เรื่องมีอยู่ว่า น้องชายของลูกจ้าง เพิ่งพ้นเกณฑ์ทหารมาไม่นาน ครอบครัวมีกัน 3 คน คือ แม่ที่แก่แล้ว พี่สาวอายุ 30 กว่า และน้องชาย อายุ 20 ต้นๆ
หลังจากออกจากทหาร ก็ได้ไปสมัครทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตำแหน่งเด็กเสิร์ฟ แต่ที่บ้านฐานะไม่ดีจึงรับงานหลายกะ
และได้ร่วมเวรกับอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไร จึงมีการแกล้งกันไปมาหลายครั้ง
จนวันนี้ เหตุเกิดขึ้นช่วงบ่าย ที่ทั้งคู่กำลังออกเวร จึงเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ในห้องล๊อกเกอร์ น้องชายเห็นอีกคนเข้าไปอาบน้ำและถอดชุดไว้ด้านนอก จึงคิดที่จะแกล้งด้วยการเอากางเกงไปซ่อนในล๊อกเกอร์ของตัวเอง
เมื่อคนนั้นออกมา ก็รู้ว่าน้องชายนี้แกล้ง จึงไปเปิดล๊อกเกอร์ของคนน้องและพบกางเกงซ่อนอยู่ ในกางเกงมีกระเป๋าเงินอยู่มีเงินอยู่ 6,000 บาท
จึงออกไปต่อว่า และบอกว่าจะแจ้งความ
หัวหน้างานได้เข้ามาไกล่เกลี่ย บอกว่าแค่เรื่องแกล้งกันไม่น่าจะให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร น้องชายก็กล่าวขอโทษ และยกมือขอโทษแล้ว ของทั้งหมดก็คืนให้ ไม่มีอะไรหายไป
แต่คนนั้นยังไม่ยินยอม และโทรเรียกตำรวจมา แจ้งความจับข้อหาลักทรัพย์
ระหว่างนั้น น้องชายได้บอกให้หัวหน้ากองทหาร ที่สนิทสนมกันมาช่วยพูดอีกที
จนตำรวจมา คนนั้นก็ได้แจ้งความว่าลักทรัพย์ เมื่อตำรวจฟังแล้วก็คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย พยายามจะไกล่เกลี่ยแต่ คนนั้นไม่ยินยอมและบอกว่า ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่ถ้าจ่ายค่าเสียหายให้ 50,000 บาท จะยอมความ
แต่เนื่องจากบ้านของน้องคนนี้ ยากจนมาก บ้านเช่าที่เคยเช่าถูกก็โดนไล่ออกมา จึงไม่มีเงินจะจ่าย และเมื่อเจ้าทุกข์จะเอาเรื่องตำรวจจึงต้องทำตามนั้น
ตอนนี้ถือว่าโดนไล่ออกจากงานแล้ว และต้องอยู่ในห้องขัง
หัวหน้ากองไปคุยกับสารวัตร ก็บอกว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก เพราะพึ่งมีคดีครั้งแรก วันพฤหัสนี้คงขึ้นศาลและอาจจะรอลงอาญา
พอจะมีทางช่วยน้องคนนี้ได้บ้างไหมครับ และถ้าขึ้นศาลแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะครอบครัวน้องคนนี้ก็ยากลำบากมาก ตอนนี้ยังไม่ได้บอกแม่ของน้องเขา เพราะกลัวจะช๊อค แถมยังมีโรคประจำตัวอีกด้วย
ตอนนี้น้องคนนี้ยังอยู่ห้องขังของ สน. อยู่เลย
เข้าใจว่าผิดจริง แต่ไม่รู้ว่าจะหนักถึงขั้นนี้ คงเป็นแค่ความคึกคะนองของเด็กหนุ่มจนเกิดเรื่องใหญ่โต
ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ด้วยนะครับ ไม่รู้จะเป็นยังไง สงสารครอบครัวนี้ครับ
(รบกวนปรึกษาครับ) แกล้งกันด้วยความคึกคะนอง จนต้องติดคุก ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
หลังจากออกจากทหาร ก็ได้ไปสมัครทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตำแหน่งเด็กเสิร์ฟ แต่ที่บ้านฐานะไม่ดีจึงรับงานหลายกะ
และได้ร่วมเวรกับอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไร จึงมีการแกล้งกันไปมาหลายครั้ง
จนวันนี้ เหตุเกิดขึ้นช่วงบ่าย ที่ทั้งคู่กำลังออกเวร จึงเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ในห้องล๊อกเกอร์ น้องชายเห็นอีกคนเข้าไปอาบน้ำและถอดชุดไว้ด้านนอก จึงคิดที่จะแกล้งด้วยการเอากางเกงไปซ่อนในล๊อกเกอร์ของตัวเอง
เมื่อคนนั้นออกมา ก็รู้ว่าน้องชายนี้แกล้ง จึงไปเปิดล๊อกเกอร์ของคนน้องและพบกางเกงซ่อนอยู่ ในกางเกงมีกระเป๋าเงินอยู่มีเงินอยู่ 6,000 บาท
จึงออกไปต่อว่า และบอกว่าจะแจ้งความ
หัวหน้างานได้เข้ามาไกล่เกลี่ย บอกว่าแค่เรื่องแกล้งกันไม่น่าจะให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร น้องชายก็กล่าวขอโทษ และยกมือขอโทษแล้ว ของทั้งหมดก็คืนให้ ไม่มีอะไรหายไป
แต่คนนั้นยังไม่ยินยอม และโทรเรียกตำรวจมา แจ้งความจับข้อหาลักทรัพย์
ระหว่างนั้น น้องชายได้บอกให้หัวหน้ากองทหาร ที่สนิทสนมกันมาช่วยพูดอีกที
จนตำรวจมา คนนั้นก็ได้แจ้งความว่าลักทรัพย์ เมื่อตำรวจฟังแล้วก็คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย พยายามจะไกล่เกลี่ยแต่ คนนั้นไม่ยินยอมและบอกว่า ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่ถ้าจ่ายค่าเสียหายให้ 50,000 บาท จะยอมความ
แต่เนื่องจากบ้านของน้องคนนี้ ยากจนมาก บ้านเช่าที่เคยเช่าถูกก็โดนไล่ออกมา จึงไม่มีเงินจะจ่าย และเมื่อเจ้าทุกข์จะเอาเรื่องตำรวจจึงต้องทำตามนั้น
ตอนนี้ถือว่าโดนไล่ออกจากงานแล้ว และต้องอยู่ในห้องขัง
หัวหน้ากองไปคุยกับสารวัตร ก็บอกว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก เพราะพึ่งมีคดีครั้งแรก วันพฤหัสนี้คงขึ้นศาลและอาจจะรอลงอาญา
พอจะมีทางช่วยน้องคนนี้ได้บ้างไหมครับ และถ้าขึ้นศาลแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะครอบครัวน้องคนนี้ก็ยากลำบากมาก ตอนนี้ยังไม่ได้บอกแม่ของน้องเขา เพราะกลัวจะช๊อค แถมยังมีโรคประจำตัวอีกด้วย
ตอนนี้น้องคนนี้ยังอยู่ห้องขังของ สน. อยู่เลย
เข้าใจว่าผิดจริง แต่ไม่รู้ว่าจะหนักถึงขั้นนี้ คงเป็นแค่ความคึกคะนองของเด็กหนุ่มจนเกิดเรื่องใหญ่โต
ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ด้วยนะครับ ไม่รู้จะเป็นยังไง สงสารครอบครัวนี้ครับ