในตลาดมืดสูงถึง 1.5 หมื่นบาท เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมของยาชูกำลัง นอกจากนั้นยังมีการนำซากแอบไปฝังดินให้เปื่อยยุ่ย แล้วรอวันขุดกระดูกขึ้นมา เพื่อส่งขายไปยังต่างประเทศ เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมของยาโด๊ปอีกเช่นกัน ซึ่งจากการคาดการณ์ มีพะยูนเหลืออยู่ในทะเลตรังประมาณ 150 ตัว ตายไปปีละ 15-17 ตัว หากยังปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีพะยูนจะสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย แม้จะมีหน่วยงานด้านอนุรักษ์และมีกฎหมายมากมายเพียงใด แต่หากไม่มีแกนนำหลักหรือมีแผนงานที่กำหนดมาตรการในระยะยาวอย่างชัดเจน ทั้งพะยูนและทรัยพากรทางทะเลต่างๆ ก็จะถูกทำลายจนหมดไป" นายอิสมาแอนกล่าว
นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กล่าวถึงสถานการณ์พะยูนในปัจจุบันว่า มีแนวโน้มที่ค่อนข้างจะวิกฤติ โดยในปี 2555 พบพะยูนตายไปแล้ว 11 ตัว โดยเป็นพะยูนใน จ.ตรัง 10 ตัว และ จ.ภูเก็ต 1 ตัว สาเหตุสำคัญมาจากการใช้เครื่องมือการทำประมงประเภทอวน ที่ทำให้พะยูนว่ายน้ำเข้าไปติด และไม่สามารถออกมาได้ เมื่อไม่มีอากาศหายใจก็จะตายในที่สุด