สตรีในสามก๊ก (๑)

กระทู้สนทนา
สามก๊กฉบับฮูหยิน

สตรีในสามก๊ก (๑)


เล่าเซี่ยงชุน

บทบาทของตัวละครฝ่ายหญิงในเรื่องสามก๊กนั้น เมื่อได้พยายามพลิกค้นหาทบทวนดูมากกว่าสามครั้งสามคราแล้ว ก็ได้พบว่ามีชื่อเสียงอยู่หลายคน

นอกจากระดับนางเอก คือ นางเตียวเสียน ผู้ใช้กลมารยาสตรีล่อลวงเอา ตั๋งโต๊ะมหาอุปราชผู้ชั่วร้ายคนแรก มาให้ ลิโป้สังหาร แล้วยอมไปเป็นภรรยาน้อย ของลิโป้ซึ่งมีภรรยาเดิมชื่อ นางเหงียมซี ไปเป็นใหญ่อยู่ที่เมืองชีจิ๋ว เป็นเวลานาน แต่สุดท้ายโจโฉกลัวจะเป็นเสี้ยนหนาม จึงตามมาตีเมืองแตก จับตัวลิโป้ไปประหารเสีย ส่วนภรรยาทั้งสองไม่ทราบว่าโจโฉเอาไปไว้ที่ไหน

อีกคนหนึ่งคือ นางซุนฮูหยิน น้องสาวของซุนกวนที่ต้องตกมาเป็นภรรยา เล่าปี่ เพราะเหตุผลทางการเมือง แต่นางกลับจงรักภักดีต่อสามี เหนือกว่าบ้านเมืองของตน จนเมื่อได้ทราบว่ากองทัพของสามีถูกกองทัพของพี่ชายตีแตก และเล่าปี่ถึงแก่ความตายไปด้วยความตรอมใจ นางก็ตัดสินใจโดดน้ำตายตามไป ทั้ง ๆ ที่อยู่ห่างกันคนละทิศ

นอกจากนั้น ก็ยังมีอีกหลายนาง ตอนต้นเรื่องก็คือ นางตังไทฮอ มารดาของ พระเจ้าเลนเต้ รับเอา หองจูเหียบ พระราชบุตรของฮ่องเต้ ที่เกิดจาก นางอองบีหยิน สนมเอกไปเลี้ยงไว้เนื่องจากกำพร้ามารดา ครั้นพระเจ้าเลนเต้สิ้นพระชนม์แล้ว หองจูเปียน บุตรที่เกิดจาก นางโฮเฮา มเหสีได้ครองราชสมบัติ ทั้งสองนางแม่ผัวกับลูกสะใภ้ ต่างก็อยากให้ลูกหลานของตนได้เป็นใหญ่ จึงขัดใจกัน นางโฮเฮาได้เปรียบกว่า เพราะมี โฮจิ๋น พี่ชายเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน จึงจัดการสำเร็จโทษนางตังไทฮอเสีย

ต่อมานางโฮเฮาไปคบพวกขันทีสิบคน ที่เคยทำความเดือดร้อน ตั้งแต่สมัยพระเจ้าเลนเต้แล้ว บ้านเมืองก็เกิดวุ่นวายขึ้นอีก ตั๋งโต๊ะ เจ้าเมืองซีหลงก็เลยได้โอกาส ยกทัพเข้ามาจัดการปราบจลาจลในเมืองหลวง แล้วก็ถอดหองจูเปียนออกจากบัลลังก์ ยกหองจูเหียบขึ้นเป็นฮ่องเต้ ทรงพระนามว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้ และฆ่านางโฮเฮากับหองจูเปียน ตายตามนางตังไทฮอไปด้วยทั้งสองคน

ต่อไปก็คือ นางเจ๋าซือ อาสะใภ้ของเตียวสิ้วเจ้าเมืองอ้วนเสีย ซึ่งเป็นแม่ม่ายอยู่ โจโฉถูกใจแอบเอามากกในค่ายของตน จนเป็นเหตุให้เสียทีแก่กองทัพของข้าศึก ถูกตีแตกจนเสียชีวิตของทหารเอกกับลูกชายและหลานชายไปถึงสามคน

นางตังกุยหุย สนมเอกกับ นางฮกเฮา มเหสีของพระเจ้าเหี้ยนเต้ผู้วางแผนกำจัด โจโฉ แต่ไม่แนบเนียนจึงถูกโจโฉจับเอาไปฆ่าเสียทั้งคู่ ต่างกรรมต่างวาระกัน

นางลิซุนเอี๋ยง ภรรยาน้อยของอุยกุ๋ย ซึ่งเป็นชู้กับเบียวเต๊กน้องชายของภรรยาหลวง เมื่อทราบว่าสามีไปร่วมมือกับม้าเท้งเจ้าเมืองเสเหลียง เพื่อกำจัดโจโฉ ก็ให้เบียวเต๊กนำความไปบอกให้โจโฉรู้ ม้าเท้งจึงถูกฆ่าตายไปพร้อมกับบุตรชายอีกสองคน และอุยกุ๋ยด้วย แต่สุดท้ายโจโฉเห็นว่านางลิซุนเอี๋ยงกับชู้รักเป็นคนทรยศ จึงประหารชีวิตเสียทั้งคู่

นางชัวฮูหยิน ภรรยาของเล่าเปียวเจ้าเมืองเกงจิ๋ว ญาติของเล่าปี่ ความที่รักบุตรของตัวมากกว่าบุตรภรรยาเก่าของเล่าเปียว เมื่อเล่าเปียวตายก็ทำอุบายให้ลูกตัวเป็นเจ้าเมือง แล้วยกเมืองให้โจโฉ แต่ก็ไม่รอด ถูกโจโฉฆ่าตายพร้อมกันทั้งสองคนแม่ลูก

นางชีฮูหยิน ภรรยาของซุนเซียงเจ้าเมืองตันเอี๋ยง ซึ่งเป็นน้องรองของซุนกวน แต่เป็นคนชอบเสพสุราแล้วมีกิริยาหยาบช้า ทารุณกับขุนนางจนมีผู้เกลียดชัง และร่วมมือกันฆ่า เจ้าเมืองเสีย แล้วก็ข่มขู่จะให้นางเป็นภรรยามิฉะนั้นจะฆ่าเสียอีกคน นางก็ทำเป็นยินยอมแล้วก็ร่วมมือกับลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ต่อสามี ฆ่าผู้ทรยศสองคนตัดศรีษะเอามาเซ่นศพสามีจนได้

ฝ่ายเล่าปี่เมื่อครั้งเป็นเจ้าเมืองเสียวพ่าย ถูกลิโป้ตีแตกต้องหนีไปหาโจโฉ ระหว่างเดินทางผ่านป่าแห่งหนึ่ง ได้เข้าไปอาศัยพักอยู่กับชายชาวป่าแซ่เดียวกัน ชื่อเล่าอั๋น เจ้าของบ้านเป็นคนยากจน ได้จัดหาอาหารมาเลี้ยงเล่าปี่กับผู้ติดตาม แล้วก็ให้นอนค้างคืน พอรุ่งเช้าเล่าปี่ลากลับ จะไปขึ้นม้าก็พบศพภรรยาของเล่าอั๋นนอนตายอยู่ข้างคอกม้า เมื่อสอบถามจึงได้ความว่า เล่าอั๋นไม่มีอาหารจะเลี้ยงเล่าปี่ จึงฆ่าภรรยาเอาเนื้อของนางมาทำอาหารเลี้ยงดู เล่าปี่ก็ตกใจแต่ไม่รู้จะทำอย่างได้ เพราะนางตายไปเสียแล้ว เมื่อไปพบโจโฉและเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง โจโฉก็ให้รางวัลแก่เล่าอั๋น เป็นทองร้อยตำลึง ส่วนภรรยาผู้เคราะห์ร้าย ไม่ได้แจ้งว่าชื่อแซ่ใด

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกนางหนึ่ง เป็นมารดา ชีซี ศิษย์อาจารย์เดียวกันกับ ขงเบ้ง และ บังทอง ซึ่งปลอมชื่อเป็น ตันฮก ไปสมัครเป็นที่ปรึกษาของเล่าปี่ ทิ้งมารดาไว้ที่เมืองฮูโต๋ซึ่งเป็นเมืองหลวงใหม่ ที่โจโฉเป็นมหาอุปราชผู้มีอำนาจสูงสุดอยู่ โจโฉคิดจะตัดกำลังของเล่าปี่ จึงใช้อุบายปลอมจดหมายมารดาชีซี เรียกตัวกลับ ไม่เช่นนั้นโจโฉจะฆ่ามารดาเสีย ชีซีมีความกตัญญูต่อมารดาจึงจำใจต้องลาจากเล่าปี่มา แทนที่มารดาจะดีใจมารดากลับด่าว่าโง่ไม่สมกับที่ได้เรียนดีมีความรู้ท่วมหัว จึงเข้าห้องไปผูกคอตายเสียในบัดนั้น

ส่วนเล่าปี่เดิมมีภรรยาสองคนคือ นางกำฮูหยิน มีบุตรชายชื่อ อาเต๊า นางบีฮูหยิน ภรรยารองไม่มีบุตร แต่เป็นผู้เลี้ยงอาเต๊าเหมือนบุตรของตน เมื่อครั้งที่เล่าปี่อพยพครอบครัวและประชาชนพลเมือง หนีโจโฉออกจากเมืองซินเอี๋ยไปทางเมืองตงหยง แล้วถูกกองทัพของโจโฉตามทันและเข้าตีจนแตกกระจัดพลัดพรากกันไปนั้น นางบีฮูหยินได้อุ้มเด็กชายอาเต๊า หนีไปซุกซ่อนอยู่ข้างบ่อน้ำกลางเมือง จูล่ง ทหารเอกของเล่าปี่ ตีฝ่าทหารหลายสิบหมื่นของโจโฉไปค้นหาจนพบ พยายามพาตัวกลับมา แต่นางบีฮูหยินถูกแทงขาเจ็บเดินไม่ไหว จึงวางอาเต๊าไว้ให้ แล้วโดดบ่อน้ำตายเพื่อไม่ให้เป็นภาระ จูล่งจึงอุ้มอาเต๊าฝ่าทหารของโจโฉ เอาชีวิตกลับมาหาเล่าปี่ได้สำเร็จ

ผู้หญิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองกังตั๋งสองคนพี่น้องคือ นางไต้เกี้ยว กับ นางเสียวเกี้ยว ทั้งสองมีรูปโฉมโนมพรรณสวยงาม เป็นที่เลื่องลือไปทั่วแคว้นแดนจีน เมื่อ โจโฉได้ยินกิตติศัพท์ความงามของสองนางก็หลงใหลใฝ่ฝัน พอมีอำนาจราชศักดิ์มากขึ้น จึงสร้างตำหนักคู่ชื่อ หยกหลง และกิมฮองไว้ซ้ายขวาปราสาทใหญ่ของตน ที่ริมแม่น้ำเจียงโหเมืองเงียบกุ๋น ตั้งใจว่าถ้าได้นางมาเป็นภรรยา จะให้อยู่ตำหนักทั้งสองนั้น

เมื่อโจโฉยกกองทัพบกทัพเรือ มีกำลังพลเกือบร้อยหมื่นไปตั้งอยู่หน้าเมืองกังตั๋ง เพื่อทำศึกใหญ่นั้น ขงเบ้งได้เดินทางไปเกลี้ยกล่อมซุนกวน ให้เข้าเป็นพวกเดียวกันนั้น ก็ได้วางอุบายแก่จิวยี่แม่ทัพใหญ่ของเมืองกังตั๋งว่า ถ้าจะให้โจโฉถอยทัพกลับไป ก็เพียงแต่พาคนสองคนลงเรือลำหนึ่งข้ามไปหาโจโฉเท่านั้น จิวยี่ถามว่าจะให้ส่งผู้ใดไปให้โจโฉ ขงเบ้งก็บอกว่า

“…..เมื่อเรายังอยู่ที่เขาโงลังกั๋งนั้น แจ้งว่าโจโฉได้ทำปราสาทไว้แห่งหนึ่ง อยู่ริมแม่น้ำเจียงโหเป็นที่สบาย แล้วจัดเอาผู้หญิงรูปงามมาไว้เป็นอันมาก ด้วยมีน้ำใจกำเริบในมาตุคามอยู่ แล้วรู้ว่านางเกียวก๊กโล่ อยู่ ณ เมืองกังตั๋ง มีบุตรหญิงสองคนรูปร่างงามหาหญิงใดเสมอมิได้ โจโฉมีน้ำใจผูกพันอยู่ ได้ว่าไว้ว่าถ้ารบเมืองกังตั๋งได้แล้ว จะรับเอาหญิงสองคนนี้ไว้เป็นที่บำเรอของตัว ถึงมารตว่าจะตายไปก็มิพะวักพะวนน้ำใจ ซึ่งโจโฉยกทหารมาถึงร้อยหมื่นนี้ ก็เพราะปรารถนาหญิงสองคนเป็นเค้ามูล……..”

จิวยี่ก็ถามว่ามีสิ่งใดเป็นสำคัญ ขงเบ้งก็ว่า โจโฉได้ผูกเป็นโคลงไว้ มีใจความว่า

“……..ปรัศน์ซ้ายขวาซึ่งเราทำไว้ ชื่อว่าหยกหลงกับกิมฮอง ข้าจะกอดนางสองเกี้ยวไว้ทั้งซ้ายขวา ให้มีความสุขทุกเวลา มิให้อนาทรเลย…….”

จิวยี่ได้ฟังออกชื่อนางสองเกี้ยวดังนั้น ก็โกรธดังเอาเพลิงเข้าไปจุดในหัวใจ จึงลุกขึ้นชี้มือไปทางทิศเหนือตรงเมืองเกงจิ๋ว ร้องว่าอ้ายศัตรูเฒ่าโอหังเจรจาประมาทกูเล่น ว่าแล้วก็ตัดสินใจที่จะรบกับโจโฉให้แตกหักทันที

ความลับที่ขงเบ้งเอาไปเปิดเผย จนจิวยี่โกรธจนตัวสั่นนี้เป็นความจริง เพราะโจโฉเองก็ได้เปิดเผยด้วยตนเอง ในคืนวันหนึ่งบนเรือธงของโจโฉ ที่เตรียมพร้อมจะเข้าตีเมืองกังตั๋งในวันรุ่งขึ้น ซึ่งโจโฉเลี้ยงดูแม่ทัพนายกองของตนจนได้ที่ดีแล้ว ก็ลุกขึ้นกล่าวปราศรัยแก่ทหารทั้งปวงว่า

“……อันอายุเรานี้ก็ได้ห้าสิบปีแล้ว แม้ได้เมืองกังตั๋งก็จะมีความยินดีอยู่หน่อยหนึ่ง ด้วยแต่ก่อนนั้นเรารู้จักกับนางเกียวก๊กโล่ แลนางเกียวก๊กโล่มีบุตรหญิงสองคน รูปร่างงามกว่าหญิงทั้งปวง เราคิดพอใจอยู่ แต่ว่าเผอิญให้พลัดไปเป็นภรรยาซุนเซ็กคนหนึ่ง เป็นภรรยาจิวยี่คนหนึ่ง เมื่อเราไปรบได้เมืองกิจิ๋วนั้น เราให้สร้างเมืองใหม่ทำปราสาทไว้ที่ริมแม่น้ำเจียงโห ครั้งนี้ถ้าเราได้เมืองกังตั๋ง เราจะพาหญิงสองคนนี้ไปอยู่ ณ ปราสาทเมืองกิจิ๋ว จะได้ปรนนิบัติเราให้เป็นที่ชอบใจ กว่าจะสิ้นชีวิตในที่นั้น……..”

เรื่องก็เป็นที่กระจ่างแจ้งแล้วว่า เหตุใดจิวยี่จึงตัดสินใจรบกับโจโฉ ทั้ง ๆ ที่มีกำลังพลน้อยกว่าถึงยี่สิบเท่า ส่วนที่ว่านางเป็นบุตรหญิงของ นางเกียวก๊กโล่ นั้น มีอยู่ในฉบับของท่าน เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เท่านั้น ส่วนฉบับอื่น ๆ ที่แปลมาจากภาษาจีนโดยตรง หรือแปลมาจากภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลมาจากภาษาจีนอีกทอดหนึ่งนั้น ยืนยันว่าเกียวก๊กโล่เป็นผู้ชาย

นางแซ่เกียวทั้งสองนั้น จะเป็นบุตรีของใครก็ช่างเถิด แต่ก็สามารถทำให้เมือง กังตั๋งเอาชนะโจโฉได้อย่างเด็ดขาด เป็นที่เลื่องลือกันมานับพันปี โดยอาศัยแต่เพียงชื่อของนางทั้งสองนี้เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่นางเองก็ไม่ได้ออกมามีบทบาท หรือปรากฎตัวออกมาทำอะไรในเรื่องสามก๊กเลยแม้แต่น้อย.

############

วางเมื่อ ๑๔ ม.ค.๕๖ เวลา๑๑.๑๓
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่